posttoday

วิกฤตดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบเศรษฐกิจโลก

03 กรกฎาคม 2568

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบเศรษฐกิจโลก-บริษัทใหญ่เจ็บหนัก ขณะเศรษฐกิจที่พึ่งพาตลาดสินค้าและนักท่องเที่ยวสหรัฐสูญเสียรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน

ผลสำรวจล่าสุดจากรอยเตอร์เผยให้เห็นภาพที่น่าเป็นห่วงของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันรุนแรงและคาดว่าจะยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า นักวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนชี้ว่าสถานการณ์นี้เกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการที่เชื่อมโยงกัน

 

สาเหตุหลักที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าประกอบด้วย ความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้น นโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาลทรัมป์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาอย่างไม่แน่นอน และความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

 

นโยบายการคลังที่กดดันเศรษฐกิจ

 

ความไม่แน่นอนในนโยบายภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ควบคู่กับร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มหนี้สาธารณะของประเทศอีกมหาศาล 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติรีบถอนเงินออกจากสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

 

การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ "Term Premium" ซึ่งเป็นค่าตอบแทนเสริมที่นักลงทุนเรียกร้องเพื่อชดเชยความเสี่ยงในการถือครองพันธบัตรระยะยาว เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงเกือบ 11% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักในปีนี้ และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามปีครึ่งเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์สเตอร์ลิง

วิกฤตดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบเศรษฐกิจโลก

 

ผู้เชี่ยวชาญเตือนภัย

 

นางเจนนิเฟอร์ ลี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก BMO Capital Markets แสดงความกังวลว่า "เราคาดหวังว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะอ่อนค่าลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า งบประมาณล่าสุด ผลกระทบเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้า และความหมายต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงคำวิจารณ์อันเผ็ดร้อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์มีต่อประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ล้วนส่งสัญญาณที่ไม่ดีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างน้อยในช่วงที่เหลือของปีนี้"

 

จากการสำรวจครั้งนี้ นักวิเคราะห์ 37% ระบุว่า "การเจรจาภาษีนำเข้า" จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของดอลลาร์ในเดือนข้างหน้า โดยตลาดกำลังจับตาดูการตัดสินใจครั้งต่อไปของทรัมป์หลังจากการหยุดพักการเก็บภาษีนำเข้าขนาดใหญ่เป็นเวลา 90 วันจะสิ้นสุดลงในวันที่ 9 กรกฎาคม

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเด่น

 

ในขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า เงินยูโรกลับแสดงความแข็งแกร่งด้วยการเพิ่มค่าขึ้นเกือบ 14% ในปีนี้ และกำลังมุ่งหน้าสู่ผลงานประจำปีที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ปี 2017 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ายูโรจะคงตัวที่ระดับ 1.18 ดอลลาร์ในอีกหกเดือนข้างหน้า และปีนขึ้นประมาณ 2% ไปที่ 1.20 ดอลลาร์ในระยะหนึ่งปี

วิกฤตดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบเศรษฐกิจโลก

 

ผลกระทบต่อบริษัทยักษ์ใหญ่

 

เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯ มีบทบาทเป็นสกุลเงินหลักในการค้าและการเงินระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์จึงส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้กำไรที่บริษัทต่างชาติได้รับจากการดำเนินงานในสหรัฐฯ มีมูลค่าลดลงอย่างมากเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลเงินท้องถิ่น

 

บริษัทโตโยต้าของญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของผลกระทบนี้ โดยคาดว่าจะประสบปัญหาทางการเงินจากการแข็งค่าของเยนที่ปรับตัวขึ้นจาก 157 เยนต่อดอลลาร์ ณ ต้นปี เป็น 143 เยนต่อดอลลาร์ในปัจจุบัน เป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมา ความอ่อนค่าของเยนเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับโตโยต้าและผู้ส่งออกรายใหญ่อื่นๆ ของญี่ปุ่น

 

ปรากฏการณ์ที่ท้าทายทฤษฎีเศรษฐศาสตร์

 

สถานการณ์ปัจจุบันเป็นสิ่งที่ขัดกับความคาดหมายของนักวิเคราะห์หลายคน เนื่องจากตำราเศรษฐศาสตร์สอนว่าสกุลเงินต่างประเทศมักจะอ่อนค่าลงเมื่อเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า ซึ่งควรจะช่วยทำให้สินค้ามีราคาถูกลงเพื่อชดเชยต้นทุนจากการเก็บภาษี

 

แต่ในความเป็นจริง นักลงทุนได้ตอบสนองต่อนโยบายการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปมาของทรัมป์ด้วยการขายสินทรัพย์สหรัฐฯ และยกเลิกการลงทุนขนาดใหญ่ที่เคยวางแผนไว้ เมื่อนักลงทุนขายสินทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ พวกเขาจะนำเงินกลับไปลงทุนในสกุลเงินของประเทศตนเอง ซึ่งผลักดันให้สกุลเงินเหล่านั้นแข็งค่าขึ้น

วิกฤตดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบเศรษฐกิจโลก

คำถามเกี่ยวกับอนาคตของดอลลาร์

 

การลดลงของค่าเงินดอลลาร์ได้ก่อให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับความเสียหายต่อเศรษฐกิจอเมริกันจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของทรัมป์ และสกุลเงินดอลลาร์จะยังคงรักษาสถานะเป็นที่หลบภัยสำหรับนักลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความเครียดหรือไม่

 

ทำเนียบขาวได้ส่งสัญญาณที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับความต้องการต่อค่าเงินดอลลาร์ แต่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจบางคนของทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าพวกเขาต้องการให้สกุลเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยทรัมป์เคยแสดงความเห็นว่าความแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ผู้ผลิตชาวอเมริกันขาดความสามารถในการแข่งขัน

 

กระทบเศรษฐกิจโลก

 

การแข็งค่าของสกุลเงินต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซาอยู่แล้วในยุโรป สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น การกลับทิศของอัตราแลกเปลี่ยนนี้อาจหมายถึงการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและการใช้จ่ายที่น้อยลง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้ใช้ประโยชน์จากความแข็งค่าของดอลลาร์ในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น สเปนและญี่ปุ่น

 

สำหรับธุรกิจต่างชาติ การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นการเพิ่มความท้าทายในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในภาวะมืดมน โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กต่างชาติที่มีความเสี่ยงสูงเป็นพิเศษ

วิกฤตดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง กระทบเศรษฐกิจโลก

บทสรุป: ความท้าทายต่อสถานะสกุลเงินสำรอง

 

สถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญต่อสถานะของดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินสำรองโลก ปัจจัยทางการเมืองและนโยบายทางการคลังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของสกุลเงินในระยะต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง

ข่าวล่าสุด

CHAO ส่งซิกไตรมาส 4/68 โตต่อเนื่อง รับไฮซีซัน-ท่องเที่ยวฟื้นตัว