posttoday

ถนนบ้านเขา

14 พฤษภาคม 2560

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาบบุญมีโอกาสที่จะพาสองขาและสองตาไปดูโลกกว้าง ไปดูการจัดการ และไปสัมผัสวิถีชีวิต

โดย...ดาบบุญ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ดาบบุญมีโอกาสที่จะพาสองขาและสองตาไปดูโลกกว้าง ไปดูการจัดการ และไปสัมผัสวิถีชีวิตของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมืองที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก” นั่นคือ ประเทศเดนมาร์ก

น่าสนใจว่าประเทศนี้ทำไมถึงได้ถูกวัดค่าความสุขออกมาเช่นนั้น โดยเฉพาะเมื่อได้ไปสัมผัสบนท้องถนนของเมืองโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศนี้ สายตาสอดส่ายมองหาตำรวจบนท้องถนน ตลอดระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ ดาบบุญนับหัวตำรวจที่พบเจอบนท้องถนนได้ไม่ถึง 5 นาย

แล้วเขาจัดการการจราจรกันได้อย่างไร ตำรวจจราจรบ้านเขาไม่ต้องออกมาตามท้องถนนเลยหรือ

คำตอบจากสิ่งที่ได้สัมผัสทำให้เห็นถึง “วินัย” บนท้องถนนอย่างจริงจังของคนเดนมาร์ก กล่าวคือคนใช้รถใช้ถนนจะมีความรับผิดชอบค่อนข้างสูง และเคารพกติกากฎหมายจราจรของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด

ใช้วินัยในตัวเองเป็นข้อกำหนดการขับขี่บนท้องถนน สะพานลอยไม่มีให้เห็น แต่หากคนจะข้ามถนนบนทางม้าลาย รถจะต้องหยุดนิ่งให้ผ่าน ความเร็วถูกกำหนดจากป้ายที่บอกกำกับเอาไว้ และก็อยู่ที่ปลายเท้า กับข้อมือของผู้ขับขี่ที่ต้องบังคับรถให้เป็นไปตามนั้น

แต่หากเร็วเกินไป ก็จะมีป้ายอิเล็กทรอนิกส์ในทุกๆ 1 กิโลเมตร บอกเอาไว้ว่ารถคันที่คุณขับอยู่ ความเร็วมากเท่าใด เกินกำหนดหรือไม่ หากเกินจะต้องลดความเร็วลง

เมื่อดาบบุญได้สอบถามถึงวินัยคนขับขี่รถในประเทศเดนมาร์ก ก็ได้คำตอบที่น่าสนใจว่า โทษทัณฑ์นั้นจะไม่มีค่าปรับแต่อย่างใด หากแต่จะเป็นการตัดคะแนนของใบขับขี่ผู้นั้นที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ถูกตัดคะแนนเกิน 3 ครั้ง ใบขับขี่ที่ถือครองอยู่เป็นอันโมฆะ และต้องสอบใบขับขี่ใหม่ ซึ่งแต่ละครั้งของการสอบจะมีค่าใช้จ่ายคิดเป็นเงินไทยก็ราว 1 แสนบาท

1 แสนบาท คือค่าใบขับขี่ และนี่อาจจะเป็นเหตุผลหลักสำหรับวินัยบนท้องถนนของคนที่นี่

โคเปนเฮเกน ยังเป็นเมืองแห่งจักรยาน ที่ว่ากันว่าคนปั่นจักรยานในการเดินทางมากกว่ารถยนต์บนท้องถนนเสียอีก ไม่ว่าจุดใดของเมือง บนท้องถนนจะมีผู้คนปั่นจักรยานกันขวักไขว่ ใส่สูท แต่ชุดพนักงานออฟฟิศเก๋ๆ หรือวัยรุ่นหนุ่มสาว ต่างเลือกใช้การปั่นเป็นตัวเลือกในการเดินทาง

เลนจักรยานถูกแบ่งเอาไว้อย่างชัดเจนในทุกถนนของเมือง ไม่ว่าจะเป็นถนนใหญ่ ในตรอกซอกซอย รถยนต์ห้ามเด็ดขาดที่จะเข้ามาในเลนจักรยาน ขณะเดียวกันจักรยานก็ห้ามเด็ดขาดเช่นกันที่จะไปในเลนของรถยนต์

บนทางเดินที่สำหรับเดินเท่านั้น บนทางจักรยานก็สำหรับจักรยานเช่นกัน บนถนนก็สำหรับรถยนต์ ทุกพื้นที่มีเจ้าของอย่างชัดเจน ลดภาวะอุบัติเหตุ ให้วินัยของผู้คนทำหน้าที่แทนการเอาตำรวจไปวางไว้จุดต่างๆ

จุดนี้อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีความสุขของผู้คน เมื่อไร้เรื่องเครียดบนท้องถนน อารมณ์ไม่ได้ถูกกระตุ้นจากปัจจัยภายนอกให้เกิดความรุนแรง ผู้คนมีความรับผิดชอบในการใช้รถใช้ถนน

ความสบายใจจึงบังเกิด และถูกถ่ายออกมาเป็นความสุข