กสทช.ขู่เอาขำ?

โดย...สันทัด กรณี

ตามดูผลงานของ กสทช.ไล่ปิดเว็บไซต์ผิดกฎหมาย และเว็บเพจในเฟซบุ๊กที่ไม่พึงประสงค์ของทางการ ถ้าเป็นการสอบก็สอบตก

เมื่อแรกที่ กสทช. หรือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรียกประชุม สมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ (อินเตอร์เนชั่นแนล อินเทอร์เน็ต เกตเวย์ หรือไอไอจี) เมื่อวันนี้ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ดูแล้วช่างกร้าวแกร่งน่าเกรงขาม

คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. แกบอกว่า ในส่วนของเฟซบุ๊กนั้น พบว่ามีเพจที่มีปัญหาและยังไม่ได้ดำเนินการนำข้อมูลลง 309 เพจ ล่าสุดได้ดำเนินการเอาข้อมูลออกไปแล้ว 178 เพจ เหลือเพจที่ยังไม่ดำเนินการ 131 เพจ

โดยให้ปิดเพจไม่พึงประสงค์ภายในวันที่ 16 พ.ค. หากเว็บเพจที่เหลือดังกล่าว ทางเฟซบุ๊กยังนำออกจากระบบไม่หมด ก็จะเชิญเฟซบุ๊กในประเทศไทยเข้ามาหารืออีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศไทยและทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไทยเกิดขึ้นให้ได้

ผมเป็นงงว่า กสทช.มีอาวุธอะไรในมือที่จะทำให้เฟซบุ๊กดำเนินการตามที่ต้องการ

ครับ... เมื่อดูบรรดาเพจไม่พึงประสงค์ พบว่า ประเด็นหลักเป็นเพจนำเสนอเรื่องราวหมิ่นเหม่กระทบต่อสถาบันเบื้องสูง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เรื่องหนึ่ง

เป็นเว็บเพจที่นำเสนอเรื่องราวกระทบความมั่นคง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เรื่องหนึ่ง

และเป็นเว็บเพจที่นำเสนอเรื่องราวลามกอนาจาร อีกเรื่องหนึ่ง

เฮ้อ...เรียนตามตรงเกรงว่าประเทศเราจะกลายเป็นตัวตลกไปซะเปล่าๆ เมื่อมองวิธีการการดำเนินการของ กสทช. โดยใช้หมายศาลดำเนินคดีกับบรรดาเว็บเพจเจ้าปัญหา เป็นเครื่องมือในการนำส่งไปยังเฟซบุ๊กให้ดำเนินการปิดเพจเหล่านั้นตามคำสั่งศาลไทย

คงต้องท่องไว้ละครับ ว่าต้องอย่าลืมถึงโลกแห่งความเป็นจริงที่ว่า บางเรื่องนั้นแม้เป็นบ้านเราถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญาขั้นรุนแรง แต่ทางประเทศถิ่นกำเนิดของเฟซบุ๊กไม่ได้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ดังนั้น เมื่อวานนี้ผมเข้าไปส่องเพจเจ้าปัญหา ปรากฏว่าตอนนี้ก็ยังบรรเลงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์บางสิ่งตามปกติ โดยที่เฟซบุ๊กไม่ได้ไปแตะต้อง จะมีก็เพียงเฟซบุ๊กบอกไปยังเจ้าของเว็บเพจว่า ทางการไทยขอให้บล็อกกระทู้และความเห็นบางชิ้น

ครับ...คงเห็นแล้วว่า เฟซบุ๊กไม่ได้ไยดีในคำขู่ ขู่เขาไปก็รังแต่จะสร้างปัญหาให้สาหัสขึ้น (คุณฐากรคงประจักษ์) วิธีอื่นดีกว่านี้มีไหม ลองคิดสิครับ

ที่ดูเข้าท่าที่สุดก็ท่านนายกฯ ลุงตู่ผมนี่แหละ “รัฐบาลไม่สามารถบังคับเฟซบุ๊กได้...ซึ่งขณะนี้พยายามขอความร่วมมือกับรัฐบาลต่างประเทศ ภาคเอกชน และคนที่รับผิดชอบโดยตรง”

ภาษาดอกไม้แบบนี้...น่ารัก!