posttoday

วัดพระพิเรนทร์ เชิญทำกิจกรรมเพื่อสังคม

20 กรกฎาคม 2557

วัดพระพิเรนทร์ เป็นวัดราษฎร์เล็กๆ ย่านคลองถม แต่มีกิจกรรมเพื่อสังคม

วัดพระพิเรนทร์ เป็นวัดราษฎร์เล็กๆ ย่านคลองถม แต่มีกิจกรรมเพื่อสังคม เพราะเจ้าอาวาสรุ่นต่อรุ่นสืบสานปณิธานอดีตเจ้าอาวาสรูปก่อนสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการบำเพ็ญกิจกรรมเพื่อสังคม ตามโครงการทำบุญบริจาคซื้อโลงศพเพื่อพระมรณภาพที่โรงพยาบาลสงฆ์ซึ่งไม่มีญาติ และศพอนาถา (อื่นๆ) โดยทางวัดอาสาจัดการศพนับตั้งแต่การจัดหาโลงศพ การบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจในที่สุด

m ทำศพพระไม่มีญาติมานาน 63 ปี

พระครูภัทรกิตติสุนทร (พระมหาแถม) เจ้าอาวาสวัดพระพิเรนทร์ กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการเพื่อสังคม ทางวัดทำต่อเนื่องมาจากหลวงพ่อเจ้าอาวาสรูปก่อนๆ

เจ้าอาวาสที่ริเริ่มโครงการนี้ ได้แก่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพคุณาธาร (ผล ชินปุตฺโต) ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ. 24842512 ทั้งนี้เพราะหลวงพ่อผู้มีความชำนาญในการก่อสร้างและมีบทบาทร่วมกับพระเถระในการก่อสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ ตั้งแต่เริ่มสร้าง เมื่อ พ.ศ. 2492 จนแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการเมื่อ พ.ศ. 2494

ในช่วงที่พระเทพคุณาธารเป็นเจ้าอาวาสนั้น ฌาปนสถานวัดพระพิเรนทร์ เป็นที่รู้จักของชาวพระนคร ดังที่คนปัจจุบันรู้จักเมรุวัดธาตุทองและวัดโสมนัส เป็นต้น ว่ามีความพร้อมทั้งด้านฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ) และสถานที่เก็บศพ ดังนั้นเมื่อมีพระมรณภาพที่โรงพยาบาลสงฆ์ วัดพระพิเรนทร์จึงกลายเป็นสถานที่เก็บศพพระไปด้วย

เมื่อพระมรณภาพ โรงพยาบาลสงฆ์จะส่งศพมาเก็บไว้ที่วัดพระพิเรนทร์ บางรูปมีญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลตามถิ่นฐานวัดเดิมทั้งในกรุงและต่างจังหวัด หรือมิเช่นนั้นญาติก็จัดพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดพระพิเรนทร์นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม มีศพพระสงฆ์ที่เก็บไว้จำนวนหนึ่งไม่มีญาติมารับ เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี หลวงพ่อจะดำเนินการฌาปนกิจครั้งหนึ่ง โดยกำหนดให้วันสงกรานต์ของทุกปีเป็นวันฌาปนกิจศพพระไม่มีญาติ แต่ละปีจะมี 10 ศพขึ้นไป จึงกลายเป็นประเพณีเผาศพพระไม่มีญาติที่วัดพระพิเรนทร์ที่ทำติดต่อกันทุกปี นับถึงปัจจุบันก็ 63 ปีแล้ว

วัดพระพิเรนทร์ เชิญทำกิจกรรมเพื่อสังคม

 

m ศพชาวบ้านอื่นๆ ที่ไม่มีญาติก็จัดการให้เช่นกัน

พระครูภัทรกิตติสุนทร เจ้าอาวาส กล่าวว่า ปัจจุบันวัดพระพิเรนทร์ได้เปลี่ยนวิธีการจัดการเรื่องศพพระไม่มีญาติ เพื่อไม่ให้ตกเป็นภาระมาก คือ เมื่อรับศพพระไม่มีญาติมาเก็บไว้คอยญาติระยะหนึ่ง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีญาติติดต่อมา ทางวัดจะจัดบำเพ็ญกุศลและฌาปนกิจ เก็บอัฐิพร้อมทำประวัติไว้ เผื่อว่ามีญาติมาติดต่อก็จะมอบอัฐิให้ไป เมื่อถึงวันสงกรานต์ก็บำเพ็ญกุศลพร้อมกับศพที่มาใหม่

ปัจจุบันแม้จะมีวัดต่างๆ ให้บริการเผาศพอนาถาหรือไม่มีญาติมากขึ้น แต่โรงพยาบาลสงฆ์ก็ยังมอบความไว้วางใจให้วัดพระพิเรนทร์ รับศพพระที่มรณภาพมาดำเนินการเหมือนเดิม ดังนั้นความต้องการโลงศพหรือหีบใส่ศพพระที่มรณภาพจึงมีอย่างต่อเนื่อง

m บริจาคผ่านแบงก์ก็ได้

พระครูภัทรกิตติสุนทร บอกผ่าน นสพ.โพสต์ทูเดย์ ว่า หากประชาชนทั่วไปต้องการทำกิจกรรมเพื่อสังคม โดยบริจาคหรือซื้อโลงศพสำหรับพระที่มรณภาพหรือบุคคลทั่วไปที่ไม่มีญาติ สามารถติดต่อบริจาคได้ที่วัดพระพิเรนทร์ ถนนวรจักร หรือย่านคลองถมโทร. 02-221-4050 02-222-1877 หรือนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาวรจักร ชื่อบัญชี วัดพระพิเรนทร์ บัญชีเลขที่ 006-1-16947-4

คำแนะนำของผู้ศรัทธา ถ้าบริจาคเต็มใบราคาใบละ 1,200 บาท หรือจะบริจาคตามกำลังศรัทธาก็ได้ แต่ขอแนะนำให้บริจาคเป็นปัจจัยเพื่อศพไม่มีญาติ (รวมทั้งพระด้วย) จะครอบคลุมประโยชน์มาก เพราะเมื่อรับศพมาบำเพ็ญกุศลตั้งสวดยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าศาลา และเมื่อฌาปนกิจต้องมีค่าน้ำมันเผาศพอีกไม่น้อยกว่า 4,000 บาท ต่อ1 ศพอีกด้วย

m บริจาคโลงศพพร้อมสะเดาะเคราะห์

ส่วนกิจกรรมที่วัดจัดให้แก่ประชาชนที่ต้องการทำบุญด้านอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมก็มี เช่น การทำบุญสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา พร้อมทั้งการบริจาคหีบศพควบคู่ไปด้วย วิธีนี้อาจารย์โหราศาสตร์หลายท่านแนะนำผู้ที่ต้องการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา ให้มาทำที่วัดพระพิเรนทร์ เพราะทางวัดมีเจ้าหน้าที่ผู้รู้พิธีการ พร้อมจะดำเนินการให้ท่านอย่างถูกต้องตรงตามหลักการและพิธีการทางโหราศาสตร์ โดยไม่ขาดตกบกพร่อง

m บูรณะพระอุโบสถโบราณ

ความต้องการบอกบุญที่ทำแล้วมีอานิสงส์มาก คือ การบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถของวัดที่สร้างมานานเกือบศตวรรษปัจจุบันหลังคาบางส่วนรั่ว ปูนที่ฉาบภายในกะเทาะ เพดานมีความชื้นเพราะน้ำฝนรั่วซึม เมื่อพระสงฆ์ที่มี 28 รูป ในพรรษานี้ทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็น หรือทำสังฆกรรมในวันพระใหญ่ ต้องนั่งด้วยความระมัดระวัง

โครงสร้างและสถาปัตยกรรมของอุโบสถของวัดนี้โดดเด่น ต่างจากวัดทั่วๆ ไป เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับตะวันตก แต่ลงตัวอย่างสวยงาม หน้าบันเป็นลายปูนปั้นดอกพุดตาน ช่อฟ้าเป็นปูนปั้นรูปพญานาคที่งดงาม โดยหาพระอุโบสถรุ่นเดียวกันที่มีฐานะเป็นวัดราษฎร์เหมือนกันเทียบได้ยาก

โครงการบูรณะครั้งนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท ปัจจุบันทางวัดจึงต้องสะสมทุนเพื่อการนี้ โดยนำเงินบริจาคต่างๆ เช่น งานกฐิน หรือผ้าป่า มาตั้งเป็นงบประมาณสำหรับบูรณะ เนื่องจากเป็นงานใหญ่ใช้งบประมาณสูงทางวัดจึงขอเชิญผู้ศรัทธาให้ช่วยกัน ผู้ที่จะทำบุญบูรณะพระอุโบสถติดต่อได้ที่สำนักงานของวัดทุกวัน

m ที่มาของชื่อ

ใครๆ ก็สงสัยว่าทำไมจึงชื่อวัดพระพิเรนทร์ มีคำตอบว่าชื่อนี้มาจากชื่อพระพิเรนทรเทพ (ขำ ณ ราชสีมา) บุตรชายเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) เจ้ากรมพระตำรวจหลวงในรัชกาลที่ 3 ผู้บูรณะวัด ด้วยเป็นวัดโบราณมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เมื่อบูรณะเรียบร้อยแล้วจึงมีชื่อใหม่ว่าวัดขำเขมการาม ต่อมาเปลี่ยนเป็นวัดขำโคราช เมื่อ พ.ศ. 2430 จึงพระราชทานนามตามบรรดาศักดิ์ผู้บูรณะว่าวัดพระพิเรนทร์ แปลว่า วีรบุรุษ จึงไม่แปลกแม้จะเป็นวัดเล็กๆ แต่มีกิจกรรมเพื่อสาธารณะมานาน ซึ่งสังคมปัจจุบันเพิ่งตื่นตัว