โกหกสีขาว...โกงกินไม่น่ารังเกียจ ชาวพุทธควรพิจารณาอย่างไร!? (ตอน๑๔)

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

“... ภิกษุทั้งหลาย โดยนัยดังนี้แล เมื่อผู้ครองแผ่นดินไม่จัดเสริมเพิ่มทรัพย์ให้แก่ชนทั้งหลายผู้ไร้ทรัพย์ ความยากจนก็ได้ถึงการแพร่หลาย ศาสตราก็ได้ถึงการแพร่หลายเมื่อศาสตราแพร่หลาย การฆ่าฟันก็แพร่หลาย เมื่อการฆ่าฟันแพร่หลาย การพูดเท็จก็แพร่หลาย ... การพูดส่อเสียด ... กาเมสุมิจฉาจาร...ธรรมสองอย่าง คือ ผรุสวาจาและการพูดเพ้อเจ้อ... อภิชฌาและพยาบาท ... มิจฉาทิฏฐิ ก็ได้ถึงความแพร่หลาย...”

ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เพื่อนำสาธุชนเข้าสู่ความจริง (Truth) ที่ปรากฏอยู่ในเรื่องจริง (Fact) ดังกล่าว เพื่อนำมาสู่ข้อคิดพิจารณาตามวิถีพุทธ จะได้เห็นเหตุปัจจัยของเรื่องนั้นๆ ดังเช่นที่ตั้งคำถามว่า อะไรเป็นเหตุปัจจัยให้คนในสังคมมีความคิดที่ผิดเพี้ยนไปจากศีลธรรมดังกล่าวนี้!? จนสามารถยอมรับได้ว่า การปล้นทรัพย์แผ่นดินไม่ผิด หากมีผลประโยชน์ในทรัพย์นั้นที่ปล้นมาด้วย เรียกว่า ยินดีคบโจรเป็นมิตร หากมีส่วนในของโจรที่ปล้นมา

ประเด็นสำคัญดังกล่าวนี้ ทุกๆ คนในสังคมไม่ควรมองผ่านไปอย่างไร้ความใส่ใจ เพราะนี่คืออาการหนักเข้าขั้นตรีทูตของสังคมไทย จึงควรเรียกร้องให้ผู้มีหน้าที่ในทุกองค์กร ช่วยกันแสดงตัวออกมาทำหน้าที่อันชอบธรรม เพื่อช่วยเหลือเยียวยาสังคมโดยเร็ว ก่อนที่จะสายเกินแก้ โดยเฉพาะองค์กรทางด้านศาสนาทุกศาสนา องค์กรการศึกษาทุกองค์กร และชาวไทยทุกคนในสังคม ต้องรวมใจกันช่วยกันขับเคลื่อนภาคสังคมให้พ้นร่องมรสุมร้าย เพื่อความปลอดภัยของแผ่นดินไทย ปัญหาเรื่อง การทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ผิด หากมีผลประโยชน์ด้วย จึงควรถูกหยิบยกมาเสวนากันต่อไป จนกว่าสังคมไทยจะคืนกลับมาสู่สัมมาทิฏฐิ ต้องช่วยกัน ทั้งพระ-เถร-เณร-ชี และญาติโยมทั้งหลาย รวมถึงเด็กวัดทั้งหลาย เพื่อการก้าวหน้าพ้นหล่มความคิดที่วิปริต อันเป็นหายนะตัวจริงเสียงจริง ซึ่งอาตมาจะนำมากล่าวต่อไปในกาลเบื้องหน้า คงจะยุติการวิสัชนาปัญหาดังกล่าวในขั้นนี้ เพียงแค่นี้ ต่อไปมาว่า เรื่อง กรณีวัดแห่งหนึ่งพยากรณ์ สตีฟ จ็อบส์ ตามปุจฉาของ รศ.ดร.จุฬาลักษณ์ ค้าไม้

อ่านต่อฉบับหน้า