posttoday

น.1แถลงจับอุปกรณ์มือถือละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กว่า 30 ล.

15 กุมภาพันธ์ 2560

ผบช.น. แถลงผลการจับกุมตรวจยึดอุปกรณ์มือถือ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญากว่า 7 หมื่นกว่าชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

ผบช.น. แถลงผลการจับกุมตรวจยึดอุปกรณ์มือถือ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญากว่า  7 หมื่นกว่าชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

เมื่อเวลา10.00น. วันที่ 15 กพ. ที่สน.ปทุมวัน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผบช.น. พ.ต.อ.ณัฐนันท์ นายาสมบัติ รอง ผบก.น.7 ในฐานะหัวหน้าชุด ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ดุสิต วาลีประโคน รอง ผกก.สส.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ศรายุทธ บุญธรรม รองผกก.ป.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส.สน.บางโพงพาง พ.ต.ท.ธนเมศฐ์ วิจิตรจริยา สว.กก.สส.2.บก.สส.บช.น. ชุดปลป.บช.น. และนายพรโรจน์ แก้ววินิจ ตัวแทนผู้เสียหายจากบ.ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ลิมิเต็ด และบ.แอปเปิ้ล อิงค์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายไพสันต์ จันอุบล อายุ 41 ปี พร้อมของกลาง โทรศัพท์ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน และอุปกรณ์ยี่ห้อซัมซุงและยี่ห้อแอปเปิ้ล(หูฟัง สายชาร์ท ปลั๊กเสียบ) รวมทั้งสิ้น จำนวน 76,807 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และตำรวจนครบาล ได้รับแจ้งว่ามีการลับลอบลำเลียงสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านทางตู้คอนเทนเนอร์ และนำมาซุกซ่อนอยู่บริเวณอาคาร5 ชั้นเลขที่74/37-38 ถนนจรัสเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. พื้นที่สน.ปทุมวัน ก่อนขอหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ค.30/2560 ลงวันที่14ก.พ.60 เพื่อตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบนายไพสันต์ แสดงตนเป็นผู้ดูแล พร้อมของกลาง อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ 76,809 ชิ้น จึงยึดของทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวันดำเนินการ

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับสินค้าที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดนั้น ทางตำรวจไทยได้รับการประสานจากUSCR ว่าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆจะถูกส่งให้กับห้างสรรพสินค้าดังแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยถูกจัดอยู่ในลำดับที่2 เกี่ยวกับการเก็บและผลิตสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ จึงอยากฝากถึงประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ที่รับสินค้าไปจำหน่าย อยากขอให้หยุดซะ เพราะมันจะส่งผลกระทบถึงประเทศชาติ ถ้าไม่มีแหล่งรับซื้อจากที่ประเทศไทยอยู่ที่ระดับ2 ก็จะเลื่อนมาระดับ1 ไม่ใช่ไประดับ3(ระดับที่ร้ายแรงที่สุด) หลังจากนี้ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผล หากพบว่ามีการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อีก ก็จะทำการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง

เบื้องต้นแจ้งข้อหาจำหน่าย เสนอจำหน่าย มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าผู้อื่น ที่ได้จดทะเบียนไว้ในราชอาณาจักร และซื้อหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้เสียภาษีหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้ผ่านวิธีทางศุลกร หรือหลีกเลี่ยงภาษีอากร

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กล่าวถึงกรณีการจัดเสวนา "ตำรวจมีไว้ทำอะไร" ว่าสำหรับกรณีนี้ทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ดำเนินงานเสวนาคือ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณะบดีวิทยาณวัตกรรมสังคม มหาวิทยารังสิต และพ.ต.อ.วรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อดีตรอง ผบก.ภ.จว.ชัยนาท ไว้แล้วเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ สน.ลุมพินี โดยแจ้งข้อหา "หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการออกหมายเรียกบุคคลทั้ง 2 เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี และจะต้องนำเทปการเสวนางานดังกล่าวมาตรวจสอบว่ามีเจตนาหรือจงใจทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสียหรือไม่ ซึ่งในส่วนรายละเอียดคดีอยู่ระหว่างการตรวจสอบดำเนินการยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้