ใครทำให้เป็นฮีโร่

โดย...พะนะท่าน

ทุกอย่างปรบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกครับ

คดีเปรี้ยวฆาตกรหั่นศพ ตอนนั้น สื่อถูกโจมตีว่าสร้างเปรี้ยวเป็นฮีโร่บ้าง เป็นเน็ตไอดอลบ้าง

ก็จริงครับสื่อโหมกระแสสร้างเรตติ้ง แต่ก็ต้องแยกแยะสื่อประเภทไหน มีสื่อกระแสหลักไม่กี่เจ้า แข่งกันตีข่าว ที่เป็นปัญหาใหญ่ก็พวกสื่อใหม่ สื่อบุคคลเอาไปเขียน เมนต์ แชร์ จนเลยเถิด ภาพกระเป๋าสายรุ้งของเปรี้ยวนี่ก็มาจากกระแสโซเชียลทั้งนั้น สื่อหลักกลัวตกกระแสก็เอาไปขยายความ เป็นงูกินหางแยกไม่อออก

เดี๋ยวนี้คำว่า “สื่อ” เหมาเข่งไปหมดแล้ว ไม่แยกแยะสื่อไหนดี สื่อไหนมอมเมาละเมิดจริยธรรมคนอื่น คนทั่วไป เพจดัง ก็เป็นสื่อ นิยามสื่อเลยมึนตึ้บครอบคลุมไปหมด

แต่ทั้งหมด มันก็ต้องโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตัวนำ เปรี้ยว ในฐานะผู้ต้องหามาแถลงข่าว ให้สื่อถ่ายรูปเอิกเกริก ยังไม่พอเจ้าหน้าที่ดันไปถ่ายรูปเซลฟี่ยิ้มร่ากับทีม 3 สาวผู้ต้องหา แชร์ต่อให้สื่อเพื่อสร้างผลงาน

นี่แหละ ต้นทางสร้างผู้ต้องหาให้เป็น “ฮีโร่” 

ทั้งที่คำสั่งของ ผบ.ตร.ออกตั้งแต่ปี 2548 ห้ามไม่ให้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว เพราะละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน เพราะบางคดีศาลตัดสินเขาไม่ผิด ผู้ต้องหาบางคนกลายเป็น “แพะ” ถูกฆ่าทั้งเป็นไปแล้ว ซึ่งตามหลักรัฐธรรมนูญให้สันนิษฐานว่า ผู้ต้องหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลสูงสุดตัดสิน 

แต่คำสั่งของ ผบ.ตร.ก็ถูกตำรวจฝ่าฝืนเสียเอง นำผู้ต้องหามาแถลงอึกทึกครึกโครม ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร.บางคนบางยุค ถึงขั้นไปนั่งสัมภาษณ์เองเพียงเพื่อเอาผลงานให้นายเห็น

มากรณีล่าสุด วัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ และอีกหลายจุดใน กทม.ตั้งแต่ปี 2550

ท่าน ผบ.ตร.ก็หวังดีอยากให้ประชาชนรู้ว่าจับได้แล้ว กว่าจะสืบสวน ตามล่าได้ ใช้ทีมงานขั้นเทพ เรื่องนี้ก็ต้องซูฮกผลงาน “บิ๊กแป๊ะ” ถึงบอกไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ ถ้าจริงใจพลิกฟ้าล่าแผ่นดินซะอย่างจับได้หมด

แต่แหม...เรื่องเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดยังไม่เข็ด คราวนี้ ผบ.ตร. พา “ท่านผู้ต้องหา” มาแถลงข่าวให้สารภาพขออภัยกับคนไทย นัยว่า เตี๊ยมมาแล้วเลยปล่อยผู้ต้องหา จับไมค์พูดไหลไปเรื่อย แต่ผมบอกตามตรงว่าเสียวแทน

เพราะอะไร... ก็ถ้าไปพูดแล้วพาดพิงถึงใคร สถาบันใดสถาบันหนึ่งขึ้นมา แล้วใครจะรับผิดชอบ อย่าลืมว่า วินาทีนั้นเป็นการถ่ายทอดสดทั่วประเทศในทุกแพลตฟอร์ม เฟซบุ๊กไลฟ์กดยาวต่อเนื่อง สั่งให้ลบภาพย้อนหลังไม่ได้นะขอรับ

นี่ขนาดคุมกลายๆ “พี่วัฒนา” ของท่านศรีวราห์ รอง ผบ.ตร. เล่าถึงแรงบันดาลใจที่วางระเบิดจนคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่บาดเจ็บหลายสิบ เพราะเกลียดทหารบางคนที่ยึดอำนาจแล้วขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
บิ๊กตู่ฟังแล้วโกรธอ่ะ

คำสารภาพนี่แหละ มันไม่ได้น่าเห็นใจอะไรเลย แต่สร้างความเป็น “ฮีโร่” ในสายตาของคนบางกลุ่มที่ต้องการเดินตามรอยใช้ความรุนแรงเพื่อตอบโต้อีกฝ่าย

พวกโลนวูล์ฟ (Lone Wolf) ที่ “บิ๊กตู่” บอกเป็นพฤติกรรมทำแบบอิสระเหมือนในต่างประเทศ คราวนี้ได้แรงฮึกเหิมจาก “วัฒนาโมเดล” ถ้าจะเอาเยี่ยงอย่างอีก ก็ต้องปรับแผนให้รัดกุมกว่านี้

คำสั่งเด็ดขาดของบิ๊กตู่ จากนี้ห้ามนำผู้ต้องหาแถลงข่าวอีก ผบ.ตร.ก็รับลูกตาม ดูซิครั้งนี้จะมีน้ำยาแค่ไหน