posttoday

76 ปี วันสันติภาพไทยภายใต้วิกฤตผู้นำและคำนิยามสันติภาพ

16 สิงหาคม 2564

โดย...ผศ.ดร.พัทธ์ธีรา นาคอุไรรัตน์

***************************

“ถนน 16 สิงหาคม”  ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ หลักฐานสำคัญที่ประกาศให้ไทยได้เป็นอิสระจากกลุ่มประเทศที่ก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จารึกเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศไทยที่ถูกหลงลืมไปตามกาลเวลาและชุดความรู้ทางประวัติศาสตร์กระแสหลักของสังคมไทย เราอาจจะไม่ค่อยพบเรื่องราวของ “นายปรีดี พนมยงค์” ผู้ซื่อตรงจงรักภักดีต่อแผ่นดินไทยและประชาชนคนไทยยิ่งชีพ ทั้งเป็นผู้ที่ศรัทธาในสันติวิธีอย่างมียุทธศาสตร์แบบปัญญาปฏิบัติตลอดชีวิต ผลงานเรื่อง “พระเจ้าช้างเผือก” เป็นมรดกทางปัญญาเล่มสำคัญที่สะท้อนหลักฐานชีวิตและปัญญาปฏิบัติด้วยสันติวิธีของท่านที่สังคมไทยแทบไม่รู้จัก ทั้งยังเป็นงานที่สะท้อนให้เห็นว่าวิธีการแสดงออกซึ่งความรักและปรารถนาดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ที่จะส่งเสริมเกียรติยศเกียรติภูมิของสถาบันหลักในสังคมไทยให้ดำรงในธรรมอย่างยั่งยืนนั้นควรทำอย่างไร

ประเทศไทยจะไม่อาจจารึกหรือเล่าขานประวัติศาสตร์ว่าเราไม่ได้ตกเป็นอาณานิคมหรือเป็นทาสใครได้เลย หากนายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มิได้เสี่ยงชีวิต “ประกาศสันติภาพ” “ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลให้การประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 เป็นโมฆะ เนื่องจากเป็นการกระทำอันขัดต่อเจตจำนงของประชาชนและขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งประชาชนชาวไทยทั้งในและนอกประเทศได้ร่วมกันแสดงเจตจำนงไม่ยอมรับคำประกาศดังกล่าวด้วย”

ปรีดีเป็นผู้นำจัดตั้งขบวนการเสรีไทยช่วยเหลือฝ่ายสัมพันธมิตรในการต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นที่ยึดครองประเทศไทยอยู่ในระหว่างสงคราม ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 โดยที่ประเทศไทยประกาศว่าจะร่วมมือเต็มที่ทุกทางกับ  “สหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้” ซึ่งประกาศสันติภาพดังกล่าวนั้นมี นายทวี บุณยเกตุ รัฐมนตรี เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ เป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ประเทศไทยได้กลับมาอยู่ในร่องรอยแห่งสันติภาพ

กล่าวได้ว่า นายปรีดี พนมยงค์ เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ กล้าหาญยอมเสี่ยงภัยเพื่อจะรักษาไว้ซึ่งหลักการอันเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของปวงชนชาวไทย คุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ปรีดี พนมยงค์ยอมสละซึ่งความสุขสบายส่วนตัวและครอบครัวเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยด้วย “เค้าโครงการเศรษฐกิจแบบปรีดี พนมยงค์” ซึ่งได้รับการสานต่อด้วยแผนดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน “จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” ซึ่ง ป๋วย อึ้งภากรณ์เป็นกำลังสำคัญ ที่สำคัญ ปรีดี พนมยงค์ ใช้ความเป็นผู้นำของท่านในการเจรจาต่อรองเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยให้ดำรงอยู่มาได้ไม่ต้องตกเป็นฝ่ายเดียวกับประเทศผู้แพ้สงครามอันจะทำให้ไทยต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามเป็นเงินจำนวนมหาศาลอย่างเช่นที่เยอรมนีแกนนำสงครามต้องชดใช้หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2   

76 ปีวันสันติภาพไทยที่ผ่านมา ถนนสันติภาพไทยกระท่อนกระแท่นด้วยความรุนแรงและการกดปราบประชาชนเป็นระยะ ๆ กระทั่งปัจจุบันที่เราอยู่ในภาวะสงครามโรคระบาดซึ่งไม่ใช่สงครามอาวุธในแบบเดิม ๆ ความท้าทายของไทยที่จะออกจากวังวนของสงครามนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าศักยภาพของผู้นำมีส่วนสำคัญ ศักยภาพที่ว่านั้นหมายถึงจินตนาการ วิธีการและปฏิบัติการอย่างมียุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนตั้งแต่ในระดับสุขภาวะของบุคคลที่เป็นทั้งสมาชิกของสังคมการเมืองระดับประเทศและระดับโลกในเวลาเดียวกันนั้น

สันติภาพในสังคมไทยกลับเปราะบางและสุ่มเสี่ยงยิ่งนักจากภาวะวิกฤติผู้นำปัจจุบันที่กำลังก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับประชาชนของตนเองในทางการเมืองการปกครองและการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม และ การบริหารจัดการกับโรคระบาดที่ล้มเหลวส่งผลต่อการเจ็บป่วยล้มตายของประชาชนคนไทยจำนวนมาก คำถามสำคัญย้อนกลับมาที่ประชาชนและสังคมไทยว่า เราจะฉลองวันสันติภาพไทยกันอย่างไร สันติภาพแบบใดที่สังคมไทยต้องการ ถึงเวลาที่เราต้องร่วมกันนิยามคำว่าสันติภาพแบบใหม่ที่คงมิใช่เพียงแค่ “ความสงบเรียบร้อย” ตามแบบนิยามสันติภาพในความหมายของความมั่นคงทางทหารแต่กดทับศักดิ์ศรีและคุณภาพชีวิตที่ดีไว้ภายใต้วาทกรรมความสงบที่คุกรุ่นอึดอัด  

หากแต่เราคงต้องการ “สันติภาพ” ในความหมายที่กินความกว้างตั้งแต่สุขภาพและความอยู่ดีกินดีในสังคมเสรี มีอิสรภาพ มีระบบความยุติธรรมที่เป็นธรรมและตรวจสอบได้ ไม่ตกเป็นทาสการกดขี่ภายใน มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เสมอภาคกันทุกชั้นชน

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ