posttoday

เสียงวิพากษ์จาก ดร.กรวิภา กรณีภิกษุณีในพระพุทธศาสนา (เถรวาท) อันควรรับฟัง (ตอน ๕)

24 กุมภาพันธ์ 2555

เจริญพร สาธุชน ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาทุกท่าน...

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพร สาธุชน ผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาทุกท่าน...

สืบเนื่องจากข้อวิพากษ์ของ ดร.กรวิภา ตามที่ได้นำเสนอไปนั้น มีหลายประเด็นปัญหาที่ควรแก่การวินิจฉัยและวิสัชนา เพื่อความเข้าใจที่ดีร่วมกัน ในฐานะของพุทธบริษัทในพระพุทธศาสนา... อาตมายินดีที่จะรับฟังทุกความเห็นที่มาจากความสุจริตใจ และมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพื่อข้อสรุปที่ตรงธรรมะ เพราะอาตมาเชื่อมั่นเสมอว่า ทุกๆ อย่างยุติได้ด้วยธรรม ...มีเหมือนกันที่มีจดหมายเข้ามา เป็นอีเมลสั้นๆ แสดงความเห็นเรื่องของการเดินทางไปอินเดีย ว่าไม่ลำบาก หรือไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่เมื่ออ่าน หรือพิจารณาจากข้อความแล้ว ดูเหมือนว่า การแสดงความเห็นนั้น ออกจะแก้ตัวแทนบริษัทขายตั๋ว หรือสำนักงานการบินที่อำนวยการจัดการบินสู่พุทธคยา และประการสำคัญในเนื้อหานั้น ใช้คำพูดที่ไม่ค่อยเหมาะสม ออกจะมีโทสะจริต มีความรู้สึกที่มีอคติ ดุจเหมือนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการวิพากษ์ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏเป็นเช่นนี้ และเป็นปัญหาอันยาวนานอันควรแก่การได้รับการแก้ไข เพื่อประโยชน์ของชาวพุทธที่จะเดินทางไป ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของบุคคลหรือคนบางกลุ่ม

แน่นอนหละ... หลายๆ คน อาจจะมีความสามารถไปเองได้ หรืออาจจะมีความสามารถซื้อตั๋ว หรือจ้างบริษัททัวร์ได้ แต่นั่น ไม่ใช่เรื่องของปัญหาที่พูดถึง ณ ขณะนี้ ประเด็นปัญหาอยู่ที่ความไม่ยุติธรรมต่อผู้บริโภคต่างหาก ที่ทุกฝ่ายต้องได้รับความสนใจ ก็คือ ศาสนิกชนทั้งหลายที่ควรได้รับการคุ้มครองในเรื่องสิทธิประโยชน์อันควร มิใช่อำนาจของผู้ให้บริการที่มองผลประโยชน์หรือกำไรขาดทุนเป็นตัวตั้ง เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องอัตตา หรือ อนัตตา แต่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่ควรศึกษาในขั้นของศีลธรรมเท่านั้นเอง ซึ่งผู้ประกอบการทัวร์บางคน บางพวกจาบจ้วงล่วงเกินกับพระสงฆ์ หรือกับพระศาสนาก็มีอยู่ เพียงหวังเพื่อเอาใจหมู่คณะบางพวกที่มีบทบาทในพื้นที่ เรื่องดังกล่าวนี้มีปรากฏความจริงกันมากมาย ไว้ค่อยคุยกันต่อไป

สำหรับโยมคนที่เขียนจดหมายอีเมลสั้นๆ มานั้น ดูคำพูดที่ใช้ไม่ค่อยเหมาะสม ไม่ได้ให้ความเคารพเท่าที่ควร แม้จะไปอินเดียมา 5 ครั้ง 10 ครั้ง ก็ไม่ใช่สาระ สาระอยู่ที่ว่า คุณเคารพในฐานะหรือไม่ที่ควรจะใช้ระหว่างบุคคลหรือฆราวาส กับพระสงฆ์ จึงไม่ขอนำเสนอจดหมายฉบับนี้ เพียงแต่กล่าวถึงเพื่อไม่วิพากษ์บุคคล เพราะคอลัมน์นี้ไม่ได้เกี่ยวเนื่องเรื่องของบุคคล แต่พูดเรื่องส่วนรวมต่างหาก ซึ่งจะมอบข้อเท็จจริงทั้งหมดให้กับรัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านพระพุทธศาสนาไปพิจารณาดูว่า จะทำอย่างไรเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ชาวไทยโดยรวม ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่งที่อวดอ้างตนเอง ซึ่งก็คงมีจดหมายนำเสนอข้อเท็จจริงจากผู้ได้รับความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการจัดหาตั๋วเพื่อเดินทางสู่ชมพูทวีป จึงไม่ใช่การพูดเอง เออเอง ยังมีจดหมายอีกหลายฉบับที่เข้ามาสู่คอลัมน์นี้ เพราะได้เปิดพื้นที่นำเสนอต่อสาธารณชนอย่างแท้จริง เพื่อประโยชน์ของชาวพุทธที่ถูกต้องโดยธรรม

เช่นเดียวกันกับกรณีภิกษุณี ที่เกิดจากกรณีวิพากษ์ของ ดร.กรวิภา ตามที่กล่าว ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ แม้อาจจะออกมาทางลบต่อการนำเสนอพระสงฆ์ ซึ่งแน่นอนว่า มีพระสงฆ์มากมาย หลายหมื่นหลายแสนรูป ย่อมเป็นธรรมดาที่จะต้องมีทั้งที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง ก็เหมือนกับญาติโยมทั้งหลายเช่นเดียวกัน การมองเพียงมุมใดมุมหนึ่ง บางครั้งจึงไม่ยุติธรรมกับภาพที่ควร ซึ่งอาตมาจะไม่ขอตอบ ณ ขณะนี้ แต่จะขอนำเสนอจดหมายฉบับหนึ่งที่แสดงความเห็นมาในเรื่องดังกล่าว ก็ขอให้ติดตามอ่านในสาระของจดหมายนี้ดู และช่วยกันพิจารณา เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการเรียนรู้ของทุกๆ ท่าน

อ่านต่อฉบับวันจันทร์