posttoday

ครั้งแรกในโลก! ชื่นชม 'พระสังฆราช' ผ่านโฮโลแกรม

26 กันยายน 2552

โดย...อิทธิกร เถกิงมหาโชค

โดย...อิทธิกร เถกิงมหาโชค

วันที่ 3 ต.ค.นี้ ตรงกับวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เวียนมาบรรจบ 8 รอบ 96 พรรษา รัฐบาลและวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติขึ้น ณ อาคารมนุษยนาควิทยาทาน ภายในวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กทม. ระหว่างวันที่ 115 ต.ค. โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมชื่นชมพระบารมีด้วย

ไฮไลต์ของงานนี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการใช้เทคนิคภาพ 3 มิติ ที่เรียกว่า “โฮโลแกรม” (Hologram) ฉายภาพเสมือนจริงเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เสด็จมาในนิทรรศการ เพื่อให้ประชาชนถวายสักการะ เนื่องจากพระองค์ไม่สามารถเสด็จไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร ได้ จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษนี้เข้ามาเพิ่มบรรยากาศร่วมด้วยในงาน

เทคนิคนี้เป็นแบบเดียวกับที่สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐใช้รายงานข่าวการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อช่วงปลายปี 2551 ภาพที่ปรากฏสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกคือ ผู้สื่อข่าวสาวที่ตัวจริงอยู่ในนครชิคาโก รัฐมิชิแกน มายืนรายงานข่าวภายในห้องส่งที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ด้วยภาพ 3 มิติ คือ เห็นทั้งทางกว้างยาวหนา สื่อให้ผู้ชมรู้สึกสมจริง จนอยากจะเอื้อมมือออกไปคว้า “วัตถุ” ที่เห็นตรงหน้านั้นเลยทีเดียว!

พระอนิล ธัมมสากิโย ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เจ้าของไอเดีย “โฮโลแกรมสมเด็จพระสังฆราช” บอกว่า เมื่อผู้ชมงานได้เดินเข้ามาภายในโซน 1 ของงาน ซึ่งเป็นห้องถวายพระพรพระชันษา 96 ปี บริเวณห้องโถงกลาง นอกเหนือจากได้ชมวีดิทัศน์ “พระประวัติ พระเกียรติคุณ 4 แผ่นดิน” บนจอแบบพาโนรามา ความยาว 10 นาทีแล้ว

ในตอนสุดท้ายจอกลางจะเปิดออกให้ผู้ชมงานเกิดความรู้สึกปีติยินดีที่ได้เห็นเจ้าพระคุณสมเด็จฯ พระดำเนินออกมาด้วยเทคนิคโฮโลแกรม เพื่อให้พรแก่ทุกคน และผู้ร่วมงานยังได้กล่าวถวายพระพรเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ด้วย โดยผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จงานนี้ ต้องยกนิ้วให้บริษัท แปลน โมทิฟ โยมอุปัฏฐากที่นำเทคโนโลยีชั้นนำเข้ามาช่วยสร้างสรรค์งาน อุปกรณ์ไฮเทคสารพัดชนิดเพิ่งถอยลงจากเรือขนส่งมาหมาดๆ

ถ้าอธิบายภาพโฮโลแกรมให้เข้าใจง่ายๆ คือ เทคโนโลยีสื่อสารทางไกลที่เกิดจากการใช้การ์ดจอธรรมดา สร้างภาพรอบทิศ 360 องศา ห่างกันภาพละ 1.25 องศา อัพเดตภาพ 20 ภาพต่อ 1 วินาที รวมแล้วจะสร้างภาพทั้งหมดเกือบ 6,000 ภาพต่อวินาที เพื่อส่งภาพจากระยะไกลมาประกอบกันเพื่อหลอกตาของผู้ชมให้เห็นเป็นภาพ 3 มิติ

พระอนิล กล่าวว่า แนวความคิดหลักของงานก็คือ อยากให้ประชาชนเห็นธรรม สร้างปัญญา และเสริมสิริมงคลให้ชีวิตจากการตามรอยพระประวัติสมเด็จพระสังฆราช โดยเฉพาะการมาร่วมถวายพระพร และได้ข้อคิดหรือหลักธรรมจากการได้ชมพระจริยวัตรในแต่ละช่วงพระชนม์ และพระกรณียกิจของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ถือเป็นประสบการณ์ที่เป็นมงคลยิ่งใหญ่ในชีวิตของผู้ได้เข้าชมนิทรรศการ

นอกเหนือจากสาธุชนจะได้ร่วมถวายพระพรเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ดังตั้งใจหวังแล้ว วันที่ 13 ต.ค. คณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร ยังจัดประชุมเวทีวิชาการหัวข้อ “พุทธศาสนาสู่ศตวรรษใหม่” ซึ่งได้รับการตอบรับจากคณะสงฆ์ชั้นนำและนักวิชาการด้านศาสนาจากทั่วโลก 25 คน เข้าร่วมประชุม โดยใช้ภาษาบาลีเป็น “ภาษากลาง” ซึ่งก็นับเป็นครั้งแรกในโลกเช่นกัน

สำหรับพื้นที่จัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสุดอลังการด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาท ของคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหารแบ่งเป็น 3 ส่วน 12 โซน ภายในอาคารมนุษยนาควิทยาทาน เริ่มจากชั้นล่างบริเวณห้องโถงกลาง และปีกขวา มี 4 โซนให้เลือกชม ประกอบด้วย โซน 1 : ถวายพระพรพระชันษา 96 ปี, โซน 2 : ตามรอยพระจริยวัตร จากวัดเหนือสู่วัดบวรนิเวศวิหาร, โซน 3 : ห้องบรรทม พระตำหนักคอยท่า ปราโมทย์ และ โซน 4 : ห้องจัดแสดงสิ่งของส่วนพระองค์

ถัดมาชั้น 2 ของอาคาร มี 5 โซน คือ โซน 5 : ห้องเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร, โซน 6 : วัดบวรนิเวศวิหาร, โซน 7 : เผยแผ่พระพุทธศาสนา 5 ทวีป, โซน 8 : ฟังเทศนาธรรม ที่จำลองบรรยากาศภายในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร ด้วยภาพกราฟฟิก จัดฉากประกอบแสง เสียง และภาพเสมือนจริงของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ประทับบนธรรมาสน์ ในเทคนิคเมจิก วิชัน (Magic Vision) และได้ฟังเสียงเทศน์ของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ซึ่งทรงปฏิบัติเป็นกิจวัตรทุกวันพระขึ้นแรม 15 ค่ำ และโซน 9 : ห้องกรรมฐาน

อีก 3 โซนสุดท้าย ตั้งอยู่ชั้นล่างแต่เป็นห้องปีกซ้ายของอาคาร คือ โซน 10 : มรดกธรรม พิเศษสุดด้วย โซน 11 : ห้องพิมพ์การ์ดชื่อ ที่ประทานจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯ พระอนิล บอกว่า ได้นำซอฟต์แวร์ “ชื่อประทาน” ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ทรงคิดชื่อมงคลไว้ครบตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ บรรจุในเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ พร้อมจอคอมพิวเตอร์ขนาด 17 นิ้ว และเครื่องพิมพ์จำนวน 3 ชุด ไว้บริการผู้เข้าชมงานที่ต้องการตั้ง “ชื่อใหม่” สามารถกดคีย์วันเดือนปีเกิด รวมทั้งชื่อบิดามารดา ขอประทานชื่อมงคลเหล่านี้พิมพ์ออกมาได้ทันที

ขณะที่ โซน 12 : ห้องกิจกรรมทำมือ “พับกระดาษเจริญสติ” จะปิดท้ายการเข้าชมงานที่เด็กๆ ต้องชื่นชอบกับการพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ เกี่ยวกับพุทธศาสนา นำมาซึ่งการเจริญสติอันสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เชื่อว่าเวลาเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.0016.30 น. ตลอด 15 วันแห่งมหามงคลนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับพุทธศาสนิกชน
พระอนิล กล่าวด้วยว่า อยากให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมีเจ้าพระคุณสมเด็จฯ อย่างใกล้ชิดมากที่สุด อยากให้เห็นว่าพระจริยวัตรของสมเด็จพระสังฆราชที่มีพระชนมายุยืนยาว และครองพระยศยาวนานที่สุด ไม่ใช่สิ่งสูงส่งเกินกว่าประชาชนธรรมดาจะเอื้อมไปถึง เพราะท่านใช้ชีวิตตามปกติสามัญชนทั่วไป

“อาตมาภาพไม่อยากให้สาธุชนตกเป็นทาสเทคโนโลยีมากเกินไป งานนิทรรศการครั้งนี้จึงอยากให้ ‘เจ้านาย’ เทคโนโลยี เพื่อสร้างความรื่นเริง ความรู้ ความปลาบปลื้ม และสร้างแรงบันดาลใจ สร้างจิตสำนึกต่อสมเด็จพระสังฆราชที่เป็นสังฆบิดรมาตั้งแต่ปี 2504 จนถึงปัจจุบันก็ยังเป็นที่เคารพของทุกคน” ผู้ช่วยเลขาฯ สมเด็จพระสังฆราช กล่าว

ระหว่างนี้ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.เป็นมาไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค. คณะกรรมการจัดงานยังเปิดตำหนักล่าง วัดบวรนิเวศวิหาร จัดนิทรรศการครบ 200 ปี วันประสูติรสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ อดีตสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ทรงเป็นปราชญ์ทางพระพุทธศาสนาของไทยอีกด้วย

คณะกรรมการจัดงานยังได้จัดสร้าง “พระกริ่งปวเรศ” ครอบน้ำพระพุทธมนต์ปวเรศ, เหรียญพระรูปเหมือน เพื่อเป็นสิ่งมงคลสักการะที่ระลึกด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานโครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัดบวรนิเวศวิหารในพระบรมราชูปถัมภ์ โทรศัพท์ 02-282-2447 หรือโทรสาร 02-281-9555 เวลา 09.30-16.00 น. ทุกวัน