posttoday

เกมวัดใจศึกชิงอำนาจการเมืองไทย : ยุบสภา ปะทะ โหวตนายกฯ

04 กันยายน 2568

ศึกการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ พรรคเพื่อไทยเร่งยุบสภาตัดเกม ขณะที่พรรคประชาชนจับมือภูมิใจไทยหนุนอนุทินนั่งนายกฯ จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

KEY

POINTS

  • การเมืองไทยเผชิญสถานการณ์วัดใจระหว่างสองขั้วอำนาจ โดยพรรคเพื่อไทยเสนอให้ยุบสภา ขณะที่พรรคประชาชนสนับสนุนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
  • พรรคประชาชนสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ ภายใต้เงื่อนไขสำคัญคือต้องยุบสภาใน 4 เดือน ซึ่งจะทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ขาดเสถียรภาพ
  • พรรคเพื่อไทยชิงประกาศขอยุบสภาเพื่อตัดเกมการเมืองฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดข้อถกเถียงทางกฎหมายว่ารัฐบาลรักษาการมีอำนาจทำได้หรือไม่

เกมวัดใจ: ยุบสภา VS โหวตนายกฯ – ประวัติศาสตร์หน้าใหม่การเมืองไทย

บทนำ: จุดเปลี่ยนการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้น

การเมืองไทยกำลังเผชิญ สถานการณ์ไม่เคยมีมาก่อน — พรรคการเมืองสองขั้วใหญ่เปิดเกมแข่งกันทั้ง “ยื่นยุบสภา” และ “โหวตนายกฯ” ในเวลาใกล้เคียงกัน ขณะที่ตำแหน่ง “รัฐบาลเสียงข้างน้อย” กำลังถูกช่วงชิง สร้างฉากประวัติศาสตร์ใหม่ที่ท้าทายกติกาและความเชื่อมั่นของประเทศ

วันแห่งการหักเหลี่ยม: เพื่อไทยชิงประกาศก่อน

  • พรรคเพื่อไทยรีบ แถลงข่าวล่วงหน้า ประกาศเจตนาทูลเกล้าฯ ยุบสภา รอพระบรมราชโองการ
  • ขณะที่พรรคประชาชนถูกวางคิวให้แถลงก่อน แต่กลับถูก ตัดหน้า อย่างเหนือความคาดหมาย

นี่คือสัญญาณว่าเกมการเมืองไม่ใช่แค่ต่อรองเสียง แต่คือ การชิงจังหวะทางสัญลักษณ์และความสมเหตุผล
 

พรรคประชาชนเลือกข้าง: สนับสนุน “อนุทิน”

  • หลังหารือสองวัน พรรคประชาชนตัดสินใจครั้งใหญ่
  • สนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี
  • เพราะแคนดิเดตของตน “หมดแล้ว”

แต่การสนับสนุนนี้มาพร้อม เงื่อนไข MOU 5 ข้อ

MOU 5 ข้อ: เงื่อนไขที่ผูกมัด

  • ยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบาย
  • จัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่
  • เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้น
  • ห้ามขยายฐานเสียงเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
  • พรรคประชาชนจะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

นายอนุทินยอมรับทุกเงื่อนไข และเซ็นเอกสารคำมั่นทันที

รัฐบาลเสียงข้างน้อย: เสถียรภาพบนเส้นด้าย

  • รัฐบาลใหม่จะรวมเสียงเพียง 146 เสียง ห่างจากกึ่งหนึ่งของสภาถึง 100 เสียง
  • พลังหลัก: ภูมิใจไทย, กล้าธรรม, พลังประชารัฐ, รวมไทยสร้างชาติ
  • เสริมด้วยเพื่อไทย 8 เสียง และพรรคเล็ก ๆ
  • นี่คือ รัฐบาลเสียงข้างน้อยที่สุด ที่พร้อมจะถูก “โหวตล้ม” ได้ทุกเมื่อ หากไม่ทำตามสัญญา

เบื้องหลัง “ส้ม–น้ำเงิน”: ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่บังเอิญ

  • การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งก่อน พรรคประชาชนเล็งเป้าเพียงนายกฯ ไม่แตะรัฐมนตรีภูมิใจไทย
  • แกนนำทั้งสองฝ่ายเคยมี การพบปะลับ
  • เงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญและการเลือกองค์กรอิสระ 42 ตำแหน่งในอนาคต คือเป้าหมายซ่อนเร้นที่ฝ่ายค้านต้องการมีบทบาท
  • เพื่อไทยผลักดันยุบสภา: ตัดเกมก่อนถูกชิงอำนาจ

เหตุผลหลักของเพื่อไทยคือ

  • ไม่พอใจที่ถูกพรรคประชาชน “ข่มขู่ทางการเมือง”
  • ไม่ยอมให้ภูมิใจไทยขึ้นเป็นรัฐบาล
  • ไม่อยากให้คดีเขาพระวิหารและคดีฮั้ว ส.ว. ชะงัก
  • เชื่อว่ารัฐบาลรักษาการ ยื่นยุบสภาได้ตามรัฐธรรมนูญ
  • ข้อถกเถียงทางกฎหมาย: ยุบสภาได้หรือไม่?

กลุ่มแรก: เห็นว่ารัฐบาลรักษาการยุบสภาได้เต็มที่ (วรเจตน์, วิษณุ)

กลุ่มสอง: มองว่าเพียงเสนอได้ ส่วนการตัดสินใจสูงสุดขึ้นกับ พระราชอำนาจ

นี่คือ ข้อกฎหมายที่ยังไม่เคยถูกพิสูจน์ในทางปฏิบัติ

แนวโน้มการเมือง: ใครได้ ใครเสีย

พรรคประชาชน: มีโอกาสเพิ่มคะแนนนิยมจากท่าที “ฝ่ายค้านเพื่อปฏิรูป”

พรรคภูมิใจไทย: ได้บทบาทแกนนำรัฐบาล อาจเสริมภาพลักษณ์ “ผู้เสียสละ”

พรรคเพื่อไทย: เสี่ยงสูญเสียความนิยม หากถูกมองว่าตัดเกมเร็วเพื่อประโยชน์ตัวเอง

บทสรุป: การเมืองไทยบนความไม่แน่นอน

นี่คือ เกมวัดใจระหว่าง “ยุบสภา” และ “โหวตนายกฯ”

หากยุบสภา ประเทศไทยจะเข้าสู่การเลือกตั้งใหม่ในต้นปีหน้า

หากโหวตนายกฯ ผ่าน รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะถือกำเนิดขึ้น พร้อมความเปราะบางสูงสุด

"ไม่ว่าฉากไหนเกิดขึ้น ประวัติศาสตร์การเมืองไทยจะถูกเขียนหน้าใหม่ และสะท้อนความจริงว่า การเมืองไทยคือ สนามแข่งขันของอำนาจ ที่เปลี่ยนได้ทุกชั่วโมง"

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ วูล์ฟ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 13 ธ.ค.68