ไหว้พระตรุษจีนเสริมดวงชะตาและสร้างบุญ

ตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ม.ค. เป็นวันพระใหญ่ จึงมีวัดและศาสนสถานสำคัญเปิดให้ประชาชนเข้าบูชาได้ในวันดังกล่าว

โดย..สมาน สุคโต

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ที่จะเปิดวันอาทิตย์และวันพระเท่านั้น วัดนี้สร้างสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศลที่พระมหากษัตริย์ต้องมาประกอบพระราชพิธีทางศาสนาในวันสำคัญๆ ตลอด

สำหรับพระแก้วมรกตนั้น เป็นพระพุทธศิลป์ ศิลปะล้านนา สร้างสมัยอยุธยาตอนต้น เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่คนมีความมั่นใจในความบริสุทธิ์ มักท้าทายคนที่ไม่เชื่อในความบริสุทธิ์ให้สาบานวัดพระแก้วว่า ถ้าไม่จริง ขอให้พระแก้ว พระกาฬหักคอ

สำหรับพระกาฬนั้นสถิตที่ศาลหลักเมืองประจำกรุงเทพมหานคร

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่บริเวณท่าเตียน มีความอลังการหลายอย่างตั้งแต่ศิลปะการก่อสร้าง แหล่งวิทยาการ จนเรียกว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย มีพระพุทธรูปไสยาสน์งามใหญ่มากที่ใครๆ ต้องไปบูชา แม้แต่ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่พลาดวัดแห่งนี้

 

วัดจักรวรรดิราชาวาส ย่านสำเพ็ง เป็นวัดโบราณ ในวัดมีสระจระเข้ใหญ่อยู่ติดกับพระปรางค์ ซึ่งในพระปรางค์นั้นมีพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่ หน้าพระปรางค์เป็นที่ตั้งศาล ประดิษฐานรูปหล่อเจ้าพระยาบดินทรเดชา แม่ทัพคู่ใจของรัชกาลที่ 3 ที่ปกครองเมืองกัมพูชาอยู่หลายปี จนเป็นที่รักของชาวเขมร

วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร หรือวัดเกาะ เป็นวัดโบราณ แต่ความเป็นโบราณเหลือเฉพาะพระพุทธรูปที่เป็นพระประธานของพระอุโบสถเก่าอยู่ในชั้น 3 และชั้น 2 ของพระอุโบสถหลังใหม่ ส่วนพระอุโบสถเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยาไม่มีอะไรเหลือให้เห็น เพราะถูกรื้อในปี 2515 ท่ามกลางการคัดค้านของนักโบราณคดี แต่ก็สู้ความฉลาดของพระสงฆ์ไม่ได้ เพราะรื้อตอนกลางคืนวันศุกร์ เมื่อเปิดทำงานวันจันทร์ไม่มีอะไรเหลือให้เห็น นอกจากพื้นดินเรียบ กรมศิลปากรแจ้งความเอาผิดสมภารว่าทำลายโบราณสถาน ไปขออนุญาตสมเด็จพระสังฆราชวัดราชบพิธฯ เพื่อดำเนินคดี แต่สมเด็จพระสังฆราชไม่ทรงอนุญาต ตรัสว่าคณะสงฆ์จะดูแลเอง

ส่วนพระอุโบสถใหญ่ 3 ชั้น แห่งแรกของไทยที่สร้างขึ้นมาแทนที่เห็นปัจจุบัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้นมาวางศิลาฤกษ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2506

วัดนี้ดังมากขึ้นเมื่อ อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. มาอุปสมบทเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2555 เป็นข่าวไปทุกสื่อ

วัดปทุมคงคา ติดกับวัดสัมพันธวงศ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องงามที่สุดในประเทศไทย อยู่ในพระอุโบสถ อาคารเรียนโรงเรียนวัดปทุมคงคา เป็นโบราณสถาน ศิษย์เก่าโรงเรียนแห่งนี้ ได้แก่ นายป๋วย อึ๊งภากรณ์ พระที่เคยอยู่วัดนี้เป็นนักปราชญ์ที่มีชื่อเสียงของไทย ได้แก่ ท่านพุทธทาสภิกขุ ภายในวัดยังมีแท่นหินประหารกบฏ

เป็นแท่นหินประวัติศาสตร์ กล่าวคือ ครั้งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สำเร็จโทษกรมหลวงรักษ์รณเรศด้วยท่อนจันทน์ ที่วัดปทุมคงคา เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2391 “พึ่งบุญ” ต้นราชสกุลกรมหลวงรักษ์รณเรศ พระราชโอรสองค์ที่ 33 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เมื่อถามว่าเขตสัมพันธวงศ์มีอะไรที่จะอวดได้บ้าง ผู้อำนวยการเขตสมัยหนึ่ง ประวิทย์ พันธุ์วิโรจน์ (พ.ศ. 2547) บอกว่า วัดไตรมิตร อวดได้แน่นอน เพราะมีพระพุทธรูปทองคำใหญ่โตมโหฬารประดิษฐาน ปัจจุบันได้สร้างเป็นมณฑลสูงใหญ่สำหรับพระพุทธรูปทองคำองค์นั้น เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยา แบบเดียวกันนี้มีอยู่ที่วิหารวัดมหรรณพาราม ติดกับศาลเจ้าพ่อเสือ สี่แยกคอกวัว อีกองค์หนึ่ง

ไปไหว้หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรแล้วอย่าลืมชมวิวัฒนาการชุมชนชาวจีนที่มาตั้งรกรากในเมืองไทยตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ด้วย โดยทางวัดจัดเป็นพิพิธภัณฑ์เรียงร้อยชีวิตชาวจีนให้เห็นส่วนหนึ่งที่น่าชมน่าศึกษา โดยเฉพาะการก้าวเข้ามากุมเศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นเขาสร้างกันอย่างไร ดูแค่ธุรกิจการค้าข้าวก็เห็นได้ชัดเพียง 20 ปี เปลี่ยนมือจากฝรั่งเป็นของจีนเรียบร้อย

ที่ใกล้กับวัดไตรมิตรคือซุ้มเฉลิมพระเกียรติ หรือประตูจีน แต่ก่อนตรงนี้เรียกว่า วงเวียนโอเดียน เพราะมีโรงภาพยนตร์โอเดียนตั้งอยู่ เป็นจุดเริ่มต้นของย่านเยาวราช หรือถนนสายทองคำ ซึ่งมีร้านค้าทองคำรวมกันประมาณ 132 ร้านตลอดถนน นับว่าหนาแน่นแห่งหนึ่งของโลก เป็นสถานที่เหมาะสำหรับเศรษฐีไปซื้อทองเพื่อแต๊ะเอียลูกหลาน แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่สนใจซื้อทองมากนัก หากแต่สนใจของกิน เพราะตกค่ำหน้าร้านทองทั้งสองฟากฝั่งแปลงสภาพเป็นร้านอาหาร ตั้งโต๊ะเต็มจนกลายเป็นถนนที่รถติดมากๆ สายหนึ่งตอนกลางคืน

ติดกับซุ้มเฉลิมพระเกียรติเป็นที่ตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ภายในมีเจ้าแม่กวนอิมปิดทองเหลืองอร่ามทั้งองค์ ส่วนมูลนิธินั้นเป็นแห่งแรกที่ตั้งในไทย มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

ถ้าแวะซอยต่างๆ ในถนนเยาวราช จะพบของแปลกๆ เช่น ที่ซอยเท็กซัสสุกี้ หรือโรงหนังเท็กซัสเก่า จะพบสาวผิวขาวจากแผ่นดินใหญ่มาเดินหาลูกค้าแข่งกับสาวไทย และไม่ใช่สาวชาวไทย นอกจากย่านนี้ยังพบได้แถวสามแยกและวงเวียน 22 กรกฎา หากหนุ่มหุ่นดี ท่าทางเป็นเสี่ยเดินไปแถวนั้น จะได้รับการเชื้อเชิญด้วยสายตาจากสาวๆ เหล่านี้ หรือไม่เช่นนั้นก็ด้วยภาษาไทยง่ายๆ ขึ้นห้องไหม

ข้ามมาที่ถนนพาดสาย แต่ก่อนนั้นเห็นร้านเมืองทองขายนาฬิกามิโดเป็นสัญลักษณ์ แต่วันนี้ไม่มีแล้ว ให้เดินไปที่ถนนพาดสายจะพบร้านเครื่องดื่มประจำของคนจีน คือ ร้านกาแฟเก่า 2 ร้าน ได้แก่ เอ็กเต็งพู่กี่ และเอี๊ยะแซ แต่ละร้านประกอบกิจการมานานกว่า 70 ปีแล้วทั้งสิ้น แต่รสชาติกาแฟและชาร้อน ชาเย็น ยังเหมือนเดิม ส่วนราคาไม่เหมือนเดิม (แพงขึ้น)

สองฟากถนนพาดสาย คือ ร้านค้ารองเท้าและโรงพิมพ์ ซึ่งเป็นทั้งของเก่าและใหม่ แต่ที่เก่าจริงๆ คือ โรงพิมพ์ราษฎร์เจริญนั้นไม่มีให้เห็นแล้ว ทั้งๆ ที่โรงพิมพ์นี้เป็นตำนานการพิมพ์นิยายจักรๆ วงศ์ๆ

วัดกันมาตุยาราม ย่านตรอกเต๊า เคยเป็นที่อยู่ของนักปราชญ์ด้านพุทธศาสนาศิษย์กับอาจารย์ คือ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ป.ธ.9 ซึ่งมีผลงานด้านการประพันธ์มากมาย แต่ที่พิมพ์หลายครั้งเป็นที่ต้องการชาวพุทธ คือ พระไตรปิฎกสำหรับประชาชน และกองทัพธรรม ส่วนศิษย์ของท่าน ได้แก่ เสถียร โพธินันทะ ชีวิตและผลงานของท่านผู้นี้น่าทึ่งมาก มีความรู้ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต จนสามารถค้นคว้าประวัติ ศาสตร์พุทธศาสนาทั้งเถรวาท มหายาน และวัชรยานได้ยอดเยี่ยม ถึงแก่กรรมเมื่ออายุเพียง 38 ปี เมื่อปี 2509 ปัจจุบันวัดนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป นอกจากชาวจีนเยาวราชที่มาไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่สร้างขึ้นใหม่

ตามประวัติแล้ววัดนี้เป็นวัดที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 มีพระเจดีย์ทรงลังกาแท้อยู่ 1 องค์ ประตูอุโบสถฝังมุก ซึ่งในกรุงเทพฯ มีเพียงวัดพระแก้ว วัดราชบพิธฯ ผู้สร้างเป็นลูกสาวยายแฟง แม่เล้าที่สร้างวัดคณิกาผล (วัดใหม่ยายแฟง) หน้าโรงพักพลับพลาไชย ที่มาสร้างวัดนี้เพราะในคราวฉลองวัดใหม่ยายแฟง ว่ากันว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรํสี) แสดงพระธรรมเทศนาอานิสงส์สร้างวัดใหม่ยายแฟงว่า ได้อานิสงส์เพียงเฟื้องเดียว เพราะสร้างจากเงินของหญิงคณิกา ผู้เป็นลูกสาวได้ยินก็เคืองจึงปรารถนาว่ามีเงินจากน้ำพักน้ำแรงเมื่อไรจะสร้างวัดใหม่ เมื่อทำธุรกิจได้เงินจึงสร้างที่สวนผักเป็นวัดกันมาตุยาราม ถวายให้เป็นวัดคณะธรรมยุต

 

เป็นที่น่าอัศจรรย์ในซอยแคบๆ หรือตรอกเต๊าแห่งนี้มีวัดอีก 2 แห่ง วัดหนึ่งคือ วัดกุศลสมาคร เป็นวัดอนัมนิกาย สมภารเป็นพระเถระอายุ 84 ปี เป็นเจ้าคณะใหญ่แห่งอนัมนิกาย ที่ส่งเสริมการศึกษาเยาวชนมานาน ติดๆ กันนั้นได้แก่ วัดบำเพ็ญจีนพรต เป็นวัดที่ขนาดเล็กที่สุด เพราะเป็นเพียงตึกห้องเดียว เป็นวัดจีน ที่เด่นของวัดนี้คือพระอรหันต์สิบแปดองค์ทำจากกระดาษเปเปอร์มาเชทุกองค์ พระที่สร้างด้วยเปเปอร์มาเชยังมีที่วัดจีนประชาสโมสร จ.ฉะเชิงเทรา อีกแห่งหนึ่ง อาจารย์สกเห็ง ก่อนที่จะสร้างวัดเล่งเน่ยยี่ เคยมาพำนักที่นี่ระยะหนึ่ง

เพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงแนะนำ วัดมังกรกมลาวาส หรือชื่อจีนว่า “วัดเล่งเน่ยยี่” เสียเลย วัดนี้สร้างเมื่อปี 2414 โดยพระอาจารย์จีนวังสมาธิวัตร (สกเห็ง) เป็นวัดเป้าหมายของชาวจีนในเทศกาลตรุษจีน ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ในช่วงเทศกาลอย่างนี้คนแน่นวัด แต่ละคนถือธูปที่จุดแล้วชูขึ้นเหนือศีรษะ เพราะกลัวไปไหม้คนข้างหน้า ควันธูปจึงฟุ้งเต็มวัด

ภายในวัดมีพระประธานเป็นพระพุทธรูปแบบจีน ท้าวจตุโลกบาลที่วิหารอยู่ด้านหน้า และยังมีรูปปั้นของเทพเจ้าตามความเชื่อในลัทธิเต๋าและเทพเจ้าพื้นเมืองอื่นๆ ของจีนอีกหลายองค์

จากวัดมังกรไป ศาลเจ้าไต้ฮงกง ที่ทุกคนต้องไหว้ก่อนไปบริจาคเงินซื้อโลงศพ ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ศาลนี้อยู่ติดกับวัดคณิกาผลที่กล่าวมาแล้ว

ถ้าจะไปไหว้เจ้าพ่อยี่กอฮง ผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ให้ขึ้นไปดาดฟ้าโรงพักพลับพลาไชย มีศาลเป็นที่ประดิษฐานยี่กอฮง นายอากรบ่อนเบี้ย เจ้าพ่อหวย ก.ข. อยู่ที่นั่น ท่านมีราชทินนามว่า พระอนุวัฒน์ราชนิยม ชื่อเดิมว่า ฮง นามสกุล เตชะวนิช

ส่วนศาลเจ้าย่านเยาวราชนั้นมีไม่น้อยกว่า 20 แห่ง แต่ไม่ได้เอ่ยมา ณ ที่นี่ ท่านเลื่อมใสแห่งไหนก็แวะไปแห่งนั้น ส่วนที่แนะนำวัดบางแห่งย่านเยาวราชและที่อื่นๆ อีก 23 วัดถือว่าเป็นจำนวนน้อย เพราะยังมีวัดอีกหลายแห่งย่านฝั่งธนฯ ที่ไม่ได้แนะนำ แต่ก็มีความสำคัญมิใช่น้อย เช่น วัดกัลยาณมิตร วัดระฆังโฆสิตาราม และวัดอรุณราชวราราม เป็นต้น จึงแนะว่าท่านอยู่ใกล้วัดไหน ไปวัดนั้นก็แล้วกัน เพราะทำบุญย่อมได้บุญ