posttoday

การเมืองร้อน สัญญาณเบรกคดีฮั้วสว.–รุกที่ดินเขากระโดง

19 กันยายน 2568

สองคดีการเมืองร้อน ฮั้วเลือกตั้ง ส.ว. และที่ดินเขากระโดง ส่อถูก “เบรก” กลางคัน นักกฎหมาย–ภาคประชาสังคมชี้ชัด กลไกยุติธรรมถูกแทรกแซงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

KEY

POINTS

  • คดีฮั้ว ส.ว. กกต.–DSI เจอสัญญาณเตะถ่วง อ้างรอนโยบาย รมต.ใหม่
  • คดีเขากระโดง กรมที่ดินออกแถลงก่อน ครม.โปรดเกล้าฯ ส่อธงเบรก
  • นักวิเคราะห์ชี้ปัญหารากจาก รธน.60 และเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น

เบรกคดีฮั้วสว. DSI กับ“โทรศัพท์ปริศนา”

คดีฮั้วการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 กลายเป็นบททดสอบสำคัญของความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรม หลังโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่32และเป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ “ทนายอั๋น” ผู้ติดตามคดีใกล้ชิด ระบุว่าเรื่องนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่

ส่วนแรก ฝั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งคณะอนุกรรมการ 26 ชุด ได้สรุปรายงานกว่า 75,000 หน้าแล้ว แต่กลับมีสัญญาณขอสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งที่ข้อมูลครบถ้วนจนถูกมองว่าเป็นการถ่วงเวลา

ส่วนที่สอง ฝั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เดิมมีการเตรียมสอบพยานและออกหมายเรียก รวมถึงจองตั๋วเครื่องบินเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ แต่กลับถูก “โทรศัพท์ปริศนา” สั่งให้หยุด โดยอ้างว่าต้องรอนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าอาจมี “ผลประโยชน์ทับซ้อน” กับผู้เกี่ยวข้องทางการเมือง

ภัทรพงศ์ ศุภักษร (ทนายอั๋น) ชี้ชัดว่า การอ้างรอนโยบายรัฐมนตรีไม่ชอบด้วยกฎหมาย และสะท้อนการแทรกแซงทางการเมือง พร้อมเตือนว่าหากการกดดันยังดำเนินต่อไป หลักฐานสำคัญในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์อาจถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ

ด้าน ณัฏฐา มหัทธนา นักเคลื่อนไหวภาคประชาสังคม มองว่าปัญหานี้เกิดจาก “รัฐธรรมนูญ 2560” ที่ออกแบบให้ผู้สมัครเลือกกันเองจนเปิดช่องต่อรองแลกคะแนน เธอตั้งข้อสังเกตว่า การเอา DSI เข้ามายุ่งถือเป็นความผิดปกติ เพราะคดีควรอยู่กับ กกต. โดยตรง แต่บอร์ด DSI ไม่กล้ารับเป็นคดีพิเศษ จึงพยายามตีความเป็นข้อหา “ฟอกเงิน–อั้งยี่” ซึ่งทำให้คดีเดินลำบาก พร้อมย้ำว่า คดีนี้ควรกลับสู่ “ความปกติ” คือ กกต. รับผิดชอบหลัก ไม่ใช่ปล่อยให้การเมืองนำ

เขากระโดง – แถลงการณ์เร่งด่วน กับ “ธง” ล่วงหน้า

คดีที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกจับตาว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการ “เบรกคดี” หลัง ภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น เผยว่า เดิมคาดว่ากรมที่ดินจะเพิกถอนโฉนดเกือบ 1,000 ใบภายในปลายเดือนกันยายน แต่สถานการณ์กลับตาลปัตร

ปลัดมหาดไทยและอดีตอธิบดีกรมที่ดินออกแถลงอย่างเร่งรีบผิดปกติ ก่อนการโปรดเกล้าฯ รัฐมนตรีมหาดไทยใหม่ ทนายอั๋น มองว่านี่คือการสร้าง “ธง” ล่วงหน้าเพื่อเบรกการดำเนินคดี โดยโยงกับสัญญาณทางการเมืองจากตระกูล “ชิดชอบ” ที่มีสายสัมพันธ์กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งที่คำพิพากษาศาลฎีกาและศาลปกครองเคยชี้ชัดว่า ที่ดินกว่า 4,000 ไร่เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท.

อย่างไรก็ตาม ณัฏฐา มหัทธนา ให้ความเห็นต่าง การแถลงของกรมที่ดินอ้างข้อมูลเก่าที่พูดกันมากว่า 10 ปี รฟท. เองก็ยังไม่มีเอกสารกรรมสิทธิ์ครบถ้วน เช่น พระราชกฤษฎีกาเวนคืนและแผนที่แนบ หาก รฟท. มั่นใจจริง ก็ควรฟ้องชาวบ้านกว่า 900 รายที่ครอบครองโฉนดโดยตรง ไม่ใช่ปล่อยให้กลายเป็นข้อพิพาทเชิงการเมืองพร้อมชี้ว่า“คดีใครคดีมัน” การที่ศาลชี้ว่าที่ดินบางส่วนเป็นของรัฐ ไม่ได้แปลว่าทุกโฉนดต้องถูกเพิกถอนทั้งหมด

สัญญาณแทรกแซง – ความเปราะบางการเมืองไทย

ทั้งสองคดี สะท้อน “รูปแบบซ้ำ” ของการเบรกคดีการเมือง เมื่อหน่วยงานตรวจสอบกลับอ้างเหตุผลทางการเมืองหรือกระบวนการ เพื่อชะลอความคืบหน้า โดยมี “ผู้มีอำนาจ” เข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงหรือแฝงตัวอยู่เบื้องหลัง

  • คดีฮั้ว สว. ถูกลากเข้าสู่ความซับซ้อนของกฎหมายฟอกเงินและอั้งยี่ แทนที่จะดำเนินไปตามช่องทางเลือกตั้งปกติ
  • คดีเขากระโดง ถูกผูกโยงกับสายสัมพันธ์การเมืองท้องถิ่นและตระกูลการเมืองใหญ่ในภาคอีสาน

ในมุมของนักกฎหมายและนักเคลื่อนไหว ทั้ง ภัทรพงศ์ ศุภักษร (ทนายอั๋น) และ ณัฏฐา มหัทธนา ต่างชี้ให้เห็นความเสี่ยง หากปล่อยให้การเมืองครอบงำกระบวนการยุติธรรมต่อไป ความศรัทธาต่อระบบตรวจสอบของรัฐจะยิ่งสั่นคลอน

ท้ายที่สุด ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เปิดช่องให้ระบบการเมืองมีอิทธิพลเหนือองค์กรอิสระ อาจเป็น “รากเหง้า” ที่ทำให้คดีใหญ่ไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างอิสระ และสะท้อนว่าการเมืองไทยยังคงติดอยู่ในวงจรอุบาทว์ของผลประโยชน์และเครือข่ายอำนาจ

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”