ทีเดียวเลือก 3 อย่าง
การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึง มีเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อย
เรื่อง ณ กาฬ เลาหะวิไลย
การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมาถึง มีเรื่องที่น่าติดตามไม่น้อย
สาเหตุสำคัญเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกฎ กติกา มารยาท ต่างๆ มากมาย
เรียกว่าเป็นการ เซตซีโร่ เริ่มต้นกระบวนการใหม่
ที่เคยเป็นมาตั้งแต่ปี 2540 แก้ไข รื้อใหม่หมด
บางอย่างก็กลับไปใช้แบบดั้งเดิม บางอย่างก็กำหนดขึ้นมาใหม่ ให้ทดลองกันอีกหน
และประเด็นที่น่าสนใจ เป็นการกำหนดว่าแต่ละพรรค จะต้องเสนอชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีด้วย
แต่ละพรรคมีโอกาสเสนอได้ 3 ชื่อ
นั่นหมายความว่า ชาวบ้านจะมีโอกาสเห็นหน้าค่าตานายกฯ คนใหม่ โดยไม่ต้องไปคาดเดาว่าใครจะได้เป็น
ทั้งหมดจะได้รู้ตั้งแต่แรก ใครจะมาบริหารบ้านเมือง เพราะบางพรรค หัวหน้าพรรคเป็นอีกคน แต่คนที่จะเป็นนายกฯ ก็อีกคน
ผลที่ตามมาทำให้มองได้ว่า การเลือกตั้งนี้จะเป็นการเลือกนายกฯ ด้วยไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่เฉพาะเลือกพรรค หรือตัวผู้สมัครเท่านั้น
ยิ่งในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กำหนดว่า จะต้องมีการสรรหานายกฯ กลางสภา ก็ยิ่งทำให้ตัวบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อของแต่ละพรรคมีความสำคัญ
พรรคที่ได้รับเสียง สส.มากสุด อาจไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อของพรรคนั้น อาจไม่ได้เป็นนายกฯ ก็ได้
เงื่อนไขสำคัญ พรรคใด กลุ่มใด จะหาเสียงสนับสนุนในสภาได้มากกว่ากัน
เป็นเสียง สส. 500 คน และ สว.อีก 250 คน รวม 750 คน
แพ้-ชนะ ก็อยู่ที่การหาเสียงสนับสนุนเกิน 375 เสียงขึ้นไป
บทบาท ชื่อ ของบุคคลที่จะได้รับการเสนอเป็นนายกฯ จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการคัดเลือกลางสภา
นาทีนี้จึงอยู่ที่เป็นการแข่งขันของพรรคใหญ่
เท่าที่ประกาศตัวแล้ว อาทิ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ, ชัยเกษม นิติสิริ, ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ฯลฯ
ในวันที่ 8 ก.พ. หากโผไม่พลิก พรรคพลังประชารัฐ จะเสนออีก 3
ไล่เรียงตามลำดับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อุตตม สาวนายน, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
แต่แม้เสนอชื่อ 3 คน ทว่า อันดับ 1 ที่จะให้ชาวบ้านเลือกก็ไม่พ้น พล.อ.ประยุทธ์
เท่ากับว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ มาให้ชาวบ้านเลือกด้วย จะเอาหรือไม่
ถ้าชอบก็สนับสนุนพลังประชารัฐ หากไม่ชอบก็สนับสนุนพรรคอื่น
เป็นแบบที่ว่า ก็ง่ายๆ ดี
สิ่งที่จะตามมาก็คือ การเลือกตั้งในเดือน มี.ค. ก็มีปัจจัยชื่อของว่าที่นายกฯ มาเป็นตัวแปร
สร้างปรากฏการณ์ เลือกตั้งครั้งเดียว กลายเป็นเลือก 3 อย่าง คือเลือก สส. เลือกพรรค และเลือกนายกฯ
และผลที่ตามมาอีกอย่างก็คือ เลือกฝ่ายค้านด้วยเช่นกัน