posttoday

วิถีธรรมนำชีวิตจากบทธรรม ‘ธาตุวิภังค์’(ตอน ๓)

21 สิงหาคม 2555

เรียกว่า อัสสาทะ คือ รื่นเริงยินดี นันทิราคะ-ความกำหนัดยินดี อัสสาทะ-ความรื่นเริงความยินดี ในอัสสาทะมันก็มี อาทีนวะ มันมีโทษ

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เรียกว่า อัสสาทะ คือ รื่นเริงยินดี นันทิราคะ-ความกำหนัดยินดี อัสสาทะ-ความรื่นเริงความยินดี ในอัสสาทะมันก็มี อาทีนวะ มันมีโทษ ในสภาพสิ่งที่ดูเหมือนมีคุณทางโลก มันมีโทษควบคู่อยู่ จึงต้องมองในสิ่งนี้ว่า สิ่งที่เราชอบใจถูกใจนี้ ให้ความรื่นเริงยินดีนี้ ที่จริงมันมีโทษมีทุกข์ควบคุมควบคู่อยู่ เราจะเห็นความเดือดร้อนของการแสวงหาอย่างไม่รู้จักจบสิ้นของสัตว์ทั้งหลายโดยเฉพาะมนุษย์หรือคนเราทั้งหลาย ยิ่งขวนขวายก็ยิ่งทุกข์ แต่เราอาศัยความถูกใจนั้นมาบรรเทาความทุกข์ เรานอนยิ้ม เราเหนื่อยมาทั้งวันที่แบกหามมา แต่เราได้เพชรมาก้อนหนึ่งที่เราไปหามา เราก็ยิ้มสุขใจที่เราได้เพชรก้อนนั้น แต่เราลืมไปว่าที่จริงเราทุกข์มาทั้งวัน กว่าเราจะขุดได้เพชรก้อนนี้ เราเกือบเป็นเกือบตาย ต้องมุดอยู่ใต้อุโมงค์ ต้องขุดลงไปใต้ดิน ต้องต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ นานา ต้องคิดหาเครื่องมือมากมายก่ายกอง แต่พอเราได้เพชรก้อนนั้นมาเรามีความสุขใจ ทั้งที่เพชรก้อนนั้นเราไม่สามารถกินได้เลย ไม่ได้ให้ค่าความรู้สึกที่ให้เกิดประโยชน์อะไรกับเราอย่างแท้จริงเลย

แต่เพราะมันถูกใจในเพชรก้อนนั้น ในความถูกใจนั้นทำให้เรารู้สึกเรามีความสุข นอนหลับอย่างมีความสุข นอนยิ้ม ทั้งที่เราทุกข์มาตลอด ๒๔ ชั่วโมงกว่าจะได้เพชรก้อนนั้นมา ก็หมายความว่าเหมือนคนเราทำมาค้าขายทำงานทั้งหลาย เหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส หวังได้ลาภเงินทองสักก้อนหนึ่ง พอค้าขายได้มาเราก็จะมีความสุขใจ แต่เราลืมไปว่าที่จริงเราทุกข์มาตั้ง ๒๔ ชั่วโมง มีการตั้งกติกาตั้งตารางของเวลาว่า ถ้าคนเรานี้มีอายุ ๖๐ ปี จริงๆ แล้วเรามีความรู้สึกที่มีความสุขอยู่สักกี่นาที นอกนั้นทุกข์เกือบทั้งหมด ความสุขที่จะเกิดขึ้นใน ๖๐ ปีนี้ เรามีความรู้สึกที่มีความสุขใจที่เกิดจากจิตเรามีความปกติ น่าจะไม่เกิน ๓ วัน ใน ๖๐ ปี ลองแยกเป็นนาทีดูในตารางเวลาบอกว่า เราใช้โอกาส ๖๐ ปีนี้ นอนหลับประมาณ ๒๐-๓๐ ปี ก็เทียบตารางเวลาในการนอน

อ่านต่อฉบับพรุ่งนี้