แวดวงสงฆ์

แวดวงสงฆ์ วันนี้ เริ่มจากรายงานจากกรุงโรมที่ สมหมาย สุภาษิต ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

แจ้งมาว่า 28 ต.ค. 2554 พระพรหมโมลี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรวิหาร พร้อมด้วย พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดร.อำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และคณะ โดยการมอบหมายจากมหาเถรสมาคมได้เข้าร่วมประชุมเพื่อสันติภาพโลก ณ ประเทศอิตาลี ทั้งนี้คณะผู้แทนมหาเถรสมาคมได้เดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีรถไฟในนครวาติกัน มุ่งหน้าสู่เมืองอัสซีซี พร้อมกับขบวนองค์สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 เพื่อร่วมสวดภาวนาเพื่อสันติภาพของโลก ณ มณฑลพิธีในโบสถ์เซนต์ฟรานซิส เมืองอัสซีซี ซึ่งมีการกล่าวสุนทรพจน์จากผู้นำศาสนาต่างๆ ทั่วโลก โดยสมเด็จพระสันตะปาปาได้เรียกร้องให้ทุกศาสนาทั่วโลกร่วมกันสร้าง สันติภาพที่เป็นธรรม

พระพรหมโมลี ในฐานะผู้แทนมหาเถรสมาคมของประเทศไทย และในนามของชาวพุทธทั่วโลก ได้กล่าวให้คำสัตยาบันท่ามกลาง มหาเถรสมาคมว่า “เราขอให้คำมั่นที่จะรับฟังและสนับสนุนคำอ้อนวอนของผู้ที่ปฏิเสธความรุนแรงและสิ่งชั่วร้าย และเราปรารถนาที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้บุรุษและสตรีแห่งยุคสมัยของเรามีความหวังแน่วแน่ต่อความยุติธรรมและสันติภาพ”

สมเด็จพระสันตะปาปาได้กล่าวปิดประชุมว่า “จงอย่าได้มีสงครามและความขัดแย้งใดๆ ในโลกนี้อีกเลย” หลังจากนั้นได้มีพิธีจุดเทียนเพื่อสันติภาพก่อนเดินทางกลับกรุงโรม

คณะผู้แทนมหาเถรสมาคมยังได้มีโอกาสเข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 16 ณ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในสำนักวาติกัน นครวาติกัน กรุงโรมอีกด้วย

ณ เวลานี้ จิตใจพระเถระหลายรูป มุ่งช่วยเหลือประชาชนและวัดต่างๆ ที่ประสบกับมหาอุทกภัยที่คนในยุคนี้ไม่เคยพบเห็น โดยเฉพาะวัดนั้นโดนไป 2,202 วัด พระสงฆ์ 2.3 หมื่นรูป แต่ก่อนเคยเห็นน้ำท่วมในภาคกลางช่วงเดือน 12 น้ำนองตลิ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ และถือเป็นเทศกาลแห่งความสุข เพราะได้ทำบุญกฐินและลอยกระทงในกลางเดือน 12 แต่น้ำท่วมปีนี้กลายเป็นมหันตภัย เพราะท่วมผิดฤดูกาล มันท่วมมาตั้งแต่เดือน ส.ค. ลากยาวมาถึงเดือน พ.ย. และยังไม่มีใครบอกได้ว่าเดือน ธ.ค. จะเหือดแห้งหรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเป็นโอกาสให้พระเถระหลายรูปทำงานเพื่อประชาชนและพระสงฆ์ด้วย เช่น พระธรรมคุณาภรณ์ วัดปทุมคงคา คุยว่าลงไปช่วยวัดและประชาชนที่ถูกน้ำท่วมในหลายพื้นที่ พร้อมกันนั้นก็คอยบัญชีรายชื่อสมณศักดิ์ใหม่ เพื่อจัดทำทำเนียบสมณศักดิ์ประจำปีด้วยความกระวนกระวายใจ เพราะยังไม่ได้มา

ส่วนพระเถระอีกหลายรูปลุ้นว่าจะมีชื่อติดในโผ 85 รูป ที่มีการสถาปนา เลื่อน และแต่งตั้งสมณศักดิ์เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. 2554 นี้หรือไม่ เว้นแต่พระเถระที่มีข้อมูลวงในและชัวร์ว่าได้สมณศักดิ์ใหม่ต่างก็ยิ้มแย้ม โยมเห็นก็ยังชมว่าราศีจับ ไปดูได้ที่วัดพิชยญาติการาม วัดไตรมิตร วัดอินทร์ บางขุนพรหม วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดสระเกศ วัดธาตุทอง วัดจันทาราม บางยี่เรือ วัดแก้วฟ้าจุฬามณี วัดบวรนิเวศ วัดกลาง ปากน้ำ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ดำเนินสะดวก และวัดพระธรรมกาย สำนักใหญ่ปทุมธานี ที่มีข่าวว่าเจ้าสำนักได้รับเลื่อนเป็นชั้นเทพ

วันที่ 5 พ.ย. 2554 สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธ และ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศ เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ (งานทอดกฐินและวางศิลาฤกษ์กุฏิสมเด็จ และพระเจดีย์ที่วัดป่าพุทธคยา อินเดีย แบบไปเช้าเย็นกลับ โดยเครื่องบินเหมาลำ) ทั้งนี้ พระพรหมเมธี (จำนงค์) วัดสัมพันธวงศ์ และ พระครูปลัดสุวัฒนเมตตาคุณ (หลวงพ่อจิ๋ว) วัดป่าธรรมชาติ ชลบุรี ไปรอรับอยู่ก่อนแล้ว

พระธรรมวราภรณ์ (มนตรี) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 11 (ธ) เจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ จัดพิธีทำบุญใส่บาตรพระภิกษุสามเณรวันละ 100 รูปทุกเช้า ทุกวันที่วัดเครือวัลย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระประมุขของชาติ ส่วนพระภิกษุสามเณรที่รับนิมนต์มารับบาตรเกือบทุกวันได้แก่ พระเณรนักศึกษาปริยัติธรรมและบาลีจากสำนักวัดโมลีโลกยารามที่อยู่ใกล้กัน พระเณรนักศึกษาที่วัดนี้นับร้อยรูปเรียนเก่งๆ เป็นส่วนมาก (สอบได้ประโยค 9 ทุกปี) ต้องบิณฑบาตเลี้ยงตัวเองทุกรูปทุกวัน แม้จะเป็นสำนักเรียนใหญ่ แต่หามีโรงครัวสนับสนุนไม่ ผู้ที่ต้องการร่วมบุญร่วมใส่บาตรติดต่อได้ที่วัด