posttoday

คำถาม ที่ควรตอบ... คำตอบ ที่ควรพิจารณา!!

07 ธันวาคม 2557

ปุจฉา ๑ : กราบนมัสการ พระอาจารย์อารยะวังโส ...เคยได้ยินได้ฟังมาว่า หากวัดใดไม่มีกฐินเข้าวัด ในปีนั้น พระวัดนั้นก็จะสึกไม่ได้...

ปุจฉา ๑ : กราบนมัสการ พระอาจารย์อารยะวังโส  ...เคยได้ยินได้ฟังมาว่า หากวัดใดไม่มีกฐินเข้าวัด ในปีนั้น พระวัดนั้นก็จะสึกไม่ได้...

แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเรียนถาม ท่านหลวงปู่ทุย วัดป่าดานวิเวก จ.บึงกาฬ ท่านบอกสึกได้ครับ ถึงแม้จะมีหรือไม่มีกฐินก็ตาม เพราะวัดของท่านหลวงปู่ ไม่มีกฐินมาเกือบสิบปีแล้ว... ทำให้ข้าพเจ้าและคณะที่ไปด้วย รู้สึกมึนงงกับความเชื่อที่รู้มา จึงเรียนถามมายังท่านพระอาจารย์ ได้โปรดตอบเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยครับ   ... อุดม  ธำรงวรางกูร

วิสัชนา : เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา... จากคำถามเรื่อง วัดไม่รับกฐิน หรือกฐินไม่เข้าวัด พระวัดนั้นลาสิกขาไม่ได้ ใช่หรือไม่!? เพื่อประกอบการเรียนรู้ จึงขอยกหลักธรรมที่เป็นไปเพื่อการลาสิกขามีองค์ ๖ ได้แก่ ๑.จิตฺต... ผู้สละสิกขามีจิตใจต้องการเป็นคฤหัสถ์ การพูดสละสิกขาเล่นๆ หากไม่มีเจตนา ไม่สำเร็จการลาสิกขา

๒.เขตฺต... การสละสิกขานี้ ต้องใช้คำพูดที่ท่านกำหนดเป็นขอบเขตไว้เป็นต้นว่า “พุทฺธํ ปจฺจกฺขามิ, คิหีติ มํ ธาเรหิ” การใช้คำพูดกำหนดเป็นขอบเขต จึงจะสละสิกขาได้สำเร็จ ในสมัยนั้นใช้คำลาสิกขาว่า“สิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ, คิหีติ มํ ธาเรหิ” แปลว่า ข้าพเจ้าสละสิกขา, จงจำกระผมไว้ว่าเป็นคฤหัสถ์ ณ บัดนี้เถิด

๓.กาล... ต้องใช้ปัจจุบันกาล ดังคำบาลีที่ว่า ...ปจฺจกฺขามิ, ธาเรหิ หรือในคำแปลที่ว่า... ณ บัดนี้ ซึ่งแสดงความเป็นปัจจุบันกาล การลาสิกขาจึงจะสำเร็จได้... หากแสดงไปในกาลอนาคต หรืออดีตกาล ย่อมไม่สำเร็จ

๔.ปโยค... ต้องกล่าวด้วยปาก จึงจะสละสิกขาสำเร็จ การเขียนและการโบกมือ, พยักหน้า ไม่สำเร็จ!

๕.ปุคฺคล... ผู้รับฟังต้องเป็นมนุษย์ผู้รู้ มีความเป็นบุคคลปกติ ไม่เป็นคนบ้า ไม่เป็นคนจิตกระสับกระส่าย ต้องทุกขเวทนา คำว่า มนุษย์ผู้รู้นั้น จะเป็น บุรุษ สตรี จะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิตก็ตาม หากเป็นผู้รู้
เดียงสา ย่อมเป็นอันลาสิกขาสำเร็จ

๖.วิชานนฺ... ความเข้าใจ คือ รู้ว่าเมื่อเขากล่าวคำลาสิกขา “สิกฺขํ ปจฺจกฺขามิ,คิหีติ มํ ธาเรหิ” ก็เป็นคฤหัสถ์แล้ว

สรุปการลาสิกขาให้ถูกต้องสมบูรณ์ ต้องครบองค์ ๖ ตามที่กล่าวมา ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องไม่มีกฐินเข้าวัดแต่อย่างใด!!

จากที่กล่าวมา คือ ความสำเร็จในการลาสิกขา ซึ่งไม่มีเรื่องต่างๆ เข้ามาเป็นกฎเกณฑ์ จึงเชื่อว่า คงพูดกันไปเองในแต่ละหมู่คณะ เพื่อหวังประโยชน์อย่างอื่น!?

ปุจฉา ๒ : จะจัดระเบียบคณะสงฆ์และศรัทธาญาติโยมที่เดินทางไปแสวงบุญในอินเดีย-เนปาลอย่างไรดี เพื่อให้ถูกต้อง สวยงาม และจะแก้ปัญหาพระทุศีลสร้างโครงการค้าบุญมาหากินหลอกลวงญาติโยมอย่างไร!?

วิสัชนา : คงไม่ต้องไปจัดระเบียบอะไรหรอก เพราะพระธรรมวินัยที่แสดงความเป็นระเบียบแบบแผนข้อปฏิบัติในพระพุทธศาสนา ทั้งของบรรพชิตและคฤหัสถ์ก็มีอยู่แล้ว ดังปรากฏอยู่ในพระวินัยทั้งของพระภิกษุและวินัยของอุบาสก-อุบาสิกา สำคัญคือ ความสำนึกในฐานะเป็นพุทธบริษัท ต่างหากเป็นสำคัญ  ความสำนึกดังกล่าวนั้นต้องเกิดขึ้นด้วยอำนาจสัมมาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นชอบ ถูกต้อง ตรงธรรม ก็จะเกิดความสำนึกที่ดี นำไปสู่ ความดำริชอบ ไม่ขัดแย้งธรรม จึงถือปฏิบัติตรงตามธรรม เป็นฝ่ายกุศลจิต ด้วยปัญญารู้ชอบ...แต่ถ้าอับปัญญา ด้วยมีความเห็นผิด ความดำริผิด... จิตสำนึกมันก็ต่ำและตกไปจากพระพุทธศาสนา... ขาดจากพระรัตนตรัย เสื่อมจากคุณพระรัตนตรัย... ดังเช่น... พระภิกษุและญาติโยมไปประกอบพิธีบวงสรวงเซ่นสังเวยเทวดา หรือประกอบเดรัจฉานกถา ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง จำพวกอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อยู่ยงคงกระพัน จัดสร้างบูชาเทววัตถุทั้งหลาย ฉิบหายจากฐานะแน่นอน ให้เป็นพระภิกษุก็ขาดจากพระรัตนตรัย... เป็นญาติโยมก็ขาดจากพระรัตนตรัย... หรือไปเชื่อหมอดู หมอเดา เล่นเวทมนตร์กลคาถา ก็ให้เสื่อมไปจากคุณพระรัตนตรัย ...อาตมาเห็นข่าวประเภทนี้ลงโฆษณาในสื่อบ่อยๆ ที่มีพระภิกษุผู้ใหญ่...ผู้น้อย เข้าไปเป็นเจ้าพิธี ปลุกเสกวัตถุนิยมประเภทนอกศาสนา ชักนำญาติโยมไปกราบบูชาเทวดา...เทวโด่งทั้งหลาย ฉิบหายจากฐานะทั้งนั้น จึงไม่ต้องตรวจวัด เรื่องศีลหรือสิกขาบทข้ออื่นให้เมื่อย... เพราะแค่ที่เห็นปรากฏเชิงประจักษ์ก็กลับบ้านเก่ากันเป็นแถวๆ แล้ว... แต่หากเป็นการจัดสร้างเพื่อการระลึกถึง... เพื่อการกราบสักการบูชาในองค์คุณพระรัตนตรัย ประเภทพระพุทธรูปทั้งหลาย ด้วยการเคารพนอบน้อมบูชาด้วยจิตใจที่มีศรัทธายิ่ง ดุจดังพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ก็ย่อมเป็นมงคล โดยเฉพาะการรู้เข้าใจไปในธัมมลักษณะ ที่ปรากฏอยู่ในวัตถุมงคลนั้น ที่นำไปสู่ความรู้แจ้งในธรรมของความเป็นพุทธะก็ยิ่งประเสริฐยิ่ง นับเป็นมงคลที่เหนือมงคลทั้งปวง... การจัดสร้างพระพุทธรูปทั้งหลาย จึงต้องถูกต้องตามพุทธลักษณะและธัมมลักษณะ เพื่อเป็นการเพิ่มพูน ศรัทธาปสาทะ อย่างมีสติปัญญาที่ถูกต้องตามวิถีพุทธ

สำหรับบรรดาพวกทุศีล คิดจัดงานบุญ... สร้างโครงการพัฒนาต่างๆ เพื่อปล้นเงินญาติโยมนั้น... เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตา แนะนำบอกกล่าวกันไปให้ทราบ จะได้รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของ
อัปรีย์ชนพวกนี้...

เจริญพร