posttoday

ยังไม่พอ

21 พฤษภาคม 2561

สถานการณ์การเมืองประเทศไทยนับว่าจะเริ่มร้อนระอุเข้ามาทุกขณะ ยิ่งนับก็ใกล้สู่การเลือกตั้งตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เอ่ยปากไว้

โดย...ทองพระราม

สถานการณ์การเมืองประเทศไทยนับว่าจะเริ่มร้อนระอุเข้ามาทุกขณะ ยิ่งนับก็ใกล้สู่การเลือกตั้งตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เอ่ยปากไว้

แต่ยังมีอีกหลายปมปัญหาที่รัฐบาลต้องเผชิญ โดยเฉพาะกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้ประกาศปี่กลองชัดเจนจะมาชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 22 พ.ค.นี้

ทำให้มีการสนธิกำลังของตำรวจ รวม 18 กองร้อย เฝ้าพื้นที่ไข่แดงไว้ เพราะเกรงว่าอาจมีเหตุอันไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ท่ามกลางหลายฝ่ายมองถึงอนาคตประเทศ

จากนี้จะเดินหน้าไปอย่างไร เพราะเพียงลำพังที่ท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวไว้ถึง 4 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ได้เนรมิตให้บ้านเมืองอยู่ในความสงบ ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่ามันก็จริงอยู่ แต่ความสงบที่ว่าดูเหมือนเป็นการสะกดคลื่นใต้น้ำเอาไว้ไม่ให้ก่อตัวเลยเถิดไปไกลเท่านั้น

ซึ่งในความเป็นจริงบ้านเมืองนั้นต้องการเกินกว่าสงบ คือ ปากท้องของประชาชน แม้เข้าใจได้ว่าเศรษฐกิจโลกนั้นเป็นตัวขับเคลื่อนและทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้

ทว่า ที่ผ่านมาแม้ภาครัฐจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจมากเท่าไร ดูแล้วยังไม่เห็นมากเท่าที่ควร แม้จะมีการอัดฉีดงบประมาณให้ลงถึงทุกภาคส่วนแต่ก็ยังไม่เล็งเห็นผล

ประเด็นนี้รัฐเองควรกลับมาทบทวนว่า ได้ฉีดยาตรงอาการหรือไม่ เพราะเมื่อไม่นานกับการจัดอันดับคนรวยในประเทศก็ยังพบแต่คนรวยหน้าเดิมๆ ที่ยังครองแชมป์อยู่

ขณะที่ภาคส่วนอย่างเอสเอ็มอี หรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต่างออกมาส่งเสียงโอดครวญต่อสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศ ยังไม่สู้ดีนักเท่าที่ควร

อย่าลืมว่าภาคประชาชนชั้นกลาง รวมไปถึงภาคเกษตรกร คือ แรงขับเคลื่อนอันสำคัญให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ด้วยพลังประชาชนจากฐานรากและฐานชนชั้นกลาง

ความพยายามที่รัฐบาลดำเนินการแม้เข้าใจได้ว่ายากต่อการเสกให้เห็นผลในพริบตา ทว่าสถานการณ์ของรัฐบาลเป็นอยู่ต่อการบริหารประเทศนั้น ง่ายกว่ารัฐอันมีที่มาจากการเลือกตั้ง

เพราะสามารถบริหารได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ลำพังอ้างถึงความสงบเรียบร้อยในบ้านมืองจึงไม่เพียงพอ แม้จะเป็นข้อดีอยู่เนืองๆ ก็ตาม กับการบริหารประเทศ

ขณะเดียวกัน ยิ่งตอนนี้ราคาเชื้อเพลิงกำลังปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับรายได้ค่าครองชีพของประชาชนยังทรงตัวคงเดิม ไม่แตกต่างแบบเรียกว่าพอลืมตาอ้าปากได้

จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งคิดทบทวนเพื่อให้ประชาชนรีบลุกขึ้นยืนได้ นอกเหนือจากประเด็นความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

เมื่อประชาชนไม่มีกำลัง แน่นอนย่อมส่งผลต่อการขับเคลื่อนประเทศ และพอสรุปรวมได้ว่าบ้านเมืองสงบ แต่กระเป๋าเงินประชาชนยังแฟบ คงไม่สามารถหยิบมาหักล้างอะไรได้

ก่อนไปสู่สนามเลือกตั้งในช่วงต้นปี 2562 รัฐควรเร่งทำเรื่องนี้ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมจะเป็นการดีที่สุด เพราะอย่างน้อยมันมีอานิสงส์หากคิดจะกลับมาในทางการเมือง