อย่ามองข้าม! กู้บ้านอย่าลืมเช็กดอกเบี้ย! ใช้ลดหย่อนภาษีได้
"อย่ามองข้าม! ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดปีละ 100,000 บาท ช่วยประหยัดภาษีและวางแผนการเงินได้คุ้มค่าในระยะยาว"
การซื้อบ้านเป็นหนึ่งในเป้าหมายใหญ่ของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังแรกหรือบ้านหลังใหม่ที่ตอบโจทย์ชีวิตมากขึ้น แต่สิ่งที่มาพร้อมกับบ้านคือ “ภาระหนี้” โดยเฉพาะ “ดอกเบี้ยเงินกู้” ซึ่งมักกินเวลาหลายปี และแน่นอนว่าอาจกระทบกับสภาพคล่องทางการเงินไม่น้อยทีเดียว อย่างไรก็ตามหลายคนอาจยังไม่รู้ว่าดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อบ้านนั้น สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ไม่ควรมองข้ามเพราะสามารถช่วยประหยัดภาษีได้จริง และเมื่อคิดรวมตลอดระยะเวลากู้อาจเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
ในบทความนี้จะพาไปดูว่าเงื่อนไขในการลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านเป็นอย่างไร ใครมีสิทธิ์บ้าง และควรวางแผนอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด ก่อนจะยื่นภาษีประจำปีอย่าลืมกลับมาเช็กสิทธิ์ลดหย่อนในส่วนนี้ให้ดี เพราะอาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ทำให้มีเงินเหลือไปใช้ในสิ่งอื่นได้อีกมากมาย
สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย
ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท โดยสามารถใช้สิทธินี้ได้ทั้งในกรณีซื้อบ้านหลังแรกและกรณีที่มีการซื้อบ้านหลายหลัง
หากมีการกู้ร่วมกับผู้อื่นสิทธิในการลดหย่อนจะถูกแบ่งเฉลี่ยกันตามจำนวนผู้กู้ เช่น หากมีการชำระดอกเบี้ยเงินกู้จำนวน 120,000 บาทต่อปี และมีผู้กู้ร่วมทั้งหมด 2 คน แต่ละคนจะมีสิทธิหักลดหย่อนได้ไม่เกินคนละ 50,000 บาท แม้คนใดคนหนึ่งจะไม่มีรายได้หรือไม่ใช้สิทธิลดหย่อนก็ตาม สิทธิดังกล่าวก็ยังต้องเฉลี่ยกันเท่าๆ กัน และต้องอยู่ภายใต้กรอบสูงสุดที่ 100,000 บาทต่อปี
หลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีจากดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย
หลักเกณฑ์และวิธีการหักลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ตามมาตรา 47(1)(ซ) แห่งประมวลรัษฎากร สามารถอธิบายได้ดังนี้
- แหล่งเงินกู้ต้องอยู่ในประเทศไทย ดอกเบี้ยที่นำมาลดหย่อนได้ ต้องเป็นเงินกู้จากแหล่งที่ได้รับอนุญาตในราชอาณาจักร เช่น ธนาคาร บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต สหกรณ์ นายจ้างที่มีสวัสดิการกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย หรือบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
- วัตถุประสงค์ของการกู้ ใช้เพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างบ้าน/คอนโดบนที่ดินของตนเอง หรือที่ดินที่มีสิทธิครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือมือสอง ยกเว้นการกู้เพื่อซ่อมแซมบ้าน ไม่สามารถลดหย่อนได้
- ต้องมีการจำนอง บ้านหรือห้องชุดต้องถูกจำนองเป็นหลักประกันการกู้ โดยระยะเวลาจำนองต้องเท่ากับระยะเวลากู้ยืม
- กรณีกู้ซื้อบ้านหลายหลัง หากใช้เพื่ออยู่อาศัยทั้งหมดในปีภาษีนั้น สามารถลดหย่อนได้ทุกหลัง แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- ใช้สิทธิลดหย่อนได้ตามปีภาษี แม้จะมีการจ่ายดอกเบี้ยบางช่วงของปี ก็สามารถใช้สิทธิในปีภาษีนั้นได้ตามจำนวนดอกเบี้ยที่จ่ายจริง
- สามีภรรยาร่วมกันกู้ และมีรายได้ฝ่ายเดียว ผู้มีรายได้สามารถหักลดหย่อนเต็มจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
- ผู้มีรายได้ร่วมกันกู้ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ทุกคน โดยเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ รวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
หลักการคำนวณดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านเพื่อลดหย่อนภาษี
การคำนวณดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านเพื่อลดหย่อนภาษีมีหลักการสำคัญดังนี้
1. กรณีกู้ซื้อบ้านคนเดียวให้ตรวจสอบดอกเบี้ยที่ชำระในปีภาษีนั้น โดยดูจากใบเสร็จจากธนาคาร หรือหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อบ้านที่ธนาคารออกให้
ตัวอย่างเช่น ถ้าในปี 2567 จ่ายดอกเบี้ยรวมทั้งปี = 85,000 บาท
สามารถนำไปลดหย่อนได้ = 85,000 บาท ทั้งจำนวน แต่ถ้ากรณีที่จ่ายดอกเบี้ยรวมปีละ 150,000 บาท
สามารถลดหย่อนได้ สูงสุด 100,000 บาทเท่านั้น
2. กรณีที่มีการกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน เช่น สามีภรรยากู้ร่วมกัน ดอกเบี้ยที่จ่ายสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปีตามที่กฎหมายกำหนด และต้องแบ่งสิทธิลดหย่อนกันระหว่างผู้กู้ทั้งสองคนอย่างเหมาะสม
ตัวอย่างเช่น หากตลอดทั้งปีมีการจ่ายดอกเบี้ยรวม 120,000 บาท จะสามารถใช้ลดหย่อนได้สูงสุดเพียง 100,000 บาท โดยแบ่งกันคนละ 50,000 บาท แต่หากจ่ายดอกเบี้ยรวมกันแค่ 80,000 บาท ก็สามารถแบ่งลดหย่อนได้คนละ 40,000 บาทตามสัดส่วน
กล่าวโดยสรุป การกู้ซื้อบ้านไม่ได้มีแค่เรื่องการผ่อนจ่ายรายเดือนเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของดอกเบี้ยที่สามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย โดยดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยสามารถลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ซึ่งช่วยลดภาระภาษีได้
อย่างไรก็ตามการจะใช้สิทธินี้ได้ต้องเป็นเงินกู้ซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง การวางแผนภาษีจึงควรทำร่วมกับการเลือกกู้ให้เหมาะสม เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านที่อยู่อาศัยและการเงิน การเช็กอัตราดอกเบี้ยจากแต่ละธนาคารอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจจะช่วยให้ไม่พลาดโอกาสในการประหยัดทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ Inflow Accounting