posttoday

วัดสุวรรณาราม รื้อฟื้นโรงเรียนสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์

11 สิงหาคม 2556

เช้าวันที่ 4 ส.ค. 2556 พระราชปริยัติเวที (เจ้าคุณสุชาติ) เจ้าอาวาสรูปใหม่วัดสุวรรณาราม พระอารามหลวง นิมนต์พระพรหมดิลก

เช้าวันที่ 4 ส.ค. 2556 พระราชปริยัติเวที (เจ้าคุณสุชาติ) เจ้าอาวาสรูปใหม่วัดสุวรรณาราม พระอารามหลวง นิมนต์พระพรหมดิลก (เอื้อน ป.ธ.9) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร มาเป็นประธานเปิดปฐมนิเทศ โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสุวรรณาราม หลังจากหยุดกิจการไปหลายปี

โรงเรียนสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ยุคใหม่ของวัดสุวรรณาราม เปิดสอนวิชาธรรม พุทธประวัติ หน้าที่ศีลธรรม สวดมนต์สรภัญญะ นาฏศิลป์ มารยาทไทย คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และวาทศิลป์ ใครมาเรียนที่นี่ไม่ต้องไปเรียนกวดวิชา เพราะทางโรงเรียนจัดให้ครบทุกกระบวนวิชา

พระราชปริยัติเวที รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร แม้จะเพิ่งมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม ตามมติมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2556 และมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2556 ก็ตาม แต่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม พระอารามหลวงมาก่อน เคยเป็นพระธรรมทูตในสหรัฐอเมริกา โดยอยู่ที่วัดพุทธานุสรณ์ ฟรีมอนต์ ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา 8 ปี มีวิสัยทัศน์ยาวไกล ทำเพื่อประโยชน์ต่อวัดและชุมชน ได้กล่าวรายงานต่อประธาน พระพรหมดิลก ว่า โรงเรียนสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสุวรรณาราม มีอายุยาวนานถึง 50 ปี เพราะเปิดสอนมาตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. 2506 โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ) เมื่อมีสมณศักดิ์เป็น พระราชพุฒิญาณ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามในขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการ แต่กิจการโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มาสะดุดหยุดลงเมื่อ พ.ศ. 2547 หันมาเปิดสอนวิชาธรรมศึกษาแทน ถึง พ.ศ. 2555

เมื่อตัวท่านมาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนี้ จึงเห็นสมควรที่จะฟื้นฟูโรงเรียนสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ให้กลับมาอยู่คู่วัดสุวรรณารามอีกครั้ง ช่วงแรกเปิดรับนักเรียน 2 ระดับ คือ ชั้น ป.3ป.6 และ ม.1ม.6 มีนักเรียนสมัครเรียนทั้ง 2 ระดับ 207 คน มีครูผู้สอนทั้งพระและฆราวาส 20 รูป/คน โดยการสอนเน้นวิชาที่สอดคล้องกับวิชาธรรมศึกษาของคณะสงฆ์ เปิดสอน 21 วัน เริ่มวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ค. 2556 สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. 2556

การดำเนินการได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากทุกภาคส่วน เช่น พระเถระในวัดสุวรรณาราม โรงเรียนสุวรรณารามวิทยาคม ชุมชนวัดสุวรรณาราม ข้าราชการเขตบางกอกน้อย พ่อค้า ประชาชน และผู้ปกครองนักเรียน

หลังจากมอบของที่ระลึกแก่ผู้สนับสนุนโครงการถ้วนหน้าแล้ว พระพรหมดิลก ได้กล่าวเปิดปฐมนิเทศและสัมโมทนียกถา ว่า การที่เจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม พระราชปริยัติเวที เปิดสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ หลังจากหยุดกิจการไป เท่ากับรักษาประเพณีและสมบัติวัดสุวรรณารามไว้นั่นเอง

เพื่อให้การเรียนการสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์สามารถโน้มน้าวจิตใจของเยาวชนให้เข้ามาสู่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา กรมการศาสนาต้องหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ให้มากยิ่งขึ้น

ในยุคปัจจุบัน เยาวชนคนไทยห่างไกลคำสอนพระพุทธศาสนา เพราะมีปัจจัยหลายๆ ประการรุมเร้าเข้ามา เนื่องจากสังคมโลกนิยมทางวัตถุ หันหลังให้ทางธรรม จะเห็นวิวัฒนาการทางโลกมีมากและขยายมาก สามารถดึงจิตใจเยาวชนไปสู่วัตถุนิยม ทำให้เยาวชนห่างไกลคุณธรรมได้ง่าย

ท่านได้อ่านหนังสือพระราชประสงค์พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 พระองค์ทรงมีแนวพระราชดำริว่า ถ้าประชาชนมุ่งหน้าแต่การศึกษา หาความรู้ด้านปริญญาอย่างเดียว โดยไม่เหลียวแลทางธรรม จะเข้าตำราที่ว่ามีความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด

ปัจจุบัน ประเทศไทยมุ่งเน้นแต่วัตถุนิยม ไม่เน้นคุณธรรม เยาวชนจึงห่างไกลจากคุณธรรม ทำให้เกิดปัญหาในเมืองไทยหลายๆ อย่าง

การมีโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ส่วนหนึ่งก็เพื่อดึงจิตใจเยาวชนให้เข้าใกล้หลักคำสอนพระพุทธศาสนา ให้เยาวชนเข้าใจภาระหน้าที่ของตน และเข้าใจวิถีชีวิตในการดำรงชีวิตที่ถูกต้องต่อไป

พระพรหมดิลก กล่าวว่า การดำรงชีวิตที่ปราศจากคุณธรรมเหมือนเรือขาดหางเสือ ทำให้ไม่รู้จะไปทางไหน ล่องลอยไปในแม่น้ำ ลอยไปตามกระแสลม เมื่อลมพัดไปทางใดเรือก็ไปตามนั้น

ความแน่นอนของเรือที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางไม่มี เหมือนเยาวชนในปัจจุบันที่ห่างไกลคุณธรรม จึงก่อปัญหาให้สังคม หาทิศทางชีวิตที่ดีจึงเป็นไปได้ยากเหมือนเรือที่ขาดหางเสือ

เมื่อมีโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่วัดสุวรรณารามแห่งนี้ พระราชปริยัติเวที เจ้าอาวาสและผู้อำนวยการโรงเรียน ยังต้องการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสที่ไม่สามารถเข้าโรงเรียนกวดวิชาทางโลกได้ ให้มีโอกาสเรียนกวดวิชาเมื่อมาเรียนที่นี่ เพราะทางโรงเรียนจะให้ความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไป

ในตอนท้าย ท่านบอกว่าน่าเสียดายที่โรงเรียนสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ไม่มีหลักสูตรโดยตรง แต่ไปอิงกับวิชาธรรมศึกษา จึงขอฝากให้กรมการศาสนาที่มีตัวแทนในที่ประชุมนี้ คือ กฤษฎา คงคะจันทร์ รองอธิบดีกรมการศาสนา ให้ไปพิจารณาการตั้งกองโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ให้มีผู้บริหารเป็นแม่กอง ร่างหลักสูตรโรงเรียนสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ขึ้นมา จะทำให้โรงเรียนมีประโยชน์ เป็นตัวของตัว ไม่ต้องไปอิงกับการสอนธรรมศึกษา

เมื่อมีหลักสูตรชัดเจน ต่อไปต้องประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการว่าผู้ที่เรียนตามหลักสูตรนี้ไม่ต้องไปเรียนวิชาธรรมในโรงเรียนก็ได้ จะทำให้นักเรียนสนใจมาเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์มากขึ้น จึงฝากให้รองอธิบดีกรมการศาสนาที่มาในนามอธิบดีนำไปปรึกษาหารือเพื่อดำเนินการต่อไป

ผลดีในการมีกองทำงานโดยเฉพาะ จะเป็นโอกาสให้หางบประมาณมาสนับสนุน เพราะการไม่มีงบประมาณจะมีปัญหาในการดำเนินการและการขยายตัว เช่น ในต่างจังหวัดนั้นขยายได้ยาก ส่วนที่ขยายตัวและเจริญได้ เช่น โรงเรียนพุทธศาสนาในภาค 14 บางแห่ง เช่นที่วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม และวัดไชยชุมพลชนะสงคราม จ.กาญจนบุรี นั้น เพราะทางวัดมีทุนอุดหนุน แต่วัดสุวรรณาราม ไม่มีทุนให้ก้าวไปไกลกว่านี้ หากมีงบประมาณมาช่วย จะทำให้การทำงานเดินหน้าไปด้วยดี

ในเรื่องนี้ กฤษฎา รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ในส่วนหลักสูตรนั้น กองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รับผิดชอบในส่วนของกรมการศาสนา ดูแลด้านชุมชน และมีงบประมาณปีละ 100 ล้านบาท แต่ต้องเฉลี่ยไปตามโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ทั่วประเทศที่มี 2,000 กว่าแห่ง แต่ละแห่งจึงได้รับโรงเรียนละ 23 หมื่นบาทเท่านั้น

แม้จะมีทุนจำกัด โรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดสุวรรณาราม ภายใต้การนำของพระราชปริยัติเวที ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะกรุงเทพมหานครอีกตำแหน่งหนึ่ง ได้เดินหน้าสร้างความหวังให้แก่นักเรียนและชุมชนอย่างวีระอาจหาญต่อไป