เกมวัดใจศึกชิงอำนาจการเมืองไทย : ยุบสภา ปะทะ โหวตนายกฯ
ศึกการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ พรรคเพื่อไทยเร่งยุบสภาตัดเกม ขณะที่พรรคประชาชนจับมือภูมิใจไทยหนุนอนุทินนั่งนายกฯ จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
KEY
POINTS
- การเมืองไทยเผชิญสถานการณ์วัดใจระหว่างสองขั้วอำนาจ โดยพรรคเพื่อไทยเสนอให้ยุบสภา ขณะที่พรรคประชาชนสนับสนุนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
- พรรคประชาชนสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือต้องยุบสภาใน 4 เดือน ซึ่งจะทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ขาดเสถียรภาพ
- พรรคเพื่อไทยชิงประกาศขอยุบสภาเพื่อตัดเกมการเมืองฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดข้อถกเถียงทางกฎหมายว่ารัฐบาลรักษาการมีอำนาจทำได้หรือไม่
เกมวัดใจ: ยุบสภา VS โหวตนายกฯ – ประวัติศาสตร์หน้าใหม่การเมืองไทย
บทนำ: จุดเปลี่ยนการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้น
การเมืองไทยกำลังเผชิญ สถานการณ์ไม่เคยมีมาก่อน — พรรคการเมืองสองขั้วใหญ่เปิดเกมแข่งกันทั้ง “ยื่นยุบสภา” และ “โหวตนายกฯ” ในเวลาใกล้เคียงกัน ขณะที่ตำแหน่ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” กำลังถูกช่วงชิง สร้างฉากประวัติศาสตร์ใหม่ที่ท้าทายกติกาและความเชื่อมั่นของประเทศ
วันแห่งการหักเหลี่ยม: เพื่อไทยชิงประกาศก่อน
- พรรคเพื่อไทยรีบ แถลงข่าวล่วงหน้า ประกาศเจตนาทูลเกล้าฯ ยุบสภา รอพระบรมราชโองการ
- ขณะที่พรรคประชาชนถูกวางคิวให้แถลงก่อน แต่กลับถูก ตัดหน้า อย่างเหนือความคาดหมาย
นี่คือสัญญาณว่าเกมการเมืองไม่ใช่แค่ต่อรองเสียง แต่คือ การชิงจังหวะทางสัญลักษณ์และความสมเหตุผล
พรรคประชาชนเลือกข้าง: สนับสนุน “อนุทิน”
- หลังหารือสองวัน พรรคประชาชนตัดสินใจครั้งใหญ่
- สนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี
- เพราะแคนดิเดตของตน “หมดแล้ว”
แต่การสนับสนุนนี้มาพร้อม เงื่อนไข MOU 5 ข้อ
MOU 5 ข้อ: เงื่อนไขที่ผูกมัด
- ยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย
- จัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่
- เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้น
- ห้ามขยายฐานเสียงเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
- พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
นายอนุทินยอมรับทุกเงื่อนไข และเซ็นเอกสารคำมั่นทันที
รัฐบาลเสียงข้างน้อย: เสถียรภาพบนเส้นด้าย
- รัฐบาลใหม่จะรวมเสียงเพียง 146 เสียง ห่างจากกึ่งหนึ่งของสภาถึง 100 เสียง
- พลังหลัก: ภูมิใจไทย, กล้าธรรม, พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ
- เสริมด้วยเพื่อไทย 8 เสียง และพรรคเล็ก ๆ
- นี่คือ รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่สุด ที่พร้อมจะถูก “โหวตล้ม” ได้ทุกเมื่อ หากไม่ทำตามสัญญา
เบื้องหลัง “ส้ม–น้ำเงิน”: ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่บังเอิญ
- การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อน พรรคประชาชนเล็งเป้าเพียงนายกฯ ไม่แตะรัฐมนตรีภูมิใจไทย
- แกนนำทั้งสองฝ่ายเคยมี การพบปะลับ
- เงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญและการเลือกองค์กรอิสระ 42 ตำแหน่งในอนาคต คือเป้าหมายซ่อนเร้นที่ฝ่ายค้านต้องการมีบทบาท
- เพื่อไทยผลักดันยุบสภา: ตัดเกมก่อนถูกชิงอำนาจ
เหตุผลหลักของเพื่อไทยคือ
- ไม่พอใจที่ถูกพรรคประชาชน “ข่มขู่ทางการเมือง”
- ไม่ยอมให้ภูมิใจไทยขึ้นเป็นรัฐบาล
- ไม่อยากให้คดีเขาพระวิหารและคดีฮั้ว ส.ว. ชะงัก
- เชื่อว่ารัฐบาลรักษาการ ยื่นยุบสภาได้ตามรัฐธรรมนูญ
- ข้อถกเถียงทางกฎหมาย: ยุบสภาได้หรือไม่?
กลุ่มแรก: เห็นว่ารัฐบาลรักษาการยุบสภาได้เต็มที่ (วรเจตน์, วิษณุ)
กลุ่มสอง: มองว่าเพียงเสนอได้ ส่วนการตัดสินใจสูงสุดขึ้นกับ พระราชอำนาจ
นี่คือ ข้อกฎหมายที่ยังไม่เคยถูกพิสูจน์ในทางปฏิบัติ
แนวโน้มการเมือง: ใครได้ ใครเสีย
พรรคประชาชน: มีโอกาสเพิ่มคะแนนนิยมจากท่าที “ฝ่ายค้านเพื่อปฏิรูป”
พรรคภูมิใจไทย: ได้บทบาทแกนนำรัฐบาล อาจเสริมภาพลักษณ์ “ผู้เสียสละ”
พรรคเพื่อไทย: เสี่ยงสูญเสียความนิยม หากถูกมองว่าตัดเกมเร็วเพื่อประโยชน์ตัวเอง
บทสรุป: การเมืองไทยบนความไม่แน่นอน
นี่คือ เกมวัดใจระหว่าง “ยุบสภา” และ “โหวตนายกฯ”
หากยุบสภา ประเทศไทยจะเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ในต้นปีหน้า
หากโหวตนายกฯ ผ่าน รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะถือกำเนิดขึ้น พร้อมความเปราะบางสูงสุด
"ไม่ว่าฉากไหนเกิดขึ้น ประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะถูกเขียนหน้าใหม่ และสะท้อนความจริงว่า การเมืองไทยคือ สนามแข่งขันของอำนาจ ที่เปลี่ยนได้ทุกชั่วโมง"


