posttoday

สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 15 พนะใหสเถนะโหรหลวง

08 กันยายน 2556

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง เป็นสำนักใหญ่มีมาแต่สมัยโบราณ เดิมชื่อวัดสระแก เป็นสำนักที่เกี่ยวกับราชอาณาจักรและศาสนจักร

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือวัดภูเขาทอง เป็นสำนักใหญ่มีมาแต่สมัยโบราณ เดิมชื่อวัดสระแก เป็นสำนักที่เกี่ยวกับราชอาณาจักรและศาสนจักรดังเช่น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก กลับจากการศึกที่ประเทศเขมร เสด็จเข้าโขลนทวาร ประทับสรงมุรธาภิเษก ที่สระน้ำวัดนี้ ก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ สถาปนาราชวงศ์จักรี เมื่อ พ.ศ. 2325 จากนั้นเปลี่ยนชื่อวัดสระแก เป็นวัดสระเกศราชวรวิหาร

สมเด็จพระนั่งเกล้ารัชกาลที่ 3 โปรดให้สร้างศาลาการเปรียญบนสระน้ำ ปัจจุบันศาลาการเปรียญนั้นเป็นที่ตั้งศพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) อดีตประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ที่มรณภาพ 10 ส.ค. 2556

เมื่อ พ.ศ. 2506 วัดนี้เป็นที่ประทับสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 15 ซึ่งได้รับสมญานามว่าโหรหลวง คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ ป.ธ.9)

พระองค์ประสูติ 1 ธ.ค. 2417 ที่เรือนแพหน้าวัดกัลยาณมิตร อ.บางกอกใหญ่ บวชเณรเรียนเก่งสอบได้ ป.ธ. 4 เมื่อบวชพระสอบได้ ป.ธ.9 ในสมัย ร.5 เป็นพระองค์แรก จึงได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้รถยนต์หลวงขับไปส่งถึงวัด และได้กลายเป็นประเพณีถึงทุกวันนี้ เมื่อพระหรือสามเณรรูปใดสอบได้ ป.ธ.9 จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำรถยนต์หลวงส่งถึงวัดทุกรูป

พ.ศ. 2467 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ พ.ศ. 2496 ได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และดำรงตำแหน่งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505

4 พ.ค. 2506 ในพระราชพิธีฉัตรมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาให้เป็น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก นับเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 15 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

เมื่อได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจทุกอย่างเพื่อความสงบสุขของสังฆมณฑล โดยมิทรงคำนึงถึงความชราภาพ เพราะรับสั่งเสมอว่า สังฆราช ไม่ใช่ สังฆราชี (ความแตกแยกแห่งสงฆ์)

พระโอวาทวันปีใหม่

ในฐานะพระมหาเถระ พระโอวาทของพระองค์ เป็นแนวปฏิบัติ และยังใช้ได้ทุกวันนี้ ดังเช่นพระโอวาทวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2508 ที่ทรงให้สติในงานฉลองปีใหม่ว่า ต้องคำนึงถึงความเจริญแห่งตน ด้วยการคำนึงถึงหน้าที่ การงาน สิ่งที่จะต้องทำตามหน้าที่และสิ่งที่ตนควรทำตามความเหมาะสม ไม่ปล่อยให้กาลเวลาล่วงไปโดยปราศจากประโยชน์ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง ย่อมนึกว่าควรสร้างความพากเพียรพยายามเสียในวันนี้ มิใช่รอว่าพรุ่งนี้จึงทำ การงานทั้งคติโลก คติธรรม ปล่อยให้ค้างไว้มิใช่ความเจริญ แต่รีบทำเสียให้เสร็จเป็นทางแห่งความเจริญโดยแท้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “การงานที่ไม่อากูลคั่งค้างเป็นอุดมมงคล” วันคืนหมดไปล่วงไป การงานเราควรรีบเร่งขวนขวายทำให้หมดไป (ด้วย)

นอกจากทำการงานที่เป็นหน้าที่แล้ว ยังจะต้องทำสิ่งที่ควรทำนอกเหนือไปจากหน้าที่ด้วย เช่น ความอ่อนน้อม ถ่อมตน ความเคารพพระอรหันต์ พระมหานาคเถระได้กล่าวเตือนฝ่ายบรรพชิตไว้ว่า

“ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนสพรหมจารี ผู้นั้นย่อมไม่งอกงามในพระสัทธรรม เหมือนพืชเน่าในไร่นา”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ญาโณทยมหาเถร) ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันเสาร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับวันวิสาขบูชา วันที่ 15 พ.ค. 2508 เวลา 02.20 น. สิริพระชันษาได้ 90 ปี 5 เดือน 14 วัน

ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 2 ปี 11 วัน