พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

สัปดาห์นี้ “คาบใบลานผ่านลานพระ” ขออนุญาตนำภาพถ่ายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาพหนึ่งซึ่งไม่ค่อยจะมีหลายสำนักมาพิมพ์เผยแผ่ ภาพนี้ผู้ครอบครองท่านหนึ่งได้เผยแผ่เป็นธรรมทานในหมู่ผู้สนใจพุทธศาสนาและประวัติพระสุปฏิปันโน ผ่านเครือข่ายกลุ่มพุทธกรรมฐานสายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

ภาพถ่ายพระอาจารย์มั่นที่เผยแผ่กันทั่วไปจะมีอยู่ราว 8 ภาพ อยู่ในอิริยาบถนั่ง 7 ภาพ ยืน 1 ภาพ ที่เหลือเป็นภาพในวัยหนุ่มบ้าง ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดยืนยันว่าใช่ภาพของท่านจริงหรือไม่

หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ ศิษย์พระอาจารย์มั่นรูปหนึ่งเคยเล่าไว้ในหนังสือรำลึกวันวาน ถึงการถ่ายรูปพระอาจารย์มั่นว่า รูปที่เห็นกันนั้นเป็นรูปที่ท่านตั้งใจให้ถ่ายทั้งหมด เพราะถ้าท่านไม่อนุญาตให้ถ่าย ถึงจะถ่ายอย่างไรก็ไม่ติด

หลวงตาทองคำ ระบุว่า ครั้งหนึ่งขุนศรีปทุมวงศ์ นายหล้า พังโคน นำหมอชาวเวียดนามซึ่งทำงานอยู่ที่ อ.ท่าแขก แล้วมาเปิดคลินิกอยู่แถวพังโคน มาฉีดยารักษาอาการอาพาธให้หลวงปู่มั่น แล้วพอกลับมาหนที่สองได้นำช่างภาพมาด้วยแล้วกราบเรียนท่านว่า “พวกกระผมขออนุญาตถ่ายภาพท่านอาจารย์ไว้เป็นที่เคารพบูชา”

ท่านตอบว่า “ไม่ได้หรอกโยมหมอ อาตมาไม่ให้เพราะโยมหมอถ่ายภาพอาตมาไปเพื่อจะทำการซื้อขาย หาอยู่หากิน กลัวโยมจะเป็นบาป อาตมาไม่ให้”

ถึงจะถูกปฏิเสธ อุบาสกก็อ้อนวอน ท่านยืนยันคำเดิมว่า “เราเป็นคน รู้จักภาษา ไม่ให้ ไม่ให้ เข้าใจไหมล่ะ”

หลวงตาทองคำ เล่าว่า รุ่งขึ้นหลวงปู่มั่นออกบิณฑบาต โยมเอากล้องไปจั้งในที่ลับไว้ดักถ่ายท่าน กระทั่งท่านบิณฑบาตกลับมาแล้วมานั่งให้พรอยู่เขาก็แอบถ่ายอีก แต่พอเอาไปล้างที่พังโคน ปรากฏว่าถ่ายภาพพระอาจารย์ไม่ติดเลย

หลวงตาทองคำ ระบุว่า นั่นไม่ใช่ครั้งเดียวที่ถ่ายภาพพระอาจารย์มั่นไม่ติด ถ้าท่านไม่อนุญาต

มีช่างภาพซึ่งหลวงตาทองคำเรียกโดยใช้สรรพนามว่า “นายช่างฉายาสกลเจริญ” ถ่ายภาพพระอาจารย์มั่นที่ไหน เอาไปล้างออกมาก็ปรากฏว่า “สูญเปล่าทั้งหมด”

ด้วยเหตุนี้ท่านจึงว่า “รูปถ่ายพระอาจารย์มั่นที่เราเห็นนั้น จะเป็นรูปถ่ายที่ท่านตั้งใจให้ถ่ายทั้งหมด ถ้าท่านไม่ให้ก็ไม่มีใครถ่ายติด นี่เป็นเรื่องจริง จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่”

เพราะท่านตั้งใจให้ถ่าย รูปที่ปรากฏตกมาถึงชนชั้นหลัง จึงล้วนเป็นอิริยาบถและการครองผ้าจึงอยู่ในลักษณะที่เป็นกิจจะลักษณะทั้งหมด ดังจะเห็นได้ว่าทุกภาพท่านครองจีวรและพาดสังฆาฏิเรียบร้อย ไม่มีภาพใดไม่พาดสังฆาฏิเลย