posttoday

ประหาร!"หนุ่มสเปน"ฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติทิ้งเจ้าพระยา

21 เมษายน 2560

ศาลสั่งประหารชีวิต'หนุ่มสเปน' ฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ โยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี 59 ชี้แรงจูงใจคือเงินในบัญชีผู้ตายหลายสิบล้าน

ศาลสั่งประหารชีวิต'หนุ่มสเปน' ฆ่าหั่นศพเพื่อนร่วมชาติ โยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี 59 ชี้แรงจูงใจคือเงินในบัญชีผู้ตายหลายสิบล้าน

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ห้องพิจารณา 713 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฆ่าหั่นศพ หมายเลขดำ อ.1372/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอาเธอร์ เซการา พรินเซพ หรืออาร์ตู (Mr.Segarra Princep Artur ) อายุ 38 ปี สัญชาติสเปน เป็นจำเลย ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย,หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ,ลักทรัพย์ และข้อหาอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4), 199, 310

สืบเนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 30 ม.ค.59 เวลา 08.20 น. ได้พบชิ้นส่วนของนายเดวิด เบอเนต โมราด ชาวสเปน ลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยา ติดบริเวณอู่ต่อเรือเอกชนแห่งหนึ่งใกล้วัดคฤหบดี แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. และอีกหลายชิ้นลอยมาในแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตรับผิดชอบ สภ.เมืองนนทบุรี , สภ.ปากเกร็ด และ สภ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี โดยการสืบสวนสอบสวน พบว่าจำเลยพาผู้ตายเข้าไปในห้องพักพีจี คอนโด พระราม 9 อสมท. แขวง – เขตห้วยขวาง กทม. จากนั้นได้ฆ่าผู้ตายก่อนหั่นศพ และนำชิ้นส่วนทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยาตามจุดต่างๆ ก่อนหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้ตาย จำนวน 734,940 บาท ไปอยู่ที่ตลาดการค้าชายแดนบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

ศาลเบิกตัว นายอาเธอร์ จำเลย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อฟังคำพิพากษา ซึ่งนายอาเธอร์ ถูกคุมขังมานานกว่า 1 ปี 2 เดือน นับตั้งแต่ถูกจับกุมและฝากขังเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 และชั้นพิจารณาคดี นายอาเธอร์ จำเลยแถลงต่อศาลให้การปฏิเสธทุกกล่าวข้อหาโดยระบุว่าได้อาศัยอยู่ในคอนโดดังกล่าวแต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ตาย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าแม้คดีนี้โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยกระทำความผิด แต่เมื่อพิจารณาจากพยานแวดล้อม ประกอบคำเบิกความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่คอนโดและพื้นที่ใกล้เคียงพบภาพนายอาเธอร์ พานายเดวิด ผู้เสียชีวิตเข้าไป แต่ไม่ปรากฎภาพว่านายเดวิด ออกมาจากคอนโดดังกล่าว และยังพบภาพจากกล้องวงจรปิด และพยานเบิกความว่านายอาเธอร์ ขี่รถจักรยานยนต์บรรทุกถุงดำออกจากคอนโด จนมีผู้พบชิ้นส่วนศพในภายหลัง และยังพบหลักฐานว่านายอาเธอร์ ซื้อตู้แช่แข็ง เครื่องเจียไฟฟ้า และใบเลื่อยขนาดต่างๆในช่วงก่อนเกิดเหตุ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานยัง ตรวจสอบห้องพักในคอนโด พบคราบเลือดที่ผนังห้องน้ำ มีดีเอ็นเอตรงกับนายเดวิด รวมถึงพบดีเอ็นเอในเครื่องเจียลูกหมู ซึ่งเป็นพยานหลักฐานสำคัญ ทางนิติวิทยาศาสตร์ มีความถูกต้อง แม่นยำ เชื่อถือได้

ส่วนมูลเหตุจูงใจมีเจ้าหน้าที่ธนาคาร เบิกความเชื่อมโยงกันว่าพบการโอนเงินจากบัญชีของนายเดวิด ผู้เสียชีวิตจากประเทศสิงคโปร์ เข้าบัญชีของนายอาเธอร์ จำเลย และยังมีแฟนสาวของจำเลย เบิกความว่านายอาเธอร์จำเลยให้บัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน และจากหลักฐานแสดงว่านายเดวิด มีเงินฝากหลายสิบล้านบาทเชื่อว่าเป็นเหตุจูงใจฆ่าเพื่อเอาเงินของนายเดวิด ผู้เสียชีวิต โดยนำตัวมากักขัง บังคับเอาข้อมูลส่วนตัว รหัสธนาคาร ก่อนฆ่าโดยนำศพแช่แข็ง แล้วใช้เครื่องเจียลูกหมู และเลื่อยหั่นศพ โดยนำชิ้นส่วนไปทิ้งยังที่ต่างๆ

ศาลจึงพิพากษา ประหารชีวิตนายอาเธอร์ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฐานนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปใช้ จำคุก 5 ปี ฐานนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จำคุก 10 ปี ฐานปลอมแปลงข้อมูลอีเมล์ จำคุก 4 ปี  และฐานทำลาย ซ่อนเร้น อำพรางศพ จำคุก 2 ปี แต่เมื่อศาลลงโทษประหารชีวิตแล้วจึงไม่อาจรวมโทษจำคุกในข้อหาอื่นได้ พร้อมให้คืนเงินกว่า 7 แสนบาท กับญาติผู้เสียชีวิต

ขณะที่บรรยากาศในห้องพิจารณาคดีมีเจ้าหน้าที่จากกงสุลสเปน ผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดี รวมถึงญาติของนายอาเธอร์ จำเลย ซึ่งภายหลังศาลพิพากษาญาติได้ร้องให้และเข้ากอดนายอาเธอร์ แต่นายอาเธอร์ กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย และยิ้มแย้ม