โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส
“สพฺเพ สตฺตา มา ลทฺธสมฺปตฺติโต วิคจฺฉนฺตุ” ได้ ไม่นานจิตใจก็จะสงบระงับจนเป็นมุทิตาจิต ไม่เป็นอุสุยฺยจิต คือ จิตริษยา ท่านพระธรรมปาโมกข์กล่าวในตอนท้ายว่า... มุทิตาจิตเกิดขึ้น ริษยาก็ปราศจากใจ ความสุขก็ย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติได้ ธรรมนี้เป็นธรรมของผู้ปฏิบัติ ถ้าใครทำได้ก็จักได้รับความสงบ เยือกเย็นกายใจ จึงสมควรแก่การปฏิบัติ...”
มีพระคาถาบาลีว่า สพฺเพ สตฺตา มา ลทฺธสมฺปตฺติโต วิคจฺฉนฺตุ แปลว่า ขอสัตว์ทั้งหลายอย่าได้เสื่อมจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด ให้นึกไปนึกมาจนจิตสงบเป็นสันติจิต กิริยาก็เป็นกรรมฐาน... ผู้ที่เจริญมุทิตาให้ทำใจคล้ายกับแผ่นดินโดย
ลักษณะที่ ๑ ต้องหัดเฉยๆ ให้มากๆ ใครติก็เฉย ใครยอก็เฉย หัดให้เฉยจนเคยเหมือนแผ่นดิน เฉยเป็นปกติ ไม่ว่าคนจะทิ้งของโสโครกหรือของหอม
ลักษณะที่ ๒ ท่านสอนให้รักษาศีล คนมีศีลแล้วงาม ภิกษุสามเณร มีศีลก็งาม ไม่ต้องมีอะไร มีศีลอย่างเดียว ฟุ้งตลบอบอวล ไม่เกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ
ลักษณะที่ ๓ ไม่มีช่องไม่มีโพรง หมายถึง รักษาศีลไว้มิให้ศีลขาด ให้หนาทึบกว้างขวางไปด้วยศีล
ลักษณะที่ ๔ ทำความเพียรให้มั่นไว้ ให้เพียรก้าวหน้าอยู่เสมอ อย่าย่อท้ออย่าพลั้งเผลอ
ลักษณะที่ ๕ ไม่ยินดีไม่ยินร้าย ในอะไรทั้งหมด นึกได้อย่างนี้ทำใจได้อย่างนี้ มันสบายใจไม่ยึดติดอะไร
เมื่อทำใจได้ตามลักษณะทั้ง ๕ แล้วก็สามารถเจริญมุทิตาด้วยพระคาถาว่า “สพฺเพ สตฺตา มา ลทฺธสมฺปตฺติโต วิคจฺฉนฺตุ” ได้ ไม่นานจิตใจก็จะสงบระงับจนเป็นมุทิตาจิต ไม่เป็นอุสุยฺยจิต คือ จิตริษยา ท่านพระธรรมปาโมกข์กล่าวในตอนท้ายว่า... มุทิตาจิตเกิดขึ้น ริษยาก็ปราศจากใจ ความสุขก็ย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติได้ ธรรมนี้เป็นธรรมของผู้ปฏิบัติ ถ้าใครทำได้ก็จักได้รับความสงบ เยือกเย็นกายใจ จึงสมควรแก่การปฏิบัติ...”
อาตมายกหลักธรรมที่เทศนาโดยพระธรรมปาโมกข์ในขณะนั้น ซึ่งต่อมาได้ก้าวหน้าในสมณวิสัย จนได้พระราชทานสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ แห่งวัดราชผาติการาม ซึ่งสมัยดำรงสมณศักดิ์พระธรรมปาโมกข์นั้น ได้ทำการอุปสมบทให้กับสามเณรสุนทร เป็นพระภิกษุ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๕ ก.ค. ๒๕๐๗ และนับเนื่องถึงวันนี้ในปีพุทธศักราชที่ ๒๕๕๕ รวมเวลา ๔๘ ปี พระภิกษุรูปดังกล่าวจะได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระธรรมปาโมกข์ อันเป็นสมณศักดิ์เดิมของพระอุปัชฌาย์ที่อุปสมบทความเป็นภิกษุให้แก่ตน...
อาตมาคิดว่า คงไม่มีอะไรที่น่าจะปลื้มปีติเท่านี้แล้วในชีวิตความเป็นพระภิกษุ ซึ่งหากเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ยังมีชีวิตอยู่ คงจะมองดูหลวงพ่อเทพโมลีด้วยความปลื้มใจ ที่เติบโตก้าวหน้าในวิถีชีวิตแห่งความเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา สืบทอดพ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้อย่างน่าอนุโมทนา
อาตมาจึงขอแสดงมุทิตาด้วยการกระทำการสักการธรรม อันเป็นบทธรรมเทศนา ของอดีตพระธรรมปาโมกข์ ซึ่งต่อมาคือสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสารเถร ป.ธ.๙) ด้วยจิตคารวะเป็นอย่างยิ่ง ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยจงอภิบาลรักษาให้หลวงพ่อเทพโมลี ในสมณศักดิ์ที่ “พระธรรมปาโมกข์” จงเจริญเติบโตในพระพุทธศาสนายิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์ต่อการสืบอายุพระพุทธศาสนาให้สืบเนื่องต่อไปอย่างมั่นคงแข็งแรง
ขอเจริญพร