ครม.“อนุทิน 1” รัฐบาลเฉพาะกาล 4 เดือน กับศึกฝ่ายค้านพรรคประชาชน
ฝ่ายค้านพรรคประชาชนเตรียมเปิดศึกตรวจสอบรัฐบาลอนุทินในวันแถลงนโยบาย จับตาคดีฮั้ว ส.ว. และปมที่ดินเขากระโดงเป็นประเด็นร้อน
KEY
POINTS
- คณะรัฐมนตรี "อนุทิน 1" ได้รับการโปรดเกล้าฯ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นรัฐบาลเฉพาะกาลที่มีวาระการทำงานเพียง 4 เดือนตามข้อตกลง
- รัฐบาลมีภารกิจเร่งด่วน 4 ด้านที่ต้องสร้างผลงานให้เป็นรูปธรรมในเวลาจำกัด ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ความมั่นคงชายแดน ภัยธรรมชาติ และภัยสังคม
- พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านประกาศจะตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น โดยจะใช้ทุกกลไกสภาฯ ในการติดตามการทำงาน โดยเฉพาะการรักษาสัญญา MOA และความเหมาะสมของรัฐมนตรี
โปรดเกล้าฯครม.ใหม่ โครงสร้างรัฐบาลอนุทิน1
การเมืองไทยเดินหน้าสู่จังหวะใหม่ เมื่อราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุด “อนุทิน 1” อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ปิดฉากช่วงเวลาการลุ้น “โผ ครม.” ที่เต็มไปด้วยแรงเสียดทานและการเจรจาต่อรอง
หัวใจสำคัญคือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อ 7 กันยายน ก่อนที่โครงสร้างรัฐบาลจะถูกประกาศครบถ้วน โดยอนุทินควบเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกตำแหน่ง สะท้อนถึงความตั้งใจคุมกลไกราชการแผ่นดินโดยตรง
รายชื่อรัฐมนตรีสำคัญสะท้อนสมดุลอำนาจระหว่างเครือข่ายภูมิใจไทยกับพันธมิตรการเมือง ได้แก่
- นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ ควบ รมว.คมนาคม
- นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ ควบ รมว.คลัง
- ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ ควบ รมว.เกษตรฯ
- นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯ ควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ
- พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม
- นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ
- นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข
โครงสร้างนี้ไม่เพียงสะท้อนการแบ่งเค้กทางการเมือง แต่ยังบ่งชี้ว่ารัฐบาลชุดนี้เกิดขึ้นภายใต้ “เงื่อนไขเฉพาะกาล” ที่ทุกเก้าอี้ต้องตอบโจทย์ทั้งการบริหารและการลดแรงเสียดทานจากฝ่ายค้านในสภา
ปฏิทินการทำงานและโจทย์เร่งด่วน
หลังการโปรดเกล้าฯ ปฏิทินสำคัญของ ครม.ถูกกำหนดอย่างเข้มข้น
24 กันยายน 2568 เวลา 18.00 น. ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ถือเป็นพิธีการที่ยืนยันความชอบธรรมเต็มรูปแบบ
29-30 กันยายน หรือ 30 กันยายน - 1 ตุลาคม 2568 นายอนุทินจะนำ ครม. แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งจะเป็นเวทีแรกที่ฝ่ายค้าน พรรคประชาชน ใช้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
แต่ความท้าทายที่แท้จริงคือข้อเท็จจริงที่ว่า รัฐบาลนี้มีอายุเพียง 4 เดือน ตามข้อตกลง (MOA) ที่ทำร่วมกับพรรคประชาชน หมายความว่านโยบายต้องถูกบีบให้เห็นผลเร็วและชัดเจน
นายกฯอนุทิน ประกาศ โจทย์เร่งด่วน 4 ด้าน ได้แก่
เศรษฐกิจปากท้อง – ลดค่าครองชีพ ค่าเดินทาง แก้หนี้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ควบคู่การกระตุ้นรายได้ท้องถิ่น
ความมั่นคงชายแดน – โดยเฉพาะกรณีพิพาทไทย–กัมพูชา ใช้แนวทางสันติภาพ ย้ำไทยไม่เสียดินแดน
ภัยธรรมชาติ – จัดตั้งระบบเตือนภัย เยียวยาและชดเชยผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที
ภัยสังคม – ปราบค้ายา ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ และการพนันออนไลน์ ด้วยความร่วมมือข้ามพรมแดน
ทั้งหมดคือโจทย์ที่ต้อง “เห็นผลเป็นรูปธรรม” ภายในเวลาสั้น ๆ เพื่อสร้างความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
รัฐบาลอนุทิน1รับศึกตรวจสอบจากพรรคประชาชน
แม้รัฐบาลจะเพิ่งเริ่มต้น แต่ฝ่ายค้านโดย พรรคประชาชน (ปชน.) ประกาศหนักแน่นว่าจะไม่ทำหน้าที่เป็น “นั่งร้าน” ให้ ครม.อนุทิน และพร้อมใช้กลไกสภาทุกรูปแบบ ตั้งแต่กระทู้ถามสด ญัตติด่วน ไปจนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
พรรคได้จัดทีมอภิปรายตรวจสอบ 4 หมวดใหญ่
- การรักษาสัญญา MOA และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายในกรอบเวลา 4 เดือน
- คดีการเมืองค้างคาใจ เช่น คดีฮั้วเลือกตั้ง ส.ว. และคดีที่ดินเขากระโดง รวมทั้งสิทธิประกันตัวนักเคลื่อนไหว โดยมี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นแกนนำ
- นโยบายเศรษฐกิจเฉพาะหน้า อาทิ โครงการคนละครึ่ง ที่ฝ่ายค้านมองว่าอาจกลายเป็นเครื่องมือหาเสียงมากกว่าการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
- ความเหมาะสมของรัฐมนตรี โดยเฉพาะประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนและบุคคลที่มีประวัติถูกตั้งคำถามในอดีต
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน ระบุว่า “ฝ่ายค้านจะตรวจสอบเข้มข้นไม่ต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา และหากพรรคประชาชนกับเพื่อไทยรักษาเอกภาพไว้ได้ รัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ยากจะอยู่รอด”
"นี่คือจุดเริ่มต้นของสมการการเมืองที่เปราะบาง รัฐบาลอนุทินต้องแข่งกับเวลา ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝ่ายค้าน หากทำสำเร็จ “อนุทิน 1” อาจกลายเป็นบทพิสูจน์ความสามารถในการบริหารภายใต้เงื่อนไขพิเศษ แต่หากสะดุด ก็อาจถูกจารึกว่าเป็นเพียง “รัฐบาลทางผ่าน” ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่รออยู่เบื้องหน้า"


