posttoday

3 วิกฤตโลก

22 มิถุนายน 2561

มีอยู่สามปัญหาใหญ่ที่โลกของเราใบนี้กำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นไปเหมือนกันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

โดย...นาย ป.

มีอยู่สามปัญหาใหญ่ที่โลกของเราใบนี้กำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นไปเหมือนกันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

ปัญหาแรก คือ การเปลี่ยนแปลงอย่างโกลาหลทางเทคโนโลยี หรือที่เรียกกันว่า Disruptive Technology อาจกล่าวให้เห็นภาพ เช่น ในภาคการเงินตอนนี้กำลังเกิดปัญหาคนตกงาน เด็กจบบัญชี การเงิน หรือ บริหารธุรกิจตกงานกันเป็นแถวๆ เป็นสาขาวิชาที่ไม่มีเด็กรุ่นใหม่อยากจะเรียน เพราะจากการนำเทคโนโลยีมาทดแทนมนุษย์

ตัวอย่างเช่น ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมทางการเงิน หรือการค้าทางออนไลน์ หรือแบบอี-คอมเมิร์ซ ที่เป็นการค้าออนไลน์กับการเงินอิเล็กทรอนิกส์ทำให้สามารถลดการพึ่งพาเงินสดและธนาคารในที่สุด โดยไม่ต้องมีคนมาเป็นตัวกลางในการเก็บค่าบริการ คิดเงิน ถอนเงิน เพราะเทคโนโลยีได้สร้างความสะดวกสบายแทนการบริการจากมนุษย์เสียแล้ว 

สอง คือ สังคมไทยและสังคมโลกได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ หรือ Aging Society ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงทำให้ประชากรวัยทำงานในอนาคตน้อยลง ปัญหาใหญ่ที่ผู้สูงอายุในอนาคตต้องเผชิญ อาทิ ปัญหาไม่มีรายได้ใช้จ่ายในช่วงบั้นปลายชีวิต ปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรมจากโรคเรื้อรังร้ายแรง เช่น หัวใจ มะเร็ง สมองเสื่อม 

ปัญหาสังคมผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องเด็ก เพราะทราบดีว่าคนวัยแรงงานน้อยลง และประชากรเด็กน้อยลง ถ้าไม่ดูแลหรือพัฒนาเด็กให้ดีมีคุณภาพอนาคตจะลำบาก เพราะครอบครัวจะมีภาระหนัก เพราะต้องดูแลผู้สูงอายุที่อายุยืนยาวขึ้น ขณะเดียวกันต้องดูแลลูกอีกที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

การดูแลผู้สูงอายุและบุตรหลาน ถือเป็นปัญหาอันเปราะบางไม่ใช่เฉพาะคนชนชั้นล่าง หรือชนชั้นล่างเท่านั้นที่จะประสบปัญหาในแง่ฐานะทางการเงิน แม้แต่คนที่มีฐานะร่ำรวยก็ประสบปัญหาได้ถ้าพ่อแม่กลายเป็นผู้สูงอายุนอนติดเตียง ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อจ้างคนมาดูแล ในที่สุดครอบครัวแบกภาระในเชิงร่างกาย จิตใจ และการเงิน ที่จะยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ 

และสาม คือ Climate and Geologic change หรือการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและธรณี ปัจจุบันเราเจอปัญหาสภาพอากาศแปรปรวนอย่างมากในช่วงหลังๆ ไม่ว่าจะเป็นฝนหลงฤดู อากาศที่ร้อนจัด หรืออากาศที่หนาวจัดจนทำให้เกิดหิมะตกเป็นครั้งแรกในหลายๆ พื้นที่ รวมทั้งภัยธรรมชาติที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นั้นกำลังเป็นการส่งสัญญาณบอกให้เรารู้ว่า ภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องที่เราจะมองข้าม

ในรอบหลายปีที่ผ่านมา คงได้เห็นข่าวภัยพิบัติธรรมชาติที่เกิดขึ้นบนโลก เช่น แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ พายุถล่ม น้ำท่วม และไฟป่า ทำให้ผู้คนที่ไม่เคยสนใจธรรมชาติมาก่อนก็อดคิดไม่ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ หรือพระเจ้าลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เกิดความหวาดวิตกไปทั่ว เพราะภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้นนอกจากจะมีทุกรูปแบบแล้ว ยังมีความรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

มีการประเมินกันว่าเมื่ออุณหภูมิทั่วโลกสูงขึ้น 2 องศาเซลเซียส ภายใน 10-20 ปีข้างหน้า แน่นอนสิ่งที่ตามมา คือ ฤดูกาลเปลี่ยนไป ผืนดิน 1 ใน 4 ของโลกจะกลายเป็นผืนดินแห้งแล้ง ซึ่งทุกวันนี้หน้าร้อนกลับมีฝนตก หน้าฝนกลับหนาว หรือหน้าหนาวกลับร้อน

ปัญหาเหล่านี้เป็นเหมือนกันไปทั่วโลก แล้วจะเกิดอะไรขึ้นตามมา เพราะมีแต่ผลกระทบไม่มีผลดีแต่อย่างใดเลย มนุษย์โลกจะรับมือกันอย่างไรกับสามวิกฤตโลก