posttoday

"ปณิธาน"ชี้ประชามติ MOU43/44 เดิมพันใหญ่ชายแดนไทย–กัมพูชา

27 กันยายน 2568

รศ.ดร.ปณิธานชี้ ประชามติ MOU 2543/2544 คือทางเลือกเสี่ยงแต่สำคัญ ไทยต้องใช้กลยุทธ์ “Double Track” เดินคู่ประชามติกับการเจรจา เพื่อเลี่ยงสุญญากาศและแรงกดดันเวทีโลก

KEY

POINTS

  • รศ.ดร.ปณิธาน ชี้ว่าการที่รัฐบาลจะนำ MOU 2543/2544 เข้าสู่กระบวนการประชามติ ถือเป็นเดิมพันทางการเมืองครั้งใหญ่ เพราะเป็นครั้งแรกที่ให้ประชาชนตัดสินใจกรอบความสัมพันธ์ชายแดนโดยตรง
  • การทำประชามติมีข้อดีคือสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงหากไทยยกเลิก MOU โดยไม่เจรจา อาจถูกมองว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและสร้างสุญญากาศที่นำไปสู่ความขัดแย้ง
  • ข้อเสนอเชิงยุทธศาสตร์คือให้ใช้กลยุทธ์สองแนวทาง (Double Track Strategy) คือทำประชามติเพื่อสร้างแรงกดดันภายใน ควบคู่ไปกับการเจรจาทางการทูตกับกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเปรียบในเวทีโลก

ความตึงเครียดชายแดนและการท้าทายใหม่

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในห้วงนี้ไม่ใช่เพียงความขัดแย้งท้องถิ่น หากแต่เป็นจุดทดสอบท่าทีรัฐบาลใหม่ของไทยที่นำโดยนายกรัฐมนตรีอนุทิน กัมพูชาแสดงท่าทีเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนกำลัง การใช้อาวุธหนัก และการนำโดรนเข้าสอดส่องพื้นที่ชายแดนราวกับต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของไทย

ในเชิงการเมือง กัมพูชาไม่เพียงแต่เดินเกมในสนามท้องถิ่น แต่ยังขยายไปสู่เวทีระหว่างประเทศ โดยส่งข้อร้องเรียนต่อองค์กรนานาชาติ และจัดฉากสถานการณ์ให้ดูเหมือนว่าไทยเป็นฝ่ายกดดัน สร้างแรงกดดันให้สังคมโลกจับตาไทยมากขึ้น นี่คือ “การท้าทายเชิงยุทธศาสตร์” ที่ไทยเลี่ยงไม่ได้

รศ.ดร.ปณิธานมองว่า นี่คือการเดินเกมเร็วของกัมพูชาที่หวังทั้งผลลัพธ์ในพื้นที่และการยกระดับข้อพิพาทไปสู่การเมืองโลก ไทยจึงต้องมีทั้งการตอบโต้ทางทหารที่สมดุลและการวางหมากทางการทูตอย่างชาญฉลาด

รัฐบาลอนุทินต้องจัดทีมให้กระชับ-สื่อสารตรงกัน

นายกรัฐมนตรีอนุทินแสดงความเด็ดขาดด้วยการให้อำนาจกองทัพตัดสินใจเรื่องด่านและความมั่นคงชายแดนโดยตรง ส่งสัญญาณว่าไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว ท่าทีนี้สร้างความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาที่ตามมาคือการประสานงานภายในรัฐบาลที่ยังไม่แน่นแฟ้น

ความท้าทายสำคัญคือ การทำงานที่ไม่เป็นเอกภาพระหว่างกระทรวงกลาโหม การต่างประเทศ และฝ่ายเศรษฐกิจ เมื่อไทยขาดความสอดคล้อง กัมพูชาจึงมีช่องทาง “แยกตี” โดยใช้ทั้งประเด็นเศรษฐกิจชายแดนและข้อพิพาททางทูตเป็นเครื่องมือ นอกจากนี้ การสื่อสารที่ไม่เป็นเสียงเดียวกันจากฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงยังบั่นทอนภาพลักษณ์ไทยในเวทีโลก

แม้รัฐบาลอนุทินจะแสดงความมุ่งมั่นปกป้องชายแดน แต่โจทย์ใหญ่คือการสร้าง “เอกภาพภายใน” เพื่อให้การตัดสินใจด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการทูตเสริมกัน ไม่ใช่ทำงานแยกส่วน รศ.ดร.ปณิธานจึงเสนอว่า ไทยต้องจัดทีมให้กระชับ สื่อสารให้ตรงกัน และสร้างภาพลักษณ์ของรัฐบาลที่พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคง
 

ประชามติ MOU43/44 เดิมพันการเมืองครั้งใหญ่

การที่รัฐบาลอนุทินประกาศจะนำ MOU 2543 และ 2544 เข้าสู่ประชามติ ถือเป็น “เดิมพันการเมืองครั้งใหญ่” เพราะเป็นครั้งแรกที่ประชาชนจะได้ตัดสินใจเรื่องกรอบความสัมพันธ์ชายแดนโดยตรง รศ.ดร.ปณิธานเห็นว่าการทำประชามติจะสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลและเปิดทางให้สังคมมีส่วนร่วม แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง

ข้อดี คือ ประชาชนจะได้สิทธิร่วมตัดสินใจ สร้างความโปร่งใส และทำให้การดำเนินการในอนาคตมีฐานทางการเมืองที่แข็งแรง

ข้อเสีย คือ หากไทยยกเลิก MOU โดยไม่เจรจากับกัมพูชา อาจถูกมองว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และทำให้เกิด “สุญญากาศ” ที่นำไปสู่การปิดด่านยาวนาน เปิดช่องให้มหาอำนาจเข้ามาแทรกแซง

รศ.ดร.ปณิธานจึงเสนอ 3 ทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์

  • ยกเลิกโดยตรง – ชัดเจนแต่เสี่ยงสูงต่อเวทีโลก
  • คงไว้ตามเดิม – ปลอดภัยชั่วคราว แต่เสี่ยงติดกับดักเอกสารอาณานิคมที่ไทยเคยเสียเปรียบ
  • ระงับชั่วคราวและเจรจาคู่ขนาน – เป็นทางเลือกสมดุล เปิดพื้นที่เจรจาใหม่ ลดความเสียเปรียบ และกดดันกัมพูชาให้กลับเข้าสู่กรอบปกติ

หัวใจสำคัญคือ “Double Track Strategy” ซึ่งหมายถึงการทำประชามติควบคู่ไปกับการเจรจากับกัมพูชา เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศทางกฎหมายระหว่างประเทศ การเดินเกมเพียงด้านเดียวจะทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่หากใช้ทั้งแรงกดดันภายในประเทศผ่านประชามติ และแรงกดดันระหว่างประเทศผ่านการเจรจา ไทยจะสามารถรักษาอธิปไตยและสร้างความชอบธรรมไปพร้อมกัน

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชากำลังท้าทายศักยภาพรัฐบาลอนุทินในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ และการทูต รศ.ดร.ปณิธานเตือนว่า ความเด็ดขาดเชิงทหารเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ไทยต้องผสมผสานการเมืองและการทูตเข้าไปด้วย

ประชามติ MOU 2543/2544 จึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางการเมือง แต่เป็นบททดสอบเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาลอนุทิน หากสามารถเดินเกมประชามติไปพร้อมกับการเจรจา และสร้างเอกภาพภายในได้ ไทยก็จะสามารถผ่านพ้นความท้าทายชายแดนครั้งนี้โดยไม่สูญเสียทั้งอธิปไตยและเสถียรภาพในเวทีโลก

ที่มาประกอบรายงานโพสต์วิเคราะห์ : รายการคมชัดลึก (คลิ๊กชม)

ข่าวล่าสุด

กฤษฎีกาตีตก สลากเพื่อการออมL6 ไม่ถูกคืนเงิน ชี้เกินอำนาจสนง.สลากฯ