โดย...สมาน สุดโต
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ร่วมจัดงานสมโภช 40 ปี สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 24-26 มิ.ย. 2559 ณ วัดนวมินทรราชูทิศ เมืองเรย์นแฮม รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกำหนดให้มีการประชุมนานาชาติด้านพระพุทธศาสนาในคราวเดียวกัน
ในการนี้พระพรหหมบัณฑิต (ประยูร) อธิการบดี มจร เดินทางไปพร้อมด้วยคณะพระอนุจร 18 รูป ซึ่งมหาเถรสมาคม (มส.) อนุมัติ ตามที่ขอมา
คณะสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ได้รวมตัวก่อตั้งองค์กรการปฏิบัติงานของคณะสงฆ์ไทย ฝ่ายมหานิกาย โดยยื่นขอจดทะเบียนองค์การทางศาสนาที่ไม่แสวงหากำไรตามกฎหมายของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2519 (ค.ศ. 1976) โดยเรียกชื่อว่า สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา (ส.ท.ส.) The Council of Thai Bhikku in the USA (C.T.U.) ปัจจุบันพระเทพพุทธิวิเทศ (ประชัน) เป็นประธาน และพระครูสิริอรรถวิเทศ เป็นเลขาธิการ
อนึ่ง เมื่อพระครูสิริอรรถวิเทศเดินทางมาประชุมวิสาขบูชาโลก วันที่ 22-23 พ.ค. 2559 ที่ประเทศไทย ได้เมตตาให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ ประเด็นแรกรายงานไปแล้ว วันนี้จะรายงานเรื่องแผนพัฒนาศักยภาพพระธรรมทูต เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเผยแผ่เข้าถึงชุมชนผู้สนใจได้มากที่สุด และให้สอดคล้องกับการขยายตัวของผู้นับถือพระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกาที่ขยายอย่างต่อเนื่อง
พระ ดร.มหาถนัด หรือพระครูสิริอรรถวิเทศ เลขาธิการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า พระพุทธศาสนาในสหรัฐอเมริกา มีความเจริญก้าวหน้า ตามข้อเท็จจริงแล้วคนอเมริกันเขานับถืออยู่ก่อน บางคนอาจไม่ได้ปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ แต่เขาศึกษาหลักธรรม นำไปปฏิบัติ เพราะสมาธิอย่างเดียวก็ดับทุกข์ได้
สังคมอเมริกันเป็นสังคมแห่งการแข่งขันและต่อสู้ในการทำมาหากิน เพราะฉะนั้นจะเกิดความเครียด หรือ Stress เมดิเตชั่น หรือวิปัสสนานี้ช่วยได้ โดยท่านได้จัดอบรมนั่งสมาธิเพื่อการผ่อนคลายและได้รับความสนใจมาก ทุกคนเห็นว่าดีกว่าไปหาจิตแพทย์ เพราะนั่งสมาธิทำจิตใจให้สงบ หลายคนหายปวดหัว บางคนเป็นไมเกรนต้องกินยาก็ได้แค่บรรเทา แต่นั่งสมาธิแล้วหายขาด นี่คือแนวปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาที่เป็น Practical
สรุปว่าชาวตะวันตกหรืออเมริกัน ประพฤติปฏิบัติอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ประกาศตัวตนเท่านั้น สิ่งนี้ยืนยันจากการสอนการเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีเรียนมีสอนเรื่องพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าโรงเรียนระดับมัธยมจะส่งนักเรียนมาเรียน มาทำรายงาน มาทัวร์วัดเป็นกลุ่มๆ แต่ละปีมีไม่น้อยกว่า 100 โรงเรียน เพราะพระพุทธศาสนาเป็นวิชาเลือก ก็เหมือนศาสนาทั่วไป
ถามว่า อเมริกันสนใจพระพุทธศาสนาขนาดนี้ จำนวนพระธรรมทูตเพียงพอหรือไม่ ท่านพระครูสิริอรรถวิเทศ กล่าวว่า งานเผยแผ่พระพุทธศาสนาและงานพระธรรมทูตต้องพัฒนาศักยภาพทางด้านภาษา เพื่อให้สามารถนำหลักธรรมเข้าสู่จิตใจชาวต่างชาติได้ จริงอยู่ เรามีมีวัด (ไทย) ร้อยกว่าวัด พระธรรมทูต 500 กว่ารูป ในสหรัฐอเมริกา ไม่รวมยุโรป ก็สามารถเสิร์ฟชุมชนที่เป็นชาวพุทธ ทั้งไทย กัมพูชา เวียดนาม และลาว ชาติอาเซียนและอเมริกันที่เป็นคนท้องถิ่นได้ แต่เมื่อเทียบกับปริมาณในการทำงานเชิงรุกที่จะเอาพระพุทธศาสนาไปสู่คนท้องถิ่น แท้จริงแล้วยังไม่เพียงพอ เราต้องพัฒนาศักยภาพด้านภาษา ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญ
เรื่องหลักธรรมก็สำคัญ พระธรรมทูตต้องมีความหนักแน่น ต้องมี 2 อย่างคือ ภูมิธรรม และภูมิปัญญา หรือต้องแม่นพระปริยัติ และต้องชำนาญในการปฏิบัติธรรม
2 ข้อนี้เป็นหลักสำคัญ
ถามว่า ใครจะเป็นผู้ช่วยในการพัฒนาสิ่งนี้ให้พระธรรมทูต พระครูสิริอรรถวิเทศ ตอบว่า มหาจุฬาฯ (มจร) มหามกุฏฯ (มมร) มีโครงการอบรมพระธรรมทูต 3 เดือน โดยเลือกพระที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าอบรม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะพระธรรมทูตพูดภาษาอังกฤษยังไม่รู้เรื่อง หรือได้แค่สื่อสาร หรือทำความเข้าใจเฉยๆ แต่ยังไม่ได้ภาษาธรรม หรือวิชาการ เช่น ไม่สามารถขึ้นกล่าวปาฐกถาได้ เป็นปมด้อยอย่างหนึ่ง
ในเรื่องนี้ มจร พยายามยกระดับการอบรมพระธรรมทูตขึ้นมาเป็นวิทยาลัยพระธรรมทูต ซึ่งเห็นด้วยที่ต้องพัฒนาจุดนี้
ในส่วนสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ก็มีโครงการเสริม เรียกว่า โครงการอบรมเสริมความรู้พระธรรมทูต นอกจากพระครูสิริอรรถวิเทศได้จัดโครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐาน และปริวาสกรรม ตอนนี้ทำที่วัดพุทธออเรกอน จัดมาเป็นปีที่ 6 โดยนิมนต์พระธรรมทูตระดับเจ้าอาวาสไปนั่งกรรมฐาน เข้าคอร์สเป็นสิบคอร์ส ก็ได้ผลระดับหนึ่ง
ที่กำลังเริ่มที่วัดมหาชนก ที่จอร์เจีย คือจัดตั้งวิปัสสนาคอลเลจขึ้นมา หลังจากนิมนต์พระเข้าคอร์ส 10 วัน ทำติดต่อกันมา 5 ปี พอขึ้นปีที่ 6 ไม่เอา 10 วัน เพราะน้อยไป เอาทั้งพรรษาเลย ปรากฏว่ามีพระเข้าโครงการ 20 กว่ารูป
ล่าสุดสมัชชามีมติในการประชุมล่าสุดที่วัดสุทธาวาส ริเวอร์ไซด์ ว่าต้องทำใน 4 ด้าน คือ บริหาร การเผยแผ่ การศึกษา และสาธารณูปการและศาสนาสงเคราะห์ เน้นการพัฒนาพระธรรมทูต และพัฒนาญาติโยมที่เข้ามาศึกษาทั้งนักธรรมและบาลี ภาษาอังกฤษ และภาษาถิ่นที่เขาต้องการ และการช่วยเหลือสงเคราะห์เมื่อเกิดอุบัติภัย
ตอนท้ายท่านกล่าวว่า พระธรรมทูตไปทำหน้าที่เผยแผ่ ธำรงรักษาพระศาสนาในต่างแดน ตามไปอำนวยความสะดวก และรักษาศรัทธาพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศในต่างแดน และทำงานหนักกว่าพระสงฆ์ไทยในประเทศไทยบางแห่ง เพราะต้องทำงานรอบด้านตั้งแต่เณรน้อย สมภาร นักบริหาร นักเผยแผ่ เป็นหมอและพยาบาลรอบตัว จึงขอให้เข้าใจว่าเราไปเพื่อประกาศศาสนา ประกาศความเป็นไทยวัฒนธรรม วัฒนธรรมชาวพุทธ
หัวใจพระพุทธศาสนา
วันที่ 24 มิ.ย. 2561
ธรรมะซัมเมอร์แคมป์ บวชฝึกตนเป็นคนดี
วันที่ 04 เม.ย. 2561
วันแห่งความรักอีกครั้ง
วันที่ 01 มี.ค. 2561
ถึงเวลาผ่าตัดระเบียบบริหารกิจการคณะสงฆ์แล้วครับ
วันที่ 11 ธ.ค. 2560
การปฏิรูปกิจการ พระพุทธศาสนา (2)
วันที่ 17 ก.ย. 2560