posttoday

จะไปยุ่งทำไมกัน

30 พฤศจิกายน 2561

กลายเรื่องเป็นราว เมื่อเกิดการคัดค้านไม่ให้นำกิจการ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ หรือเอสไอเอสบี (SISB) เข้าตลาดหลักทรัพย์

เรื่อง...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

กลายเรื่องเป็นราว เมื่อเกิดการคัดค้านไม่ให้นำกิจการ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ หรือเอสไอเอสบี (SISB) เข้าตลาดหลักทรัพย์

เหตุที่ยกขึ้นมาก็คือ กิจการโรงเรียนได้รับสิทธิยกเว้นภาษี และหากเข้าตลาดหุ้นจะมุ่งแต่กำไร จนสุดท้ายก่อให้เกิดปัญหาสารพันตามมา

แต่เรื่องนี้ต้องมองอีกแง่เช่นกัน

เริ่มจากกิจการโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาเอกชนไม่ใช่ใครทำก็ทำได้ เป็นธุรกิจที่หนักหนาเอาการ เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริการพื้นฐานของรัฐ

โรงเรียนเอกชนจึงต้องมีจุดแข็งของตัวเอง เนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วราคาค่าเล่าเรียนแพง

นั่นหมายความว่า จะจับกลุ่มผู้ปกครองที่มีกำลังซื้อได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น

ค่าเทอมปีละหลายแสน หรือใกล้ๆ เฉียดล้านบาท คนชั้นกลางธรรมดาไม่มีสิทธิ

ในปัจจุบันกลไกตลาดจึงเป็นสิ่งกำหนดอยู่แล้ว เด็กจะเรียนโรงเรียนอะไร ที่ไหน

การเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนที่มีชื่อ ผู้ปกครองมองแล้วคุ้ม

และแน่นอนการที่จะเกิดความคุ้มได้ โรงเรียนก็ต้องลงทุน ทั้งอุปกรณ์ ครู สถานที่

เงินที่ลงทุนไปนั่นแหละคือต้นทุนที่กว่าจะได้คืน ต้องใช้ระยะเวลาที่ยาว

การเข้าไประดมทุนในตลาดหุ้นก็หมายถึงการได้เงินทุนที่ไม่มีดอกเบี้ย มาใช้สำหรับการขยายเครือข่ายของโรงเรียน

เฉพาะค่าดอกเบี้ยที่ไม่ต้องเสียจากการระดมทุน เป็นความได้เปรียบทั้งในแง่ฐานเงินทุน ที่จะเอาไปขยาย หรือสร้างเครือข่ายโรงเรียน

ส่วนการได้รับสิทธิภาษี ไม่ว่าจะเข้าตลาดหุ้นหรือไม่โรงเรียนก็ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าไม่เข้าตลาดหุ้น สิทธินี้ตกอยู่ที่เจ้าของกลุ่มเดียว แต่หากเข้าตลาดหุ้นสิทธิจะตกในวงกว้างกว่าเดิม

ในหลายประเทศมีกิจการโรงเรียน สถาบันการศึกษาเข้าตลาดหุ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกแห่งจะประสบความสำเร็จ โกยเงินเข้ากระเป๋าเป็นกอบเป็นกำเหมือนกับที่กำลังพูดกัน

ถ้าของดี ราคาแพง แม้ราคาแพงคนก็พร้อมเข้าไปใช้บริการ แต่ถ้าของไม่ดี ราคาแพงใครจะเข้าไป

ที่สำคัญหากกิจการโรงเรียนเฟื่องฟู ก็ย่อมจะทำให้มีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาด เกิดการแข่งขันทั้งด้านคุณภาพบริการ และราคา

ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ลำพังรัฐบาลคงไม่สามารถให้บริการด้านการศึกษาที่มากกว่าเดิมได้อีก จากสารพันปัญหาโดยเฉพาะงบประมาณแผ่นดิน

การที่เอกชนเข้ามาลงทุน สร้างจุดแข็ง สร้างระบบการศึกษาทางเลือกให้ผู้ปกครองที่มีกำลังพอจะส่งลูกเข้าเรียน เป็นสิ่งที่ถูกต้อง น่าสนับสนุนเสียด้วยซ้ำ

ตลาดหุ้นก็เป็นกลไกที่จะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจโรงเรียนเอกชนลดต่ำลง

นอกจากนั้นโรงเรียนยังต้องอยู่ภายใต้กำกับของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนของเอกชนสัญชาติไทย หรือต่างชาติ

ปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน และรัฐเข้าไปดูแลสิ่งที่ควรทำดีกว่า

อย่าไปจุ้นไปจ้านกันจนมากเกิน