posttoday

ไขความจริง "คนละครึ่ง 60:40" มีผลทางภาษีอย่างไรกับผู้ใช้และร้านค้า?

12 พฤศจิกายน 2568

รัฐบาลปรับโครงการ "คนละครึ่ง" เป็น 60:40 เจาะจงผู้เสียภาษี รัฐยืนยัน ผู้ใช้ทั่วไปไม่มีผลกระทบทางภาษี แต่ พ่อค้าแม่ค้า ต้องนำยอดขายทั้งหมด (รวมส่วนรัฐสมทบ) ไปรวมคำนวณ ภาษีเงินได้ ตามกฎหมาย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โครงการ “คนละครึ่ง” กลายเป็นหนึ่งในนโยบายรัฐที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากประชาชน เนื่องจากช่วยแบ่งเบาแรงกดดันค่าครองชีพ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันรัฐบาลได้นำโครงการกลับมาปัดฝุ่นอีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า คนละครึ่ง 60:40

โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มผู้เสียภาษีรูปแบบพิเศษ แต่คำถามที่ยังคาใจใครหลายคนคือ “การเข้าร่วมโครงการนี้ มีผลกระทบกับภาษีหรือไม่?” บทความนี้ เราจะไขข้อข้องใจทุกประเด็น พร้อมสรุปสาระสำคัญ ณ วันที่ 9 กันยายน 2568 อย่างชัดเจน

รูปแบบ “คนละครึ่ง 60:40” คืออะไร? และทำไมต้องแยกกลุ่ม?

โครงการ “คนละครึ่ง” ถูกนำกลับมาปัดฝุ่นภายใต้แนวคิดใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอให้สนับสนุนประชาชนในสัดส่วนต่างกันตามสถานะภาษี ดังนี้

  • กลุ่มผู้เสียภาษี (อยู่ในระบบภาษี) ได้รับสิทธิ 60:40 (รัฐช่วยจ่าย 60% ผู้ใช้จ่ายเอง 40%)
  • ประชาชนทั่วไป (ที่ไม่อยู่ในระบบภาษี)  ยังคงได้รับสิทธิในสัดส่วน 50:50 เช่นเดิม

แนวคิดนี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็น “แรงจูงใจพิเศษ” สำหรับผู้เสียภาษี ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีส่วนร่วมต่อระบบรัฐสวัสดิการอยู่แล้ว  โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า แนวทางนี้จะต้องสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ กฎหมาย งบประมาณ และไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง

โครงการนี้คาดว่าจะเริ่ม “ภายในเดือนตุลาคม 2568” ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และใช้เงินที่จัดสรรไว้ในงบประมาณปี 2568 โดยรัฐบาลยืนยันว่า จะไม่มีการเก็บภาษีย้อนหลัง หากเข้าร่วมโครงการ

แล้ว “ผลทางภาษี” เป็นอย่างไร? ปรับใช้กับประชาชนทั่วไป และพ่อค้าแม่ค้าอย่างไร

  1. สำหรับผู้ใช้ทั่วไป (ไม่ใช่ผู้ค้า)
    การใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ไม่ได้เป็นรายได้โดยตรง จึงไม่มีผลกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ใช้ทั่วไป  ไม่ต้องกังวลว่ารัฐจะคิดว่าได้รับเงินสดใดๆ แล้วต้องถูกเก็บภาษีย้อนหลัง
  2. สำหรับพ่อค้าแม่ค้าหรือผู้ประกอบการรายย่อย
    กลุ่มนี้ที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะยอดขายที่ได้รับจากโครงการ (รวมทั้งส่วนที่ลูกค้าจ่ายและส่วนที่รัฐสมทบ) ถือเป็น “เงินได้พึงประเมิน” ตาม มาตรา 40 (8) ของประมวลรัษฎากร

ดังนั้นหากรายได้รวม (รวมจากคนละครึ่ง) เกินเกณฑ์ที่กำหนด (เช่น คนโสดเกิน 60,000 บาท/ปี หรือ คู่สมรสร่วมกันเกิน 120,000 บาท/ปี) ผู้ขายจะต้อง นำมารวมคำนวณภาษีเงินได้ตามกฎหมาย
          หากเป็นผู้มีรายได้มาก (เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี) ยังต้อง ยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพิ่มเติมด้วย ซึ่งก็คือแบบฟอร์ม ภ.พ.30 รายเดือน และต้องชำระภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

กลยุทธ์ เข้าใจง่ายใน 3 ประเด็น

กลุ่มผู้ใช้

 รูปแบบสิทธิ (รัฐ : ผู้ใช้) 

 ผลกระทบภาษี

ผู้เสียภาษี

60% : 40%

 ไม่มีผลโดยตรงต่อภาษีบุคคล
(ไม่ใช่รายได้)

ประชาชนทั่วไป

50% : 50%

 ไม่กระทบภาษี

พ่อค้าแม่ค้า/ผู้ประกอบการ

 รายได้จากโครงการต้องนำมารวมคำนวณภาษีตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

ข้อสังเกตเพิ่มเติมที่ควรรู้

  • ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สำหรับผู้ที่ “อยู่ในระบบภาษี” อยู่แล้ว สิทธิ์ 60:40 จะถูกปรับให้อัตโนมัติเมื่อถึงเวลาใช้จ่าย
  • รัฐยืนยันว่าโครงการจะดำเนินการทันตามกรอบเวลา ภายใน 4 เดือน หลังเปิดใช้จริง
  • ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่อง ภาษีย้อนหลัง นายกฯ ยืนยันว่ารัฐจะไม่มีการคิดเก็บย้อนหลังแต่อย่างใด

สิ่งที่ควรจับตาต่อไปคือ

  • สถานะของผู้ใช้สิทธิอยู่ในระบบภาษีหรือไม่ เพราะเป็นเกณฑ์สำคัญในการใช้สิทธิ 60:40
  • การเตรียมความพร้อมให้ร้านค้า กรณีมีรายได้เกินเกณฑ์จะต้องจัดทำเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่ายหรือหักเหมาให้ถูกต้อง
  • ติดตามว่าโครงการจะเปิดใช้ใน “เดือนตุลาคม 2568” ตามประกาศ โดยผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” และไม่มีภาษีย้อนหลังแต่อย่างใด

กล่าวโดยสรุป โครงการคนละครึ่ง 60:40 คือแนวทางปรับใหม่ของ "คนละครึ่ง" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแบ่งกลุ่มผู้ได้รับสิทธิอย่างชัดเจน ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี (เช่น มีการยื่นภาษีปกติ) ได้รับสัดส่วนอุดหนุนจากรัฐ 60% ส่วนที่เหลือจ่ายเอง 40% ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่อยู่ในระบบภาษี ยังคงสิทธิเดิมที่รัฐช่วยจ่ายครึ่ง (50%) ตามข้อกำหนดเดิม

สำหรับผู้ใช้ทั่วไปไม่มีผลกระทบเรื่องภาษีใดๆ เพราะไม่ได้ถือเป็นรายได้ตามกฎหมาย ขณะที่ พ่อค้าแม่ค้า/ผู้ประกอบการรายย่อย ต้องนำยอดขายที่ได้รับ (รวมถึงส่วนสมทบจากรัฐ) ไปคำนวณภาษีเงินได้ตามข้อกำหนด และหากรายได้สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อาจรวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่  Inflow Accounting   

ข่าวล่าสุด

กม.แรงงานใหม่มีผล7ธ.ค.เพิ่มสิทธิลาคลอดคู่สมรสลาได้เต็มจำนวน