posttoday

อำนาจรัฐบาลรักษาการที่ต้องสำรวม นำพาประเทศชาติสู่เลือกตั้ง69

12 ธันวาคม 2568

อำนาจรัฐบาลรักษาการหลังยุบสภายังเดินต่อเพื่อประคองรัฐ แต่ถูกจำกัดนโยบาย การแต่งตั้ง และการใช้อำนาจการเมือง เพื่อรักษาความเป็นธรรมของการเลือกตั้งที่โปร่งใสได้

KEY

POINTS

  • รัฐบาลรักษาการมีสถานะเพื่อประคองการบริหารประเทศในช่วงเปลี่ยนผ่านหลังยุบสภา โดยมีอำนาจจำกัดเพื่อนำพาชาติสู่การเลือกตั้งที่เป็นธรรม
  • อำนาจถูกจำกัดเข้มงวด โดยห้ามอนุมัตินโยบายหรือโครงการที่สร้างภาระผูกพันต่อรัฐบาลชุดต่อไป และห้ามแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งสำคัญทางการเมือง
  • ต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบ และยังคงอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากองค์กรอิสระและศาล

อำนาจรัฐบาลรักษาการหลังยุบสภา
บริหารประเทศได้ แต่ถูก “ล็อกอำนาจ” ทางการเมือง

ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรีมิได้สิ้นสุดหน้าที่ลงทันที หากแต่เปลี่ยนสถานะเป็น “คณะรัฐมนตรีรักษาการ” ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินต่อไป จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการ

หลักคิดของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 คือ ไม่ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศทางอำนาจ แต่ในขณะเดียวกันก็ จำกัดอำนาจเชิงนโยบายและการเมืองอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลที่หมดความยึดโยงกับสภา ใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ตนเองหรือพรรคการเมืองในช่วงเลือกตั้ง
 

หัวใจของสถานะ “รัฐบาลรักษาการ” จึงไม่ใช่อำนาจเต็มรูปแบบ หากเป็นอำนาจเพื่อ “ประคองรัฐ” ในช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น

อำนาจรัฐบาลรักษาการที่ต้องสำรวม นำพาประเทศชาติสู่เลือกตั้ง69

อำนาจที่รัฐบาลรักษาการ “ยังทำได้”

แม้สภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ แต่ฝ่ายบริหารยังคงต้องทำให้กลไกรัฐเดินต่อ โดยรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้รัฐบาลรักษาการใช้อำนาจได้เฉพาะภารกิจจำเป็น ดังนี้

บริหารราชการแผ่นดินตามปกติ
รัฐบาลยังมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของรัฐ การคลัง การต่างประเทศ และการให้บริการสาธารณะ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากสุญญากาศทางการเมือง

ใช้อำนาจตามกฎหมายที่มีอยู่เดิม
การออกคำสั่งทางปกครอง การดำเนินงานของส่วนราชการ รวมถึงการแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการในกรอบปกติ ยังสามารถทำได้ หากเป็นไปเพื่อความต่อเนื่องของราชการ

รับมือเหตุฉุกเฉินหรือวิกฤตของประเทศ
ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติ ความมั่นคง สาธารณสุข หรือสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วน รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจตัดสินใจเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ

สนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง
รัฐบาลสามารถสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเชิงธุรการ งบประมาณ และการอำนวยความสะดวก โดยต้องไม่แทรกแซงกระบวนการทางการเมือง

กรอบความคิดสำคัญในช่วงนี้คือ “รัฐต้องเดินต่อ แต่การเมืองต้องเป็นธรรม”

 

อำนาจรัฐบาลรักษาการที่ต้องสำรวม นำพาประเทศชาติสู่เลือกตั้ง69

อำนาจที่ “ถูกห้ามหรือจำกัดอย่างเข้มงวด”

จุดที่ทำให้รัฐบาลรักษาการแตกต่างจากรัฐบาลปกติอย่างชัดเจน คือ ข้อจำกัดทางนโยบายและการเมือง ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อรักษาความเสมอภาคในการเลือกตั้ง

รัฐบาลรักษาการ ไม่ควรดำเนินการ ในเรื่องต่อไปนี้

ห้ามออกนโยบายใหม่ที่ผูกพันรัฐบาลชุดถัดไป
โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โครงการลงทุนระยะยาว หรือโครงการที่สร้างภาระงบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจจำกัดทางเลือกของรัฐบาลใหม่

ห้ามแต่งตั้งหรือโยกย้ายตำแหน่งสำคัญเชิงการเมือง
เช่น ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ หรือคณะกรรมการสำคัญ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนและพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

ห้ามใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ โครงการรัฐ หรืออำนาจหน้าที่ในทางบริหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ห้ามเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน
โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอำนาจหรือผลประโยชน์ทางการเมือง

แม้รัฐธรรมนูญ 2560 จะไม่ได้เขียนข้อห้ามทั้งหมดไว้อย่างละเอียด แต่ได้เปิดช่องให้ยึดตาม หลักประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งศาลและองค์กรอิสระใช้เป็นบรรทัดฐานในการวินิจฉัย

กลไกตรวจสอบรัฐบาลรักษาการ

การยุบสภาไม่ได้ทำให้รัฐบาลรักษาการเป็นอำนาจลอยตัว หากยังอยู่ภายใต้การตรวจสอบจากหลายกลไก ได้แก่

  • องค์กรอิสระ เช่น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
  • ศาล โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครอง ซึ่งมีอำนาจวินิจฉัยความชอบด้วยกฎหมายของการใช้อำนาจรัฐ
  • สาธารณชนและสื่อมวลชน ที่ทำหน้าที่จับตาและถ่วงดุลการใช้อำนาจในช่วงเปลี่ยนผ่าน

หากรัฐบาลรักษาการฝ่าฝืนหลักความเป็นกลาง อาจนำไปสู่คดีความ หรือถูกวินิจฉัยว่าการกระทำไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้

อำนาจรัฐบาลรักษาการที่ต้องสำรวม นำพาประเทศชาติสู่เลือกตั้ง69

บทสรุป: “รักษาการ” คืออำนาจที่ต้องสำรวม

รัฐบาลรักษาการหลังการยุบสภา ไม่ใช่รัฐบาลเต็มอำนาจ แต่เป็นรัฐบาลในโหมด “ประคองประเทศ”
ทำได้เฉพาะสิ่งจำเป็น ห้ามสร้างภาระใหม่ และต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด

หัวใจของรัฐธรรมนูญ 2560 ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ คือ
รักษาเสถียรภาพของรัฐ ควบคู่กับการรักษาความเป็นธรรมของการเลือกตั้ง

เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง 

ข่าวล่าสุด

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณส่งออกน้ำมัน ทางบก-เรือ พร้อมร่วมมือกองทัพสกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา