posttoday

พระกับอาบัติปาราชิก

23 เมษายน 2561

เรื่องที่สั่นสะเทือนแวดวงสงฆ์ยามนี้ ไม่เกินประเด็นที่มีการแจ้งความร้องทุกข์เงินทอนวัด ที่ปรากฏว่ามีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง 5 รูป

โดย..ณ กาฬ เลาหะวิไลย

เรื่องที่สั่นสะเทือนแวดวงสงฆ์ยามนี้ ไม่เกินประเด็นที่มีการแจ้งความร้องทุกข์เงินทอนวัด ที่ปรากฏว่ามีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้อง 5 รูป

เหตุที่พระทั้ง 5 รูป เข้าไปเกี่ยว ก็เนื่องจากมีการให้เงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ปรากฏว่าบางวัดไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม เลยเอาเงินไปสร้างกุฏิ บางวัดมีโรงเรียน แต่นำเงินไปใช้อุดหนุนพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศ เป็นการใช้เงินผิดประเภท

ในทางโลกต้องว่ากันไป แต่ในทางธรรมถือเป็นเรื่องใหญ่ หากทำผิดจริงก็มีหวังเข้าข่ายอาบัติปาราชิก ต้องขาดจากความเป็นพระ แม้จะสึกหรือไม่สึกก็ตามที 

อาบัติปาราชิก หากมองในทางโลก บางข้อก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อาทิ การอวดอุตริมนุสธรรม หรือการอ้างธรรมไม่มีในตัว ทางโลกอธิบายง่ายๆ คือการโม้ หลอกลวง ไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ทางธรรมถือว่ากระทำไม่ได้ ถือเป็นความผิดหนัก

หรือกระทั่งการลักขโมยของมีค่ามากกว่า 5 มาสก ทางโลกมูลค่าไม่กี่สลึง แต่ทางธรรมจะกระทำไม่ได้ ถ้าทำต้องปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะธรรมวินัยนั้นพระพุทธเจ้าที่ท่านบัญญัติเอาไว้ เมื่อมาบวชภายใต้พุทธศาสนาก็ต้องยึดธรรมวินัย เป็นยันต์กันอลัชชี หรือการปฏิบัติที่จะทำให้ศาสนาเสื่อม

จะมายึดตัวตน ยึดเอาว่ามีลูกศิษย์มากมาย ยึดพรรษา ยึดสมณศักดิ์ เป็นสรณะมันก็ไม่ใช่

เหมือนบางกรณีที่เกิดขึ้น มีพระเอาเงินวัดไปใช้จนถูกฟ้องดำเนินคดี ต่อมาก็เอาเงินมาคืน ทางโลกพ้นผิด ไม่สั่งฟ้อง แต่ทางธรรมถือว่าขาดจากความเป็นพระไปแล้ว นับตั้งแต่วันที่เอาเงินวัดไปใช้ สมบูรณ์พร้อมการกระทำด้วยกาย ใจ 

แม้จะใส่จีวร ห่มเหลือง โกนหัว ก็ไม่ใช่พระ 

นี่คือข้อแตกต่างระหว่างทางโลกกับทางธรรม

ในทางกลับกัน แม้ทางโลกจะมีการติฉินนินทา ให้ร้ายว่าพระองค์นั้น รูปนี้ปาราชิก แต่ถ้าท่านไม่ได้ทำ ก็ไม่ได้ขาดจากความเป็นพระ

ธรรมวินัยจะเป็นเครื่องปกป้อง แยกแยะพระจริงกับพระเก๊

ฉะนั้น กรณีที่เกิดขึ้นก็ควรแล้วที่ชาวพุทธจะตั้งหลักให้ดี 

จะผิดจะถูก ในทางโลกก็ว่าไป ขณะที่ในทางธรรมก็มีธรรมวินัยคอยกำกับ เทียบเคียง

เหมือนกรณีพระเจ้าพิมพิสาร เคยเปล่งพระวาจาไว้ว่า หญ้า ไม้ และน้ำ ข้าพเจ้าถวายแล้วแก่สมณะและพราหมณ์ทั้งหลาย โปรดใช้สอยเถิด ปรากฏว่ามีพระบางรูปไปเอาไม้หลวงมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต และก็อ้างคำพูดพระเจ้าพิมพิสาร

แต่คำพูดนั้นของพระเจ้าพิมพิสาร ทรงยืนยันว่าหมายถึง หญ้าไม้ และน้ำ ที่มีอยู่ในป่า ไม่มีใครหวงแหน ไม่ใช่สิ่งที่มีเจ้าของ 

ผลที่สุดก็คือพระพุทธเจ้าตัดสินว่าผิด กลายเป็นต้นบัญญัติอาบัติปาราชิกว่าด้วยการลักทรัพย์

ธรรมเที่ยงธรรมเสมอ ผู้ใดปฏิบัติชอบ หรือผู้ใดละเมิด ย่อมรู้อยู่แก่ใจ 

ดูไป พิจารณาไป เรื่องนี้ก็เป็นคติธรรมของชาวพุทธ

จะได้เห็นวัตรปฏิบัติของพระแท้สุปฏิปันโน เนื้อนาบุญโลก

แตกต่างจากพระเทียม พระนาแล้งอย่างไร