posttoday

เรือนหอแห่งรัก ริมเจ้าพระยาของ ทัศนาวลัย จักรพงษ์

05 พฤษภาคม 2556

สาวสวยหุ่นดี ตาคม ผมหยิก ฮาน่าทัศนาวลัย จักรพงษ์ หลายคนรู้จักเธอดีในฐานะนักแสดงและพิธีกร

โดย...อณุศรา ทองอุไร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

สาวสวยหุ่นดี ตาคม ผมหยิก ฮาน่าทัศนาวลัย จักรพงษ์ หลายคนรู้จักเธอดีในฐานะนักแสดงและพิธีกร แต่อีกบทบาทล่าสุดก็คือการเป็นเจ้าของคลินิกความงาม ลาลานาคลินิก ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่ถึงครึ่งปี วันนี้เธอมาเปิดบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอในวังจักรพงษ์ ให้ได้ชื่นชมความสวยงามเขียวครึ้มของต้นไม้มากมายนานาพันธุ์ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้บรรยากาศดูสบายๆ ชื่นใจดีแท้ ก็แหม..อากาศร้อนๆ แบบนี้ได้ลมเย็นจากธรรมชาติน่ะสุขใจจริงๆ เลย

ฮาน่า เล่าว่า วังใหญ่เป็นที่อยู่ของคุณแม่สามี (ม.ร.ว นริศรา) โดยคุณแม่ก็ชวนให้เธอและสามี (ฮิวโก้ จุลจักร) ขึ้นไปอยู่ที่วังใหญ่ แต่เมื่อคุณแม่ไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษนานๆ จะกลับเมืองไทยสักที อีกทั้งฮิวโก้ก็ไปทำงาน (ทำเพลง) ที่สหรัฐอเมริกา เธอก็ไม่อยากไปอยู่เพราะวังหลังใหญ่ อยู่แค่ 2 คนกับลูกชาย (ฮาเปอร์) เป็นภาระแม่บ้านต้องมาทำความสะอาด สิ้นเปลืองเวลาและพลังงานโดยใช่เหตุ

“จริงๆ แล้วฮิวโก้เขาก็ไม่ชอบอยู่วังใหญ่เท่าไหร่ เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง เขาชอบอยู่เรือนเล็กนี้มากกว่า เราเรียกว่าบ้านจีน ซึ่งเขาอยู่มาตั้งแต่เด็ก เป็นบ้านขนาด 2 ห้องนอน มีห้องรับแขก มุมนั่งเล่น และครัวเป็นส่วนตัวดี เหมาะกับ 3 คนพ่อแม่ลูก ครอบครัวเล็กๆ แบบเรา ดูแลทำความสะอาดก็ง่ายด้วย แล้วเรือนหลังนี้ก็ใกล้ริมแม่น้ำมากกว่าวังใหญ่ เย็นๆ ก็นังเล่นที่ระเบียงชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา” เธอ กล่าวด้วยรอยยิ้ม

การตกแต่งใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก ทั้งตัวบ้าน เครื่องเรือน เพราะไม้ทำให้รู้สึกอบอุ่น การตกแต่งเรียบง่าย แต่จะเน้นงานแอนทีคเยอะหน่อยเพราะสามีชอบของเก่า เราทั้งคู่ชอบบ้านโล่งๆ แบบว่าน้อยๆ แต่งดงาม ยิ่งลูกยังเล็กไม่อยากมีของเยอะๆ จะขวางทางการเดิน การวิ่งของเขา แล้วจะทำให้ข้าวของแตกหักได้ง่ายๆ

บ้านจีนหลังนี้ เปรียบเสมือนเรือหอของเรา ชอบมาอยู่ที่นี่ พอเหมาะพอดีมีความอบอุ่น เป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนมีห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กๆ เผื่อไว้ให้ลูกชายตอนเขาโตกว่านี้อีกนิด แล้วก็มีระเบียงขนาดกำลังดีหันหน้าไปทางแม่น้ำ ส่วนชั้นล่างมีห้องรับแขก ห้องครัว แล้วก็สวนนั่งเล่นหน้าบ้าน ที่ใกล้กับสระว่ายน้ำ แถมมีศาลาใหญ่ริมแม่น้ำเดินแป๊บเดียวก็ถึง มุมที่มักจะไปนั่งเล่นกับลูกบ่อยๆ ก็ที่ศาลาริมน้ำ มีทั้งส่วนที่อยู่ในห้องแอร์ และส่วนชั้น 2 ที่เปิดโล่งรับลมธรรมชาติ ตอนเช้ากับตอนเย็นนี่นั่งแล้วชื่นใจดีแท้

อีกส่วนที่เธอมักไปนั่งเล่นบ้าง อ่านหนังสือบ้าง นั่งทำงานก็คือศาลา 8 เหลี่ยม ซึ่งเป็นศาลาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เดิมตั้งอยู่ที่หัวหินแต่คุณแม่สามี ท่านรักมากท่านยกมาไว้ที่นี่ การที่ได้มาอยู่ที่นี่ทำให้ได้ใช้ชีวิตแบบช้าๆ ลงบ้าง แม้จะอยู่ในย่านใจเมือง แต่บรรยากาศโดยรวมของบ้านกลับมีความอบอุ่นร่มรื่นแบบบ้านโบราณ มีต้นไม้ใหญ่มากมาย ทั้งไม้ใหญ่ ไม้ใบ ไม้ดอก สดชื่นตลอดทั้งปี ช่วยกรองเสียงและช่วยบังสายตาจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ยังเห็นผู้คนใช้เส้นทางจราจรทางเรือ ชีวิตดูเรื่อยๆ สบาย เติมเต็มความหมายของคำว่าบ้านเพื่อพักกายพักใจกับคนที่เรารักอย่างแท้จริง บ้านหลังนี้เงียบสงบเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย อยู่แล้วรู้สึกใช้ชีวิตแบบช้าๆ ลงบ้าง