posttoday

เปรตวัดสุทัศน์

13 มีนาคม 2559

ภาพเก่าเล่าเรื่อง ฉบับที่ผ่านมา เสนอภาพอีแร้งวัดสระเกศ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้อ่านมากพอสมควร

โดย...ส.สต

ภาพเก่าเล่าเรื่อง ฉบับที่ผ่านมา เสนอภาพอีแร้งวัดสระเกศ ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้อ่านมากพอสมควร ฉบับนี้ผู้เขียนจึงเสนอเรื่อง เปรตวัดสุทัศน์ ตามสำนวนคล้องจอง อีแร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ แต่การหาภาพเก่า หรือภาพใหม่ที่คนถ่ายภาพเปรตไว้ นั้นจนปัญญา เพราะไม่มีใครเห็นเปรต จนกระทั่งถ่ายภาพได้ นอกจากไปหาภาพเขียนฝาผนัง ที่วิหารหลวงวัดสุทัศน์ ซึ่งมีพระศรีศากยมุนี เป็นประธาน จึงไม่ผิดหวัง เมื่อเจ้าหน้าที่เฝ้าวิหาร และหลวงพี่อีกรูปหนึ่งชี้ให้ดูภาพเขียนเปรต ที่เสาต้นที่ 4 ภายในวิหาร ซึ่งอยู่สูงพอสมควร จึงใช้กล้องนิคอน G16 ซูม จึงได้ภาพมาเสนอท่านผู้อ่าน

คำว่าเปรตนั้น พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ให้ความหมายไว้ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ว่า 1 ผู้ละโลกนี้ไปแล้ว 2 สัตว์จำพวกหนึ่งซึ่งเกิดอยู่ในอบาย ชั้นที่เรียกว่าปิตติวิสัย หรือเปตติวิสัย (แดนเปรต) ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะอดอยาก ไม่มีจะกิน แม้เมื่อมีกินก็กินไม่ได้ หรือกินได้โดยยาก

ส่วนการเล่าเรื่องเปรตตามความเชื่อของไทย สืบเนื่องจากข้อความที่มีในคัมภีร์พระมาลัย ที่เล่าเรื่องเปรตไว้มากตามเรื่องที่พระมาลัยเถรเจ้า ชาวศรีลังกาไปโปรดสัตว์นรก กลับมาแล้วเล่าเรื่องเตือนใจไม่ให้ก่อกรรมทำเข็ญ เรื่องดังกล่าวถูกเขียนเป็นคัมภีร์เรียกว่าคัมภีร์พระมาลัย และคัมภีร์นี้มีภาคภาษาไทย และภาษาบาลี พิมพ์เป็นแผ่นพับลักษณะคล้ายสมุดข่อย บรรจุอยู่ในหีบพระธรรม ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าพระที่สวดศพ ตามวัดต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่พระไม่เคยเปิดคัมภีร์นั้นมาสวดหรือเล่าให้โยมฟัง ส่วนบทที่สวดศพกลับเป็นพระธรรม 7 บท พระอภิธรรม หรือพระธรรมหลวง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์พระมาลัยที่อยู่ในหีบนั้นแต่อย่างใด

พระมหาประนอม ธมฺมาลงฺกาโร แห่งวัดจากแดง สมุทรปราการ กล่าวไว้ในพระธรรมเทศนา ที่ยุวพุทธิกสมาคมว่า สังคมไทยในสมัยสุโขทัยนิยมฟังเทศน์เรื่อง ไตรภูมิกถา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา นิยมฟังเรื่องพระมาลัย ที่เล่าเรื่องคนทำกรรมชั่วอะไรไว้จะไปเกิดเป็นผีเปรตต่างๆ ส่วนในยุครัตนโกสินทร์ นิยมฟังเทศน์มหาชาติ ท่านจึงฝากให้คิดว่าศีลธรรมคนในประเทศนี้อยู่ดี หรือเพี้ยนไปอย่างไรแล้ว (เมื่อไม่ได้ฟังเรื่องพระมาลัย)

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในเว็บไซต์ว่า ผีเปรตในตำนานผีไทยมีอยู่ 12 ตระกูลใหญ่ๆ และ 19 จำพวก แต่ที่พูดกันเสมอคือ เปรตเป็นผีชนิดหนึ่งที่มีลำตัวสูง บ้างว่าสูงเท่าต้นตาล  บ้างว่าสูงเท่าเสาชิงช้าวัดสุทัศน์ บ้างว่าสูงเท่ายอดธง  ใครอยากเห็นเปรต ให้ไปดูรูปปั้นเปรตชนิดต่างๆ ที่วัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ที่หลวงพ่อขอม หรือพระครูอุภัยภาดารักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่โรงวัว ท่านสั่งให้ช่างสร้างไว้ประมาณปี พ.ศ. 2500

ส่วนภาพเขียนที่เสาต้นที่ 4 ในวิหารวัดสุทัศน์ เป็นรูปเปรตนอนเหยียดยาวกับพื้น ซึ่งดูโครงสร้างแล้วเป็นเปรตที่มีความสูง ที่เรียกว่าสูงเท่าต้นตาล มือใหญ่ ปากอาจเท่ารูเข็ม โดยมีพระสงฆ์ 10 รูป ยืนเข้าคิวเทน้ำจากบาตรลงในปากเปรตที่นอนอยู่ (แสดงว่าเปรตนี้ยังมีวิญญาณ)

เรื่องเปรตวัดสุทัศน์นี้มาแรงขนาดที่มีคนเขียนเป็นนวนิยาย และสร้างเป็นละครโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2546 ออกอากาศทางช่อง 7 มาแล้ว

คนเป็นๆ มีสติ ก็เคยสร้างตำนานเปรต เช่น เรื่องเปรตกู้ ที่บ้านคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พ.ศ. 2543 เป็นข่าวครึกโครมทางหน้าหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ ต่อมาพิสูจน์ว่าเป็นการจัดฉากของคนผู้หนึ่งเพื่อหลอกลวงชาวบ้านให้หลงเชื่อ

เมื่อเดือน ต.ค. 2558 ก็มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ เรื่องอาบัติ ก่อนฉายก็เป็นข่าวครึกโครม เพราะมีการประท้วงที่เป็นเรื่องในวัด แต่พาดพิงพระสงฆ์ทั่วไปในเชิงลบ ทั้งๆ ที่เป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องกรรม ที่คนทำชั่วไว้ ตายแล้วเกิดเป็นเปรต

เปรตเกิดจากคนที่ไม่ต้้งอยู่ในกุศลกรรมบถ 10 ประกอบกรรมชั่ว เมื่อมีชีวิตอยู่ก็เป็นมนุสสเปโต ตายไปก็เป็นผีเปรต