ส่งฝากขังกลุ่มผู้ต้องหาคดีฆ่าน้องปอนด์พร้อมค้านประกัน
ตำรวจคุมตัว 16 ผู้ต้องหาคดีฆ่าน้องปอนด์ฝากขังพร้อมค้านประกัน "ศรีวราห์"ชี้มีพฤติกรรมข่มขู่พยาน
ตำรวจคุมตัว 16 ผู้ต้องหาคดีฆ่าน้องปอนด์ฝากขังพร้อมค้านประกัน "ศรีวราห์"ชี้มีพฤติกรรมข่มขู่พยาน
เมื่อวันที่ 14 มี.ค. พนักงานสอบสวนได้คุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 16 คน ในคดีฆาตกรรมนายธีระพงษ์ หรือปอนด์ ฐิตะฐาน นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ไปฝากขังต่อศาลอาญา โดย 1 ในผู้ต้องหาเป็นเยาวชนจึงนำตัวส่งไปศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 16 คนยังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่เป็นเรื่องทะเลาะวิวาทและไม่มีเจตนาที่จะฆ่า และเป็นการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากผู้ตายมีรูปร่างที่ใหญ่โตกว่า โดยมี 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา ที่ยอมรับด้วยว่า เป็นผู้ที่ใช้ไขควง ซึ่งหยิบจากในห้องของผู้ตาย มาใช้เป็นอาวุธแทงจริง แต่ผู้ต้องหารายนี้จะเป็นใคร และเป็นบุตรชายของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้นคงบอกไม่ได้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำในครั้งนี้ รวมกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ ก็พบว่าสอดคล้องกับข้อเท็จจริง รวมทั้งผู้ต้องหายังได้เซ็นรับสารภาพในสำนวนอีกด้วย ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวไปแล้วทั้งหมด 5 ข้อหาด้วยกัน คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ร่วมกันบุกรุกในเคหะสถานในเวลากลางคืนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำร้ายร่างกายผูอื่น และอั้งยี่ซ่องโจร ส่วนจะแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนหรือไม่นั้น ก็อยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องเจตนาอีกครั้ง
"ในคำร้องฝากขัง พนักงานสอบสวนจะขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่พยาน ตามที่มีผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.ชะอำ แล้ว"พลต.อ.ศรีวราห์กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า สำหรับการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คงจะยังไม่นำตัวไป เนื่องจากทางฝ่ายผู้ต้องหาเองก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย แต่ตนให้ขอหมายค้นเพื่อเก็บหลักฐานที่บ้านพักของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุในกทม.ด้วย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ยอมรับด้วยว่า ในกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีลูกของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 1 คน ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้ได้รายละเอียดหลายส่วน จากสำนวนเดิม เนื่องจากมีบางประเด็นที่กลุ่มผู้ต้องไม่เคยให้การ แต่ก็เพิ่งจะมาให้ปากคำในครั้งนี้ รวมทั้งยังให้การพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นอีกหลายคน ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่หากพยานหลักฐานถึงก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"จากการจรวจสอบสำนวนเดิม ก็ต้องยอมรับว่าพบว่ายังมีข้อบกพร่องในบางส่วน แต่ก็เป็นเรื่องปกติซึ่งไม่มีสาระสำคัญอะไร"รองผบ.ตร. กล่าว