เลือกตั้ง69 กำหนดทิศทางอนาคตประเทศ บนเสาหลักประชาธิปไตย
การเปิดรับสมัคร สส. คือจุดเริ่มตัดสินอนาคตประเทศ ท่ามกลางวิกฤตรอบด้าน ประชาชนต้องเลือกพรรคที่เคารพเสาหลักชาติ ไม่สร้างความแตกแยก และพาประเทศเดินหน้ามั่นคง
KEY
POINTS
- การเลือกตั้งปี 2569 เป็นการกำหนดทิศทางของประเทศท่ามกลางความท้าทายรอบด้านที่ต้องเผชิญ
- ประชาชนควรพิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่เคารพและธำรงรักษาเสาหลัก 5 ประการของชาติ ได้แก่ สถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพ ศาสนา ประชาชน และนักการเมือง
- การตัดสินใจเลือกตั้งไม่ได้ขึ้นอยู่กับนโยบายเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงจุดยืนของพรรคที่ไม่สร้างความแตกแยกและบั่นทอนความมั่นคงของชาติ
บทบรรณาธิการ
ปี่กลองการเมืองเริ่มดังขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเปิดรับสมัครผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตทั่วประเทศ คำถามสำคัญที่ตามมาคือ ประชาชนควรเลือกพรรคการเมืองใดให้เข้าไปทำหน้าที่ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ในห้วงเวลาที่ประเทศกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ตั้งแต่วิกฤตชายแดน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหาเศรษฐกิจ ไปจนถึงแรงกดดันจากภูมิรัฐศาสตร์โลก
ก่อนตัดสินใจเลือก ลงคะแนนวันที่ 8 ก.พ. 2569 จำเป็นต้องทำความเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 สังคมไทยตั้งอยู่บนเสาหลักสำคัญ 5 ประการ ได้แก่ สถาบันพระมหากษัตริย์ กองทัพ ศาสนา ประชาชน และนักการเมือง ซึ่งเกื้อหนุนกันเป็นองค์ประกอบของชาติ
การเลือกพรรคการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ จึงไม่ใช่เพียงการพิจารณานโยบายเฉพาะหน้า หากแต่ต้องคำนึงถึงเจตนาและจุดยืนของพรรคนั้นว่าเคารพและธำรงรักษาเสาหลักของประเทศหรือไม่ ไม่สร้างความแตกแยกทางความคิด และไม่บั่นทอนความเป็นปึกแผ่นของสังคม ไม่ว่าจะจากบทเรียนในอดีต ท่าทีในปัจจุบัน หรือแนวโน้มในอนาคต เพราะหากเสาหลักใดเสาหลักหนึ่งถูกทำให้สั่นคลอน ความเป็นชาติย่อมอ่อนแรงลงไปพร้อมกัน
ท้ายที่สุด การตัดสินใจลงคะแนนเป็นสิทธิและหน้าที่ของประชาชน นโยบายหาเสียงของแต่ละพรรคอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไม่มากนัก แต่สาระสำคัญอยู่ที่ความรับผิดชอบต่อประเทศ ความเคารพต่อโครงสร้างพื้นฐานของสังคม และความสามารถในการพาประเทศก้าวผ่านวิกฤตไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน
เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง


