posttoday

สุดยอดโกงทุกวงการ

19 มกราคม 2558

คอร์รัปชั่นเป็นเรื่องร้ายแรง แต่เรากำลังชินชาจนเห็นสิ่งผิดปกติเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

โดย...พะนะท่าน

คอร์รัปชั่นเป็นเรื่องร้ายแรง แต่เรากำลังชินชาจนเห็นสิ่งผิดปกติเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

แม้แต่เด็กรุ่นใหม่กำลังหลักของชาติในอนาคต ยังมีทัศนคติว่า “โกงได้ไม่เป็นไร ถ้าเราได้ด้วย” แล้วจะหวังพึ่งอะไรได้

ข่าวการคอร์รัปชั่นของหน่วยงานต่างๆ กลายเป็นแฟชั่นมีแทบทุกสัปดาห์ แค่ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก็ปรากฏข่าวทุจริตฉาวโฉ่ในหลายวงการ

โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ป.ป.ช.สรุปความเสียหายไว้มหาศาลถึง 5-6 แสนล้านบาท

คดีนี้กำลังเอาผิดยิ่งลักษณ์ ทั้งในคดีถอดถอนออกจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อีกทางก็จะส่งฟ้องศาลฎีกาข้อหาปล่อยปละ ไม่ระงับยับยั้งจนเกิดความเสียหาย

การทุจริตในโครงการรับจำนำ “พืชผลการเกษตร” กลายเป็นเรื่องปกติทั้ง มันสำปะหลัง ข้าวโพด ข้าว ฯลฯ เกษตรกรต้องย่ำแย่จากราคาพืชผลตกต่ำไม่พอ ยังถูก “บิ๊กข้าราชการ-พ่อค้า” สบช่องหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองอีก

วงการสีกากี ก็เช่นกันแทนที่จะบังคับใช้กฎหมายเป็นธรรม แต่กลับใช้อำนาจมืดรีดไถส่วย

คดีประวัติศาสตร์การจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลางและเครือข่ายตำรวจลูกน้องคนสนิททั้งหลาย มีการอายัดเงินต้องสงสัยนับพันล้าน จากการใช้อำนาจมิชอบหาประโยชน์ นี่เป็นแค่ภูเขาน้ำแข็งของการทุจริตในวงการสีกากีที่ใครๆ ก็รู้ว่ามีมากกว่านั้น

ขนาดบิ๊กตำรวจต่อคิวเดินเข้าคุก สะเทือนวงการสีกากีด้วยกันเอง แต่ตำรวจอีกกลุ่มก็ยังหากินกับอำนาจและเงินทองในเวลาเดียวกันจนกลายเป็นวิถีปกติไปเสียแล้ว

ล่าสุดในคดีคนร้ายอุ้มนักธุรกิจชาวเกาหลีเรียกค่าไถ่ 2 ล้านบาท ผลการสอบสวน พบตำรวจนครบาล 10 นาย ตั้งแต่ระดับสารวัตรจนถึงชั้นประทวน เกี่ยวข้องกับขบวนการเรียกค่าไถ่ครั้งนี้

วงการศึกษาก็ฉาวโฉ่กับคดีโกงเงินครั้งมโหฬารกว่า 1,600 ล้านบาท ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โยงใยผู้บริหารการศึกษา นักการธนาคาร คนบันเทิงกันถ้วนหน้า

ที่มหาวิทยาลัยนครพนม ก็เกิดกรณียักยอกเงิน 30 ล้านบาท มีการสั่งพักงาน “อธิการบดี” เพราะพบพฤติกรรมทุจริต

ยังมีเรื่องโกงเครื่องพละกันอีก เมื่อพบการทุจริตจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของกรมพลศึกษาแพงเกินจริงถึง 10 เท่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องเหม็นๆ จากโครงการสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนของ สพฐ.ที่ไม่ได้มาจากความต้องการของพื้นที่  

วงการสงฆ์ก็แปดเปื้อนกับเรื่องเงินๆ ทองๆ จากคดีอภิมหาฉ้อโกงของหลวงปู่เณรคำครึกโครมเมื่อ 2 ปีก่อน วันนี้เกิดคดีทุจริตที่วัดสระเกศ มีการสั่งปลด “เจ้าคุณเสนาะ” พ้นเจ้าอาวาสวัดและกรรมการมหาเถรสมาคม หลังสตง.พบพิรุธการบริหารงบจัดงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จเกี่ยว 67 ล้านบาท

ปัญหาทุจริตในเมืองไทยสาธยายคงไม่หมด เพราะนับวันขนาดคอร์รัปชั่นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แตะวงการไหนเจอที่นั่นขณะที่ระบบตรวจสอบ การตื่นตัวของสังคมยังไม่ทันกาล เหมือนใช้ “ยาพารา” มารักษา “โรคมะเร็ง”