posttoday

ถกเคาะโผนายพลตำรวจ สีกากี-การเมือง ต่อรองร้อนเลี่ยงชนกลางวง

24 สิงหาคม 2568

จับตาประชุม ก.ตร. 28 ส.ค. แต่งตั้ง 251 นายพลตำรวจ ฝ่ายการเมือง–บิ๊กสีกากีต่อรองร้อน หวังเลี่ยงชนกันกลางที่ประชุม

KEY

POINTS

  • ฝ่ายการเมืองไม่พอใจบัญชีบอร์ดกลั่นกรอง นัดหารือลับกับบิ๊กตำรวจ
  • วาระแต่งตั้งครอบคลุมตั้งแต่รอง ผบ.ตร.–ผู้บังคับการ รวม 251 ตำแหน่ง
  • “ภูมิธรรม” นั่งหัวโต๊ะถูกจับตา คุมเกมประชุมไม่ให้แตกหัก
     

ศึกแต่งตั้งนายพลตำรวจ – ความขัดแย้งระหว่าง “ฝ่ายเมือง” และ “บิ๊กสีกากี”

เหตุการณ์และบริบท

การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 7/2568 วันที่ 28 สิงหาคม 2568 มีวาระสำคัญคือ การแต่งตั้งโยกย้ายนายพลตำรวจประจำปี ครอบคลุมตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไปจนถึงผู้บังคับการ (ผบก.) รวมกว่า 250 ตำแหน่ง โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน

ก่อนถึงวันประชุม มีกระแสข่าวแรงว่า ฝ่ายการเมืองไม่พอใจบัญชีแต่งตั้ง ที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกลั่นกรอง (บอร์ดกลั่นกรอง) นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงมีการหารือลับระหว่าง “บิ๊กตำรวจ” และฝ่ายเมือง เพื่อปรับสมดุล หวังลดแรงปะทะระหว่างสองฝ่ายในห้องประชุม

สาเหตุและปัจจัยความตึงเครียด

โควตาการเมือง vs โควตาตำรวจ

ฝ่ายการเมืองต้องการ “ส่งสัญญาณ” คุมเกมความมั่นคง ผ่านตำแหน่งสำคัญ เช่น รอง ผบ.ตร. และ ผบช.ในภูมิภาค

ขณะที่ฝ่ายตำรวจยืนยันเกณฑ์อาวุโสและสายงาน ไม่ต้องการให้ถูกมองว่าแต่งตั้งตามใบสั่ง

การจัดสมดุลรุ่นและเครือข่าย

  • นายพลรุ่นใกล้ชิด ผบ.ตร. (นรต.41–42) ได้เปรียบหลายตำแหน่ง
  • แต่ฝ่ายการเมืองต้องการเปิดพื้นที่ให้ “นายพลดาวรุ่ง” รุ่นกลาง–ใหม่ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ในอนาคต

แรงกดดันจากคดี–การเมือง

บรรยากาศความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชา และคดีการเมืองร้อน อาจทำให้ฝ่ายรัฐบาลต้องการ “กุมทิศทางตำรวจ” อย่างเข้มข้นกว่าปกติ

ผู้เล่นหลัก

นายภูมิธรรม เวชยชัย
นั่งหัวโต๊ะ ก.ตร.ครั้งนี้ ถูกจับตาว่าจะใช้ความอาวุโสทางการเมืองคุมบรรยากาศไม่ให้แตกหัก

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
ผบ.ตร.เจ้าของบัญชีแต่งตั้งต้นทาง ต้องรักษาดุลยภาพทั้งสายอำนาจในองค์กรและแรงกดดันจากการเมือง

ฝ่ายการเมือง
โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ต้องการให้มี “สีสันการเมือง” ในบัญชีแต่งตั้งเพื่อสะท้อนอำนาจคุมตำรวจ

นายพลดาวเด่น
เช่น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์, พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ฯลฯ ที่ถูกจับตามองว่าจะขยับขึ้นในตำแหน่งสำคัญ
 

ผลกระทบ

ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

  • หากโผสุดท้ายถูกปรับตามแรงการเมืองมากเกินไป อาจสร้างบรรยากาศ “ผิดหวัง” ในสายงานและลดทอนขวัญกำลังใจ
  • แต่หากยึดตามเกณฑ์อาวุโสอย่างเดียว ก็เสี่ยงชนกับรัฐบาลโดยตรง

ภาพลักษณ์รัฐบาล–ตำรวจ

  • การเมืองแทรกแซงตำรวจอาจทำให้สังคมวิจารณ์เรื่อง “ตำรวจการเมือง”
  • ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องแสดงภาพควบคุมกองทัพตำรวจได้เพื่อความมั่นคง
  • ความสัมพันธ์ระหว่าง “บิ๊กตำรวจ” และ “ฝ่ายเมือง”
  • การหารือลับก่อนประชุมสะท้อนว่า ทั้งสองฝ่ายรู้ดีว่าความขัดแย้งจะนำไปสู่การเผชิญหน้า หากไม่มีการตกลงกันล่วงหน้า

แนวโน้มและสิ่งที่ต้องจับตา

  • 28 สิงหาคม 2568 จะเป็นวันที่ทดสอบอำนาจต่อรอง
  • หาก “ภูมิธรรม” คุมที่ประชุมให้จบแบบไม่แตกหัก แสดงถึง โมเดลสมดุลการเมือง–ตำรวจ ในยุครัฐบาลนี้
  • แต่หากมีการ “รื้อโผ” ในที่ประชุมจริง จะกลายเป็น สัญญาณแรง ว่า ฝ่ายการเมืองพร้อมชน เพื่อครองอำนาจตำรวจอย่างเต็มรูปแบบ

บทสรุป
การแต่งตั้งนายพลตำรวจครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียง “การจัดวางตำแหน่งตามวาระ” แต่คือ สมรภูมิทางอำนาจ ที่ฝ่ายการเมืองหวังจะฝังรากคุมองค์กรตำรวจ ขณะที่ฝ่ายตำรวจต้องการรักษาเกียรติและระบบอาวุโส ผลลัพธ์ 28 ส.ค. จะสะท้อนชัดว่า ฝ่ายใดถือไพ่เหนือกว่า และจะกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ “เมือง–ตำรวจ” ในปีต่อไปอย่างไร

ข่าวล่าสุด

กัมพูชา ยิงจรวด BM-21 ตกพื้นที่พลเรือน อ.กันทรลักษ์ บาดเจ็บ 4