ซ้ำรอยเจ๊ง
เห็นทีต้องกล่าวคำอำลา โครงการโฮปเวลล์ อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่บริษัท อิตาเลียนไทย
โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย
เห็นทีต้องกล่าวคำอำลา โครงการโฮปเวลล์ อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่บริษัท อิตาเลียนไทย เข้าพื้นที่และทยอยตัดเสาตอม่อโฮปเวลล์ริมถนนวิภาวดีรังสิต
ตามแผนจะมีการรื้อและตัดเสาโฮปเวลล์ ทั้งหมด 500 ต้น ระยะทาง 26 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน เริ่มตั้งแต่บริเวณวัดเสมียนนารีไปจนถึงรังสิต
แผนการรื้อถอนจะแบ่งออกเป็นชิ้นๆ และจะนำไปที่ศูนย์อุตสาหกรรมอิตาเลียนไทย อ.วิหารแดง จ.สระบุรี เพื่อนำไปแปรสภาพเป็นคอนกรีตสำเร็จรูป
เหตุผลที่มีการรื้อเสาโฮปเวลล์ เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อรังสิต นั่นเอง โดยมีแผนก่อสร้างปีนี้ และจะแล้วเสร็จในปี 2560
คงจำกันได้ว่า โฮปเวลล์ เป็นโครงการที่โด่งดังมากในอดีต นับตั้งแต่ปี 2533 เนื่องจากเป็นโครงการก่อสร้างที่รีบด่วน เร่งรีบ ขนาดวาระเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเป็นกระดาษเพียงไม่กี่แผ่น
ผลที่ตามมาคือการก่อสร้างโครงการโฮปเวลล์เป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากประสบปัญหามากมาย อาทิ การส่งมอบพื้นที่บริเวณริมทางรถไฟ จุดตัดกับโครงการทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ฯลฯ
สุดท้ายภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2534 รัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน ได้เข้ามาตรวจสอบสัญญาสัมปทานทั้งหมดที่มีเงื่อนไขการผูกขาด โครงการโฮปเวลล์ก็เป็นโครงการหนึ่งที่ถูกตรวจสอบและได้ประกาศล้มโครงการโฮปเวลล์
ปัญหาของโฮปเวลล์ ประการสำคัญคือความเร่งรีบและไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้
ทั้งหมดมุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะการมองว่า การพัฒนาพื้นที่พาณิชย์ตลอดเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าโฮปเวลล์จะสร้างผลกำไรมหาศาลกลับคืนมา จึงทำทุกวิถีทางให้โครงการผ่านออกมา
สุดท้าย โฮปเวลล์ก็เหลือตอม่อไว้เป็นอนุสรณ์ และต่อไปก็ไม่เหลือแม้แต่ตอ
นี่แหละ อภิมหากู้โครงการ 2.2 ล้านล้านบาท ที่กำลังหมายมั่นปั้นมือจะกู้กันสนุกมือก็กำลังซ้ำรอยโฮปเวลล์
เพราะเงินกู้งวดนี้จะเอาไปลงทุนโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง โดยกำลังเสกสรรตัวเลข ผลตอบแทนการลงทุนทั้งปริมาณผู้โดยสาร ผลตอบแทนด้านการพาณิชย์กันยกใหญ่ ซ้ำรอยโฮปเวลล์ไม่มีผิด
สุดท้ายที่เหลืออยู่ก็คงจะเป็นตอและผลขาดทุนไม่มีผิดเพี้ยน
ส่วนตามน้ำ ทวนน้ำ ก็งับ งาบกันไปเรียบร้อย


