posttoday

62 ปีสยอง

04 มกราคม 2562

ปี 2562 นี้ถือเป็นปีที่มีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้ามากมายทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงน่าเป็นห่วงว่ารัฐบาลใหม่

เรื่อง กัปตัน ป.

ปี 2562 นี้ถือเป็นปีที่มีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้ามากมายทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ จึงน่าเป็นห่วงว่ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศจะสามารถรับมือตั้งรับได้หรือไม่ ปัญหาแรกที่ทั่วโลกกำลังเผชิญคือ กระบวนการทำลายล้างอย่างสร้างสรรค์ใหม่ของเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ได้นำโลกไปสู่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิต การค้า การลงทุน การสื่อสาร คมนาคม หรือแม้แต่ด้านความมั่นคงไปสู่รูปแบบบิตหรือดิจิทัลมากขึ้น จากความก้าวหน้าของการทำงานของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่เข้ามาทดแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งมีทั้งผลกระทบด้านลบและด้านบวกผสมกันไป

สิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน แม้ดิจิทัลจะช่วยเพิ่มศักยภาพหรือประสิทธิภาพการผลิตให้สูงขึ้นพร้อมนำมาด้วยความสะดวกสบายต่างๆ มากมาย แต่ก็ต้องแลกด้วยการปลดแรงงานจำนวนมหาศาลตามมาเช่นกัน คำถามคือ แล้วจะดูแลหรือเยียวยาแรงงานเหล่านี้อย่างไร พร้อมๆ กับเกิดอาชีพใหม่ๆ จากความล้ำหน้าของดิจิทัลเกิดขึ้นมากมายที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะมีอาชีพใหม่ๆ อะไรบ้าง แล้วระบบการศึกษาไทยจะปรับตัวได้เท่าทันหรือไม่ เป็นโจทย์ในการปฏิรูปการศึกษา

ปัญหาความเหลื่อมล้ำต่ำสูงระหว่างคนรวยกับคนจนจะขยับห่างมากขึ้นเรื่อยๆ การถือครองทรัพย์สินและรายได้จะกระจุกตัวอยู่กับคนเพียงกลุ่มเดียวราว 1% ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะในไทย ยิ่งสถานการณ์การเมืองโลกขณะนี้ร้อนระอุระหว่างมหาอำนาจโลก ที่พยายามแสดงกำลังทะเลาะกันหนักเพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำโลก นั่นคือระหว่างมหาอำนาจโลกที่วันนี้แตกออกเป็นสองขั้ว ฝ่ายแรก คือ สหรัฐอเมริกากับพันธมิตรชาติยุโรป กับฝ่ายประเทศจีนกับชาติพันธมิตรรัสเซียผนึกกับชาติอาเซียนบางส่วน ที่ต่างทำสงครามตัวแทนกันในพื้นที่รัฐกันชน เป็นสงครามสู้รบกันในบางประเทศ รวมถึงต่างขับเคี่ยวเพื่อเอาชนะทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า และความมั่นคง ที่เป็นสงครามตัวแทนรูปแบบใหม่เกิดขึ้นไปทั่วโลก

นั่นคือสงครามไซเบอร์ที่ต่างฝ่ายต่างต้องการพยายามทะลุทะลวงเพื่อล้วงลึก และเจาะเอาความลับของแต่ละฝ่ายออกมาสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งกันและกัน เช่น ล้วงและแฮ็กข้อมูลด้านเศรษฐกิจ การเงิน และความมั่นคง ที่ต่างฝ่ายต่างพยายามฟาดฟันกันอยู่ในตอนนี้ แน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ต้องเลือกถือข้างใดข้างหนึ่ง การวางตัวจึงเป็นเรื่องสำคัญ

สำหรับประเทศไทยที่เห็นชัดกระบวนการทำลายล้างทางเทคโนโลยีกำลังเกิดขึ้นในหลายสาขาอาชีพที่ตกในสภาพสุ่มเสี่ยงเตะฝุ่นไร้งานทำ เช่น ธุรกิจสื่อกับธุรกิจธนาคาร ที่ต่างเริ่มปลดคนงานแล้วนำเทคโนโลยีมาทดแทนแรงงานคนกันแล้ว แน่นอนย่อมนำมาซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก

กล่าวกันว่าคนรวย 1% ครอบครองรายได้และทรัพย์สินเป็น 66% ของทั้งประเทศ ความแตกต่างระหว่างคนจนกับคนรวย 1% จึงห่างกันเหมือนท้องฟ้ากับมหาสมุทร แม้จะมีนโยบายแจกเงินก็ไม่ได้ลดความเหลื่อมลํ้าให้ลดลงได้

ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศกำลังแตกออกเป็นสองขั้วเช่นเดิมเหมือนที่เคยเป็นมา จากเดิมเราเคยทะเลาะกันเรื่องสีเสื้อระหว่างแดงหรือเหลือง แต่มาวันนี้แตกขั้วการเมืองกันระหว่างเอาหรือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปหรือไม่ ส่วนจะลุกลามบานปลายเป็นวิกฤตทางการเมืองระลอกใหม่หรือไม่ คงต้องจับตากันต่อไปโดยมีผลเลือกตั้งเป็นตัวชี้วัด