posttoday

เรื่องง่าย ที่กลายเป็นยาก

19 มิถุนายน 2559

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวการจะเข้าจับกุมเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นที่สนใจของสื่อสารมวลชน ประชาชนคนทั่วไปทั้งประเทศ

โดย...ส.คลองเตย

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวการจะเข้าจับกุมเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นที่สนใจของสื่อสารมวลชน ประชาชนคนทั่วไปทั้งประเทศ ในความสนใจนั้น บางคนทึกทักว่าเข้าใจในเรื่องราวถึงขั้นแบ่งฝ่ายคล้ายการเมือง บางคนแสดงอาการมั่นใจว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายกระทำผิดต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดรวดเร็ว ความเห็นของคนมาจากพื้นฐานที่ต่างกัน บางคนเป็นสัมมาทิฐิ และบางคนก็ตรงกันข้าม กลุ่มหลังนี้เป็นคนหน้าเดิมๆ ไม่ต้องเอ่ยชื่อก็พอเดาออก

นอกจากนั้น คนอีกจำนวนมากที่งงกับข่าวสารระหว่างรัฐบาล ที่มี DSI เป็นกลไก เมื่อมีคนหน้าเดิม ทั้งพระและฆราวาส รวมทั้งศิษย์วัดพระธรรมกายเก่า คอยให้จังหวะและเติมเชื้อ ผลักดันด้วยวิธีการนานาชนิด จึงเห็นศิษย์เก่าธรรรมกายบางคนถึงกับโกนหัว เหมือนว่าไม่อยากลืมอดีตที่เคยเป็นพระ จึงทำให้คนที่งงๆ กับการทำงานของรัฐบาล ยิ่งไขว้เขวมากขึ้น

เรื่องนี้เหมือนบทละครตอนหนึ่งของการล้มล้างสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ไม่ให้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชอย่างถาวร หากติดตามข่าวจะเห็นขบวนการนี้ชัดเจน จนทำให้เกิดตีความว่าเป็นขบวนจับพระพุทธศาสนามาทำหมันก็ไม่ผิด เพราะจับหัวหน้าขึงพืดได้ ลูกน้องก็เดินตามลำบาก กลายเป็นม้าขาเก

ส่วนฝ่ายจ้องล้ม จ้องจับ ยังเคลื่อนไหวโดยไม่รู้เหน็ดเหนื่อย น่าจะเอาพลังนั้นไปสืบค้นดูว่าธรรมกายช่วยพระพุทธศาสนาอย่างไร เอาแค่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ธรรมกายเดินหน้าเป็นเพื่อนชาวพุทธที่ตกที่นั่งลำบากมา 12 ปี แล้วก็พอ แต่กลับไปหาความให้ธรรมกายล้ม อย่าให้คิดเลยเถิดไปมากกว่านี้ว่าท่านทำเพื่อใคร

เมื่อกลับไปดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนต่างๆ ที่เคยจัดตั้งขบวนการขับไล่อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ตอนนี้ลี้ภัยต่างประเทศ จะเห็นคนหน้าเดิมๆ ที่เป็นแกนนำในช่วงนั้นผสมเสมอ เหมือนขบวนการที่ตั้งหลักแถวศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะในอดีต เมื่อเห็นแล้วก็พอเข้าใจได้ว่า การเคลื่อนไหวเรื่องจับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เหมือนละครเเห่งการยึดอำนาจรัฐบาลสงฆ์ เพราะแต่ละตอนแต่ละเหตุการณ์รวมทั้งเรื่องเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นเรื่องง่ายๆ แต่กลายเป็นเรื่องยากเรื่องยาว จนทำท่าจะวุ่นวายเกินควบคุมมากเข้าไปทุกขณะ

 ส่วนการรับเงินบริจาคจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งผู้บริหารต้องโทษอยู่ในเรือนจำนั้น เม็ดเงินที่วัดได้รับบริจาค ได้รับการยืนยันจำนวนในเบื้องต้นจำนวนหนึ่ง ซึ่งวัดได้บริจาคคืนให้จนทำให้สหกรณ์แห่งนี้มีทุนหมุนเวียน ดำเนินกิจการได้อยู่ทุกวันนี้ ผู้บริหารที่บริหารงานสหกรณ์ก็ไม่ติดใจในการดำเนินคดีใดๆ ต่อไป

เรื่องอย่างนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายในกรณีนี้ เพราะเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีและเป็นเรื่องยาก เพราะ DSI ได้ดำเนินการติดตามหาเงินที่สหกรณ์เสียหายเพิ่ม โดยตั้งเป้าไล่ล่าจับกุมเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างเกาะติด ในขณะที่เงินสหกรณ์อีกจำนวนมากที่เสียไปในการอื่นและบุคคลอื่น ในจำนวนที่มากกว่าที่บริจาคให้วัดและได้คืนแล้ว กลับไม่ปรากฏข่าวว่า DSI สนใจจะทำคดีแต่ประการใด ประหนึ่งว่าคดีนี้มีจำเลยคนเดียว คล้ายกรณีรถเบนซ์หรูหลายพันคัน หลายพันคดี แต่ DSI ตามติดจะดำเนินคดีต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์รูปเดียว

ครั้นเมื่อเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายมีการแถลงข่าวว่าอาพาธ เชิญ DSI เข้าไปตรวจสอบในวัด ถ้าไปก็จบ ก็ง่าย แต่ DSI ก็มีกฎกติกาของตนจนกลายเป็นเรื่องยาก ตอนนี้จึงดูวุ่นวาย ราวกับรัฐบาลจะทำสงครามกับพระและศิษย์วัดพระธรรมกายไปแแล้ว ไม่น่าทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยากเลย หรือต้องการให้มีแรงปิดกั้นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ให้สมเหตุสมผลยิ่งขึ้น