posttoday

รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย การเมืองบนท้องถนน เกมอำนาจข้ามพรมแดน

28 มิถุนายน 2568

การเมืองบนถนนรอบนี้ ไม่ใช่แค่ท้าทายอำนาจรัฐ แต่คือสมรภูมิ ผลประโยชน์ข้ามพรมแดน วาทกรรมชาตินิยม ทุนสีเทาที่รัฐบาลแพทองธารต้องเผชิญศึกท่ามกลางเสถียรภาพเปราะบาง

การชุมนุมของกลุ่ม รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นัดรวมมวลชน 10.00 น.เป็นต้นไปจนถึง 21.00น.กำลังกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจ ท่ามกลางกระแสชาตินิยมที่ปะทุขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ และความกังวลจากฝ่ายความมั่นคงที่ยกระดับการเฝ้าระวัง โดยแรงขับเคลื่อนเกิดขึ้นจากภายในและภายนอกประเทศและพัวพันกับมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างแยกไม่ออก

เริ่มจากปัจจัยภายใน ความไม่พอใจรัฐบาล ประชาชนบางส่วนแสดงความไม่พอใจต่อการบริหารจัดการประเด็นความมั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเครือข่ายการเมืองเก่าใช้ “ชาติ” เป็นวาทกรรมสำคัญในการรวมมวลชน ปลุกกระแสชาตินิยมให้เข้มข้นขึ้น

ขณะทื่ปัจจัยภายนอกประเทศจากแถลงการณ์อันแข็งกร้าวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาไม่ยอมรับรัฐบาลไทยชุดนี้ สร้างความตึงเครียดให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

ขณะที่ผลประโยชน์ทับซ้อน การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์และบ่อนพนันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครือข่ายผลประโยชน์ผิดกฎหมายตามแนวชายแดน ซึ่งอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อตอบโต้

ผู้เล่นหลักในสมรภูมิอำนาจ

ฝั่งไทย: 

แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน: นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายนิติธร ล้ำเหลือ เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) – กปปส. – สันติอโศก กลุ่มเหล่านี้มีฐานมวลชนและอิทธิพลในการขับเคลื่อนประเด็นทางการเมือง

รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร: อยู่ในสถานะที่ต้องบริหารจัดการสถานการณ์และรับมือกับแรงกดดัน แม่ทัพภาค 2 และฝ่ายความมั่นคง: มีบทบาทสำคัญในการควบคุมสถานการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย

ฝั่งกัมพูชา :

ฮุน เซน และเครือข่ายการเมือง-ธุรกิจชายแดน มีอิทธิพลอย่างมากในการชี้นำทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอาจมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ตามแนวชายแดน กลุ่มทุนผิดกฎหมาย ผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการปราบปรามของไทย อาจเป็นผู้สนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อรักษาฐานที่มั่นของตน

เดิมพันและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

การชุมนุมครั้งนี้มีเดิมพันสูงและอาจส่งผลกระทบในหลายมิติ:

เสถียรภาพรัฐบาล: หากการชุมนุมยืดเยื้อหรือขยายวง อาจกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ฝ่ายค้านจะใช้กดดันรัฐบาลผ่านเวทีรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญ

ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา: วาทกรรมของฮุน เซน อาจดึงประเด็นชายแดนกลับมาเป็น “ชนวนเก่า” ที่จุดความขัดแย้งในความสัมพันธ์ทวิภาคีให้ปะทุขึ้นอีกครั้ง

ความมั่นคงภายใน: การผนึกกำลังของกลุ่มผู้ชุมนุมหลากหลายกลุ่มเสี่ยงต่อการปะทะกับฝ่ายที่เห็นต่าง และยังเปิดช่องให้ฝ่ายไม่หวังดีเข้ามาแทรกซึมเพื่อสร้างสถานการณ์

การอ่านเกมอำนาจที่ซับซ้อน

ท่าทีของฮุน เซนสะท้อนให้เห็น การใช้วาทศิลป์ที่รุกคืบแทนการใช้กำลังทหาร ส่งสัญญาณไปยังทั้งรัฐบาลไทยและกลุ่มทุนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปราบปรามของไทย

ขณะที่ฝ่ายผู้ชุมนุมในไทยอาศัยกระแสชาตินิยม “ยืมมือคนอื่นสร้างแรงกดดัน” จนยากที่จะแยกเส้นแบ่งระหว่างการเคลื่อนไหวภายในประเทศกับอิทธิพลจากภายนอก ที่ต้องมีสติและพึงระมัดระวัง

สถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาลไทยถูก “บีบ” สองทาง (Double Pressure) คือต้องควบคุมสถานการณ์บนท้องถนนโดยไม่เปิดช่องให้เกิดความรุนแรง ขณะเดียวกันก็ต้องประคับประคองความสัมพันธ์ทวิภาคีกับกัมพูชาไม่ให้ลุกลามเป็นความขัดแย้งที่ควบคุมไม่ได้

แนวโน้มในอนาคต
ระยะสั้น (1–2 สัปดาห์):
ฝ่ายความมั่นคงจะตรึงกำลังรอบพื้นที่ชุมนุมเพื่อควบคุมสถานการณ์
-การสื่อสารทางการทูตอาจดำเนินการอย่างเงียบเชียบ
-แต่ต้องจับตา “สงครามคีย์บอร์ด” ข้ามพรมแดนที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นในโลกออนไลน์

ระยะกลาง (1–3 เดือน):
-หากแรงกดดันภายในไม่คลี่คลาย อาจเกิดการชุมนุมต่อเนื่องหลายระลอก
-เวทีรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญอาจถูกดึงเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสมดุลอำนาจ

ระยะยาว:
ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาอาจเผชิญภาวะ “เย็นภายนอก ร้อนภายใน” คือดูเหมือนสงบแต่ยังมีความตึงเครียดแฝงอยู่โครงสร้าง “ทุนชายแดนสีเทา” จะถูกท้าทายอย่างหนัก ซึ่งอาจเร่งให้เกิดการปรับยุทธวิธีหรือการเคลื่อนย้ายฐานปฏิบัติการ

บทสรุปเชิงวิเคราะห์: สมรภูมิสองหน้าของรัฐบาล

การเมืองบนท้องถนนที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เพียงการท้าทายรัฐบาลแต่คือ “สนามประลองอิทธิพล” ระหว่างผลประโยชน์ข้ามพรมแดนและวาทกรรมชาตินิยมภายในประเทศ รัฐบาลไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาสมดุลของ “สามเหลี่ยมอำนาจ” อันได้แก่ ความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ดี และการบังคับใช้กฎหมายกับทุนสีเทาอย่างเด็ดขาด หากรัฐบาลพลาดเพียงมุมใดมุมหนึ่ง วิกฤติที่เกิดขึ้นอาจลุกลามกลายเป็น “วิบากกรรมสมรภูมิสองหน้า” ที่ยากจะควบคุมได้.

อมรเดช ชูสุวรรณ
บก.ข่าวและคอลัมนิสต์เชี่ยวชาญวิเคราะห์ประเด็นสังคมร้อนแรง
ด้วยสไตล์เขียนคมชัด ตรงประเด็น มีมุมมองเฉพาะตัว

 

ข่าวล่าสุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ นักลงทุนจับตาประชุมเฟดลุ้นทิศทางดอกเบี้ย