posttoday

วันที่ผู้ใหญ่ต้องรู้หน้าที่

12 มกราคม 2561

วันเสาร์ที่จะถึงนี้ เป็นวันเด็กแห่งชาติ หลายคนคงนึกถึงความสำคัญของเด็กและมีหน้าที่พาเด็กเที่ยว

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

วันเสาร์ที่จะถึงนี้ เป็นวันเด็กแห่งชาติ หลายคนคงนึกถึงความสำคัญของเด็กและมีหน้าที่พาเด็กเที่ยว แต่แท้จริงผู้ใหญ่มีหน้าที่มากกว่านั้น โดยเฉพาะต้องเข้าใจบทบาทตัวเอง เพราะมีความสำคัญมากด้วยเช่นกัน

ไม่เชื่อไปอ่านคติธรรม วันเด็กปีนี้ ที่ประทานจาก สมเด็จพระอริย วงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อันมีใจความว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนวิธีที่ทำให้บุคคลได้ชื่อว่าเป็นคนดี เป็นที่รักของผู้คนทั่วไปไว้วิธีหนึ่ง เรียกว่า อัตถจริยา หมายถึง การบำเพ็ญประโยชน์ การประพฤติสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ช่วยเหลือ ทำงาน สร้างสรรค์ด้วยความตั้งใจอย่างดีเลิศ ส่งเสริมให้เพื่อนสมาชิกในสังคมประพฤติดีงาม และมีสติปัญญา

อัตถจริยาดังกล่าวนี้ ปัจจุบันนิยมเรียกว่า จิตอาสา ซึ่งถ้าพิจารณาอย่างผิวเผิน อาจเข้าใจคลาดเคลื่อนไปว่า จิตอาสากำลังจำต้องเหน็ดเหนื่อย หรือเผชิญทุกข์กว่าคนที่ไม่เป็นจิตอาสา

แต่ถ้าพิเคราะห์ในแง่มุมกลับกัน แท้จริงแล้วคนทำงานจิตอาสาด้วยใจจริง ย่อมมีความรู้สึกเบิกบานยิ่งกว่าคนที่ไม่ทำงานจิตอาสา เพราะจิตอาสาที่แท้จริงจะไม่คิดว่าตนกำลังสูญเสียพละกำลังหรือประโยชน์ใดๆ โดยไร้ค่า หากกลับเป็นฝ่ายได้รับประโยชน์ คือ ได้ความสุขใจ ชื่นใจที่เห็นความสุขของผู้อื่น และได้ภาคภูมิใจว่าเป็นผู้สร้างสรรค์สังคมที่ดีงาม

เด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญที่จะพาบ้านเมืองไทยให้รุ่งเรืองสืบไป จึงขอให้ผู้ใหญ่เร่งปลูกฝังและสร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชนเป็น ผู้หนักแน่นในคุณธรรม ข้ออัตถจริยา และขอให้เด็กๆ รู้สึกสนุกสนาน เบิกบานทุกครั้งที่ได้ทำประโยชน์ จงอย่ายอมแพ้แก่ความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

เนื้อหาใจความของคติธรรมที่ทรงประทาน มองไปที่ผู้ใหญ่ต้องเร่งปลูกฝัง สร้างสรรค์เด็กและเยาวชน

และถ้าไปอ่านพระวรธัมโมวาทย้อนหลังของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ก่อน ในช่วงวันเด็ก หลายครั้งท่านทรงเน้นย้ำความสำเร็จของเด็กและผู้ใหญ่ไว้พร้อมๆ กัน อาทิ ที่ทรงประทานในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2555 ความว่า เด็กเป็นอนาคตของชาติ แต่ผู้ใหญ่เป็นอนาคตของเด็ก

ผู้ใหญ่จึงเป็นความสำคัญที่สุดของชาติ อนาคตของชาติอยู่ในมือของเด็ก และอนาคตของเด็กอยู่ในมือของผู้ใหญ่ นั่นก็เท่ากับชาติอยู่ในมือของผู้ใหญ่ในชาตินั่นเอง

ผู้ใหญ่เป็นแบบอย่างอย่างไรให้เด็กดู ให้เด็กรู้ ให้เด็กเห็น จนฝังจิตฝังใจ จนรับไว้เป็นนิสัยใจคอการปฏิบัติของเด็กไปโดยไม่รู้ตัว

ปัจจุบันผู้ใหญ่เป็นอย่างไร อนาคตของชาติจะเป็นเช่นนั้น เด็กยังเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เปรียบเหมือนผ้าขาว เอาสีอะไรไปใส่ย่อมเป็นสีนั้น จึงขอ ฝากเด็กๆ ไว้กับผู้ใหญ่ ฝากอนาคตของชาติไว้กับเด็กๆ เพราะเขาเป็นความหวังของประชาชน

การศึกษาถึงโลกในใจของเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดของพวกเขา เป็นหนึ่งในแบบฝึกหัดที่สำคัญที่สุดของผู้ใหญ่

ทั้งหมดสรุปความได้ว่า วันเด็กจึงไม่ใช่วันที่เห็นความสำคัญของเด็ก แต่เป็นวันที่ผู้ใหญ่ต้องระลึกให้ดีด้วยเช่นกัน

อนาคตของชาติจะดีหรือไม่ดี อยู่ที่ผู้ใหญ่วันนี้ อย่าโยนภาระให้ใคร