posttoday

FED หักเลี้ยวแรง! ลดดอกเบี้ย–ยุติ QT สิ้นปีนี้ ส่งสัญญาณ "เลิกตึงมือ" หลังคุมเข้มกว่า 2 ปี

01 พฤศจิกายน 2568

เฟดประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 3.75–4.0% พร้อมยุติการลดงบดุล(QT)ภายใน 1 ธ.ค.68 ถือเป็นจุดเปลี่ยนนโยบายสำคัญในรอบกว่า 2ปี สะท้อน "พาวเวลล์" เริ่มหันมารักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมากกว่าต่อสู้เงินเฟ้อแต่เพียงด้านเดียว

KEY

POINTS

  • เฟดประกาศลดดอกเบี้ย 0.25% เหลือ 3.75–4.0%
  • พร้อมยุติการลดงบดุล (QT) ภายใน 1 ธ.ค.68 ถือเป็นจุดเปลี่ยนนโยบายสำคัญในรอบกว่า 2 ปี
  • สะท้อน "พาวเวลล์" เริ่มหันมารักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมากกว่าต่อสู้เงินเฟ้อแต่เพียงด้านเดียว

คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ The Federal Reserve System (Fed) มีมติ 10 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 3.75–4.0% พร้อมประกาศแผน ยุติการลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้

ถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางเชิงนโยบายครั้งสำคัญ หลังจากที่ Fed ดำเนินการคุมเข้มนโยบายการเงินมาต่อเนื่องยาวนานกว่า 2 ปี

ข้อมูลจากทีมวิจัยของหลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่า การยุติ QT เป็นสัญญาณสำคัญว่า Fed เริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากกว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อแต่เพียงด้านเดียว โดยการหยุดดูดซับสภาพคล่องนี้จะช่วยลดแรงกดดันในตลาดพันธบัตร และป้องกันไม่ให้สภาพคล่องในระบบการเงินตึงตัวเกินไป ซึ่งอาจกระทบต่อตลาดทุนและภาคธุรกิจในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า การลดดอกเบี้ยรอบนี้เป็นเพียง “การผ่อนคลายเชิงระมัดระวัง” เพราะ Fed ยังไม่เห็นสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวแรง

ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้เงินเฟ้อกลับมาสูงขึ้นอีก โดยปัจจุบัน Fed ยังคงถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ราว 90% ของระดับสูงสุดในปี 2565 ซึ่งสะท้อนว่า Fed ยังไม่ต้องการปล่อยสภาพคล่องออกมาจำนวนมากในทันที

เหตุผลหลักในการตัดสินใจลดดอกเบี้ย

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ มาจากหลายปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะความกังวลต่อภาวะ Government Shutdown หรือภาวะที่รัฐบาลกลางต้องหยุดการทำงานบางส่วน เนื่องจากสภาคองเกรสยังไม่สามารถอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทันเวลา ซึ่งอาจกระทบต่อการใช้จ่ายภาครัฐ การบริโภค และความเชื่อมั่นของประชาชน

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ และแนวโน้มการลงทุนของภาคเอกชนที่เริ่มชะลอตัว ยังเป็นอีกแรงกดดันที่ทำให้ Fed เห็นความจำเป็นในการ “ผ่อนแรงเบรก” ทางการเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเร็วกว่าที่คาดไว้

มุมมองจากนักวิเคราะห์

นักวิเคราะห์จากหลักทรัพย์บัวหลวงคาดว่า ในช่วงที่เหลือของปี Fed จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่ออย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยยังให้ความสำคัญกับการควบคุมเงินเฟ้อเป็นหลัก มากกว่าการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ตลาดการเงินคาดว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยได้อีกประมาณ 2 ครั้งภายในปีนี้

การยุติ QT ยังถูกมองว่าเป็น “สัญญาณเปลี่ยนพฤติกรรมของ Fed” ในเชิงสนับสนุนตลาดมากขึ้น เพราะการหยุดดูดซับสภาพคล่องจะช่วยลดแรงขายในตลาดพันธบัตร และอาจเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและทองคำในระยะสั้น

ท่าทีของประธาน Fed

นาย เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวย้ำในการแถลงข่าวว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ “ไม่ได้หมายความว่า Fed จะเข้าสู่รอบลดดอกเบี้ยรุนแรงหรือรวดเร็ว”

แต่เป็นการเปิดทางให้ Fed มี “ความยืดหยุ่นเชิงนโยบาย” เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดในช่วงต่อไป

นักวิเคราะห์บางรายมองว่า จุดดอกเบี้ยสูงสุดของรอบนี้ (Terminal Rate) ได้ผ่านไปแล้ว และทิศทางต่อไปคือการทยอยลดลงสู่ระดับที่ถือเป็น “ดอกเบี้ยกลางใหม่” (Neutral Rate) ซึ่งเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนโดยไม่ก่อให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อ

กราฟแสดงอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี

FED หักเลี้ยวแรง! ลดดอกเบี้ย–ยุติ QT สิ้นปีนี้ ส่งสัญญาณ "เลิกตึงมือ" หลังคุมเข้มกว่า 2 ปี

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”