เจาะใจ จุลพันธ์ หัวหน้าเพื่อไทย เลือกตั้ง69 นำพรรคสู่ Back to Basic
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ประกาศนำพรรคเดินหน้าอย่างอิสระจากตระกูลชินวัตร รีเซ็ตยุทธศาสตร์ “Back to Basic” ฟื้นศรัทธาฝ่ายประชาชน
KEY
POINTS
- จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ยืนยันการบริหารพรรคที่เป็นอิสระเต็มรูปแบบ แม้จะยังคงมีจิตวิญญาณร่วมกับตระกูลชินวัตร
- นำเสนอนโยบายใหม่ “Back to Basic” เพื่อพาพรรคกลับไปรับฟังเสียงและความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในทุกระดับ สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
- ปรับโครงสร้างพรรคใหม่โดยให้ผู้ใหญ่มีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมตั้งเป้าหมายคว้าที่นั่ง ส.ส. ในการเลือกตั้งปี 2569 ให้ได้มากกว่า 200 ที่นั่ง
“โจทย์ยากที่น่าภาคภูมิใจ” คำแรกของ "จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" เมื่อก้าวขึ้นนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของพรรคสีแดงที่เพิ่งหลุดจากอำนาจรัฐบาลเข้าสู่สถานะฝ่ายค้าน
“ผมถือว่านี่คือเกียรติสูงสุดในชีวิต มากกว่าการเป็นรัฐมนตรี เพราะได้สืบต่อสถาบันการเมืองที่อยู่คู่ประเทศไทยมากว่า 20 ปี”
แม้จะมีการ “ไหลออก” ของสมาชิกบางส่วน แต่จุลพันธ์มองว่า พรรคเพื่อไทยยังคงมีพลังสนับสนุนจากประชาชนกว่า 10 ล้านคน พร้อมเชื่อว่ายังมีประชากรกว่า 30% ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด “สนามการเมืองยังเปิดกว้างสำหรับเรา”
ยกเครื่องพรรค–อิสระแต่ไม่ละทิ้งรากเหง้า
ความสัมพันธ์กับตระกูลชินวัตรยังคงเป็น “จิตวิญญาณร่วม” ที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่จุลพันธ์ย้ำว่า “บริหารขาดแน่นอน”ไม่มีการครอบงำจากตระกูลชินวัตรอีกต่อไป
อดีตนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ประกาศถอนตัวจากการบริหารโดยสิ้นเชิง เพื่อเปิดทางให้คณะกรรมการบริหารรุ่นใหม่ทำงานเต็มรูปแบบ “เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเพื่อไทยชุดนี้ยืนได้ด้วยขาของตัวเอง”
ผู้ใหญ่ยังมีบทบาท–โครงสร้างใหม่พรรค
การรีแบรนด์พรรคครั้งนี้ไม่ได้ตัดขาดผู้ใหญ่ หากแต่จัดวางให้เหมาะสมกับบทบาทเชิงยุทธศาสตร์มากกว่าการบริหารประจำวัน
สมศักดิ์ เทพสุทิน รับหน้าที่ประธานโซนเลือกตั้งภาคเหนือ
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คุมภาคอีสาน และเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งใหญ่
สองเสาหลักเชื่อมั่นว่า **เพื่อไทยสามารถคว้าเก้าอี้ ส.ส. 200 ที่นั่งขึ้นไป** ในการเลือกตั้งหน้า
“เลือดหยุดไหล” และยุทธศาสตร์ฟื้นฐานเสียง
หลังการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล จุลพันธ์เผยว่า “เลือดหยุดไหลแล้ว” มีเพียงไม่กี่คนที่ลาออก ในขณะที่จำนวนผู้สมัครหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พรรคเปิดตัวผู้สมัครแล้วหลายจังหวัด พร้อมระบบติดตามการทำงานแบบพี่เลี้ยง เพื่อรักษามาตรฐานผู้แทน
Back to Basic – กลับสู่สิ่งที่ประชาชนต้องการจริง
จุลพันธ์เปิดแนวนโยบายใหม่ “Back to Basic”ที่จะพาเพื่อไทยกลับไปฟังเสียงประชาชนอย่างแท้จริง
นำโดยทีมของ หมอพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่รวมทั้งนักวิชาการและคนรุ่นใหม่ เพื่อออกแบบนโยบายจากเวที Workshop ระดับภูมิภาค ตั้งแต่เกษตรกร SME ไปจนถึงแรงงาน
แม้นโยบายเก่าบางอย่าง เช่น “เงินดิจิทัลหมื่นบาท” จะถูกวิจารณ์ แต่จุลพันธ์ยืนยันว่าโครงการนี้ถึงมือประชาชนแล้วกว่าครึ่ง และอุปสรรคที่เหลือเกิดจากการเมืองมากกว่าความล้มเหลวทางนโยบาย
ยังไม่คิดชิงนายกฯ – พรรคสำคัญกว่าบุคคล
สำหรับคำถามว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จุลพันธ์ตอบตรงไปตรงมาว่า “ยังไม่มีการพูดถึง และผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น” พร้อมระบุว่า เป้าหมายสำคัญคือสร้างสถาบันการเมืองให้ยั่งยืน ไม่ใช่สร้างผู้นำคนเดียว
จับตาเกมรัฐธรรมนูญ–ไม่เชื่อใจรัฐบาล
ในมุมการเมืองใหญ่ จุลพันธ์ไม่ปิดโอกาส “อุบัติเหตุทางการเมือง” แต่คาดว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมอย่างน้อยถึงต้นปีหน้า ขณะเดียวกัน มองว่า โอกาสแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้มี ส.ส.ร. แทบไม่มี เพราะเสียง สว. ข้างมากไม่ส่งสัญญาณสนับสนุน
ฝ่ายค้านนำโดยเพื่อไทยจะเดินหน้าตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ โดยไม่ยึดติดกับ “ข้อตกลง MOA” ใดๆและจะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อมีหลักฐานชัดเจน
บทสรุป : เพื่อไทยในยุคจุลพันธ์
“เรายังอยู่ในน่านน้ำเดิม แต่ตอนนี้กัปตันเปลี่ยนคน และมีแผนที่ใหม่”
จุลพันธ์เปรียบเสมือนกัปตันคนใหม่ของเรือ “เพื่อไทย” ที่แม้ยังแล่นอยู่ในน่านน้ำแห่งตระกูลชินวัตร แต่ได้อำนาจเต็มในการกำหนดทิศทางด้วยตนเอง เป้าหมายคือพาเรือลำนี้กลับสู่ฝั่งประชาชน ด้วยเข็มทิศใหม่ “Back to Basic” ที่ตั้งอยู่บนศรัทธาเดิม เพื่อไทยในฐานะพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง.
ที่มาประกอบเนื้อหา : รายการคมชัดลึก(คลิ๊กชม)
เรียบเรียง : อมรเดช ชูสุวรรณ บรรณาธิการข่าวการเมือง


