posttoday

ศาลสั่งจำคุก7โจ๋รุมฆ่าชายพิการขายขนมปังคนละ12-19ปี

26 ธันวาคม 2560

โดนเรียบ! ศาลพิพากษาจำคุก 7 วัยรุ่นรุมฆ่าชายพิการขายขนมปังย่านโชคชัย4 คนละ 12-19 ปี ทนายเตรียมอุทธรณ์ขอเพิ่มโทษ

โดนเรียบ! ศาลพิพากษาจำคุก 7 วัยรุ่นรุมฆ่าชายพิการขายขนมปังย่านโชคชัย4 คนละ 12-19 ปี ทนายเตรียมอุทธรณ์ขอเพิ่มโทษ

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้นัดฟังคำพิพากษา ในคดีที่กลุ่มวัยรุ่น 7 คนก่อเหตุรุมทำร้าย นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ชายพิการ พ่อค้าขายขนมปังย่านโชคชัย 4 จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2559

คดีนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง กลุ่มวัยรุ่นประกอบด้วย นายพีรพล, นายอัครเดช, นายมนต์มนัส, นายจตุพร, นายเมฆ, นายอรินทร์, และ น.ส.ณัฐณิชา เป็น จำเลยที่ 1 -7 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีพยานบุคคล พยานวัตถุภาพถ่ายภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นหลักฐานมั่นคงและขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 08.00 – 09.00 น. มีแสงสว่างเพียงพอ มีกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานครและกล้องมือถือที่ถ่ายไว้จากพยานซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับฝ่ายใด เชื่อว่าพยานเบิกความไปตามข้อเท็จจริง

ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1 – 7 มีความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานบุกรุก สั่งจำคุกจำเลยที่ 2 ,4, 5, 6 เป็นเวลา 1 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาสั่งจำคุกจำเลยที่ 1, 2, 3, 6 เป็นเวลา 18 ปี ฐานช่วยเหลืออำนวยความสะดวก สั่งจำคุกจำเลยที่ 4 ,5 และ 7 เป็นเวลา 12 ปี ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรสั่งปรับจำเลยที่ 1, 2 ,3 ,4, 5, 6 คนละ 1,000 บาท

รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และ 3 เป็นเวลา 18 ปีปรับ 1,000 บาท จำเลยที่ 2 และ 6 รวมโทษจำคุก 19 ปีปรับ 1,000 บาท จำเลยที่ 4, 5 และ 7 ลงโทษจำคุก 12 ปีปรับ 1,000 บาท

และให้จำเลยที่ 1, 2, 3, 6 ร่วมกันชดใช้เงินให้กับโจทก์ร่วม จำนวน 5 แสนบาท และให้จำเลยที่ 4,5,7 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ,2 ,3 ,6 ชดใช้เงิน 250,000 บาท

ขณะที่ นางทองคำ ศรีจันทร์ มารดาของผู้ตาย ซึ่งร่วมเป็นโจทก์ได้เดินทางมาศาล พร้อมด้วย นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ รวมถึงญาติและผู้มาให้กำลังใจหลายคน

นางทองคำ กล่าวก่อนเข้าฟังคำพิพากษา ว่า วันนี้ก็เป็นวันที่ศาลนัดตัดสินคดีแล้ว ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่ที่ศาล และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้รับการติดต่อหรือรับความช่วยเหลือใดๆ จากฝ่าย จำเลย  จนถึงขณะนี้ตนเองก็พอจะทำใจได้บ้างแล้ว ก็ให้อภัย อยากจะขอฝากเตือนเด็กๆ รุ่นหลังๆ ว่าอย่ากระทำแบบนี้เลยเพราะมันไม่ดี 

ด้าน นายอนันต์ชัย กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า เตรียมจะยื่นอุทธรณ์เนื่องจากเห็นว่าอัตราโทษยังน้อยเกินไป และต้องการให้มีการเพิ่มโทษมากกว่านี้

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ