posttoday

ปัญหาที่ไม่ใช่ปัญหาหากรู้จักคิดด้วยจิตที่เคารพธรรมกรณีสวดมนต์วัดพระแก้ว (ตอน ๑)

30 สิงหาคม 2555

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ติดตามและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของธรรมคลินิกมาโดยตลอด และขอชื่นชมในความเสียสละของคณะทำงานทุกๆ ท่าน

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

ปุจฉา : เรียน ดร.อรอนงค์ และผู้จัดงานสวดพระปริตร

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ติดตามและเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของธรรมคลินิกมาโดยตลอด และขอชื่นชมในความเสียสละของคณะทำงานทุกๆ ท่าน ที่ทำให้งานสำเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ด้วยดีมาโดยตลอด ล่าสุดที่ได้สวดพระปริตรถวายแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวันที่ ๒๒ ก.ค. ๒๕๕๕ รู้สึกว่าไกด์และนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้ให้ความเกรงใจในการทำพิธีของคณะศรัทธา เนื่องจากดิฉันนั่งสวดมนต์บริเวณรอบวิหารคด ไม่ค่อยได้ยินเสียงจากในพระอุโบสถและเสียงเทศน์ (เริ่มเสียงดังมากๆ ตั้งแต่ช่วงก่อน ๐๘.๓๐ น. และดังมากขึ้นเป็นลำดับ) จนผู้ที่สวดมนต์ทั้งหลายทยอยกลับก่อนทั้งที่ยังไม่เสร็จพิธี

หากเป็นไปได้ อยากเสนอว่าควรมีวิธีประชาสัมพันธ์ไกด์และกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือจะด้วยวิธีใดก็ได้ ให้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจถึงพิธีอันศักดิ์สิทธิ์และให้ความเกรงใจให้เกียรติประเทศไทย ที่ได้มีคณะศรัทธาต่างตั้งใจมาปฏิบัติและได้บุญกลับไปอย่างอิ่มเอม แทนที่จะมีอารมณ์ขุ่นมัวกลับไปกลางคันโดยยังไม่เสร็จสิ้นพิธีกรรมค่ะ

ป.ล. แต่ไปร่วมสวดพระปริตรทีไร ถ้าได้นั่งบริเวณวิหารคด ก็จะได้ยินเสียงดังรบกวนมาโดยตลอด และฟังเทศน์ที่พระอาจารย์หลวงพ่อฯ ไม่ค่อยรู้เรื่อง

ขอแสดงความนับถืออย่างสูงค่ะ

น.ส.ปภานิจ สวงโท

สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค

วิสัชนา : ขอเจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา มีปุจฉาแสดงความเห็นมาจากพุทธศาสนิกชนที่ไปร่วมงานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย ครั้งที่ ๓๘ เมื่อ ๒๒ ก.ค. ๒๕๕๕ ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ เนื่องในการถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ได้ทรงพระราชานุญาตให้จัดงานดังกล่าวได้ ในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา

แน่นอน! การจัดงานมายาวนานถึง ๖ ปี รวม ๓๘ ครั้ง ในชื่องานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย ของประชาชนผู้มีความกตัญญูรู้คุณในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยไม่ได้มีงบประมาณส่วนใดสนับสนุนจากรัฐบาล และมิได้มีการเรี่ยไรจัดหาเงินทุนใดๆ เลย ด้วยพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงได้เห็นการขับเคลื่อนงานดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนประชาชนที่เข้าร่วมงานมากขึ้นและมากขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ในพลังความดีแห่งจิตศรัทธาของสาธุชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ดังภาพข่าวที่ถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งแผ่นดินไทย ด้วยการสนับสนุนของภาครัฐในแต่ละสมัย เพราะเข้าใจถึงความสำคัญของพลังมวลชนที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง ด้วยเจตนคติที่พร้อมใจกันน้อมถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ก่อนที่จะนำเข้าสู่การวิสัชนาตามที่โยมปภานิจ มีปุจฉามา ใคร่ขอนำบทความเรื่อง “ว่าตามวิถี ... สร้างคนดี คืนสู่สังคมไทย สืบเนื่องจากการจัดงาน ณ วัดพระแก้ว” ที่ตีพิมพ์ลงใน นสพ.ไทยโพสต์ คอลัมน์ปักธงธรรม มานำเสนอต่อสาธุชน เพื่อจะได้ลำดับความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องราวที่ไปที่มาของงานก่อน จะได้พิจารณาลงไปในรายละเอียดแห่งปุจฉา และจากบางปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากการกระทำของบางบุคคล ที่ตีกรอบจิตใจให้คับแคบด้วยอคติธรรม ที่นำมาสู่บางปัญหาของการจัดงาน ซึ่งมีมาโดยตลอดในหลายปี สวนกระแสศรัทธาประชาชนอย่างรุนแรง ที่จะแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ เคารพ รู้คุณ ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่น่าเกลียดมากจากการกระทำของกลุ่มบุคคลบางพวก คือ การพยายามปลุกปั่นให้เกิดความเข้าใจผิดในพระสงฆ์เถระ อย่างไม่มีมูลใดๆ อันควรแก่การก่อการ เรื่องดังกล่าวคงไว้ว่ากันต่อไป ซึ่งคงจะต้องพูดคุยกันในสาธารณะให้จบทุกประเด็นว่า ทำไม!? ในห้วงเวลาที่ทุกคนตั้งใจประกอบความดี เพื่อเรียกหาพลังศรัทธาให้กลับคืนมาสู่จิตใจของมหาประชาชน ในฐานะพุทธศาสนิกชน ในฐานะพสกนิกรชาวไทย และในฐานะประชาชนชาวไทย

ก่อนจะนำไปสู่การวิสัชนาในแต่ละประเด็นปัญหา จึงใคร่ขอนำสู่บทความ ว่าตามวิถี ... สร้างคนดี...ฯ เพื่อความเข้าใจในทิศทางอันถูกต้องของที่ไปที่มาของการจัดงานสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย มีรายละเอียดในสาระบทความดังนี้...

“...เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา อาตมาเพิ่งกลับมาจากสัตตาหกรณียะ ไปให้การอบรมวิปัสสนากรรมฐาน ระหว่าง ๑๖-๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ณ สำนักสงฆ์บางไทร อยุธยาฯ มีผู้สนใจเข้ารับการอบรม เพื่อศึกษาปฏิบัติตามกระบวนการสมถวิปัสสนากรรมฐานกันมาก โดยเฉพาะในคืนสุดท้าย ว่ากันตั้งแต่ ๖ โมงเย็นจนถึงเกือบเที่ยงคืน มี “การสวดพระปริตร อธิษฐานจิต เพื่อแผ่นดินไทย” เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหา มหาราชินี ซึ่งทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา ในงานดังกล่าวด้วย โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และภรรยา (นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล) นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผศ.ดร.นิธินันท์ วิศเวศวร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณฐาปนา รักติประกร ข้าราชการในกองงานส่วนพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ตลอดจนบุคคลที่มีศรัทธามาร่วมงานกันพอสมควร เมื่อสวดพระปริตรจบ ก็มีการฟังธรรมเจริญภาวนากันต่อไป โดยคณะศรัทธาสาธุชนได้พร้อมใจกันน้อมถวายเป็นพระราชกุศล ตามคำกล่าวถวายพระพรที่ คุณฐาปนา รักติประกร ได้กล่าวนำสาธุชนกระทำสัตยาธิษฐาน ดุจดังการจัดงานที่วัดพระแก้วในทุกครั้ง

อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้