เอไอเลือกให้

เรื่อง...มะกะโรนี 

เมื่อเห็นข่าวกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) แถลงด้านความพร้อมในการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา (TCAS) ประจำปีการศึกษา 2562 โดยปีที่จะถึงนี้ ถึงกับประกาศใช้ระบบสารสนเทศที่ตอบสนองความต้องการของนักเรียน ผู้ปกครอง และทางโรงเรียน เป็นช่องทางให้นักเรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกมากขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือจะใช้ระบบ AI (ย่อมาจาก Artificial Intelligence) มาช่วยจัดการข้อมูลอย่างเต็มขั้นนั่นเอง

หลายท่านคงทราบแล้วว่าเอไอเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถคล้ายมนุษย์หรือเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ ระบบเอไอตามที่ ทปอ.บอกว่าจะนำมาช่วยประเมินความเหมาะสมสาขาที่เรียน โดยโปรแกรมดังกล่าวจะช่วยวิเคราะห์ความถนัดและวัดแววแนวทางการศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา เพื่อบอกว่าคณะสาขาที่นักเรียนเลือกนั้นเหมาะสมสอดคล้องมากน้อยขนาดไหน

ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่กำลังเป็นอยู่นั้น แสดงให้เห็นแล้วว่าเอไอมีสายสัมพันธ์กับบิ๊กดาต้าอย่างลึกซึ้ง เทคโนโลยีบิ๊กดาต้านั้นถูกผนวกเข้ากับนวัตกรรมเอไอ โดยการจัดการให้ระบบสามารถแยกแยะข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างอัตโนมัติ ได้เพิ่มความรวดเร็วในการหาแพตเทิร์นหรือคำตอบจากข้อมูลได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว บิ๊กดาต้าเป็นรากฐานสำคัญของการทำงานของเอไอ แบบที่เราคุ้นเคยกันดีจาก Siri Google Assist หรือ Alexa

ที่ผ่านมาสินค้าบางยี่ห้อใช้เอไอศึกษาความต้องการของผู้บริโภค เครื่องดื่มบางยี่ห้อถึงกับใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้ามาออกผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่

มีรายงานเช่นกันว่าแผนกบุคคลของบริษัทบางแห่งได้ใช้เอไอช่วยเฟ้นหาพนักงานที่มีแนวโน้มว่าจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในตำแหน่งงานนั้นๆ หรือตรวจสอบว่าพนักงานคนใดเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกับบางตำแหน่งงานในช่วงสองสามปีข้างหน้า ข้อมูลที่รวบรวมไว้ทำให้สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์เกี่ยวกับบุคลากร หรือกระทั่งสร้างแบบจำลองความเสี่ยงที่พนักงานจะลาออก

ในทางกลับกันว่ากันว่าองค์กรใดสามารถเชื่อมโยงข้อมูลอย่างหลากหลายครบถ้วน ยืดหยุ่นให้กับแบบจำลองสำหรับประเมินผลตรวจจับแบบแผนและความผิดปกติ ในชุดข้อมูลทุกขั้นตอน รวมถึงมีข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ก็ย่อมสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรหาบุคลากร

ธุรกิจยุคเอไอบิ๊กดาต้ากำลังบอกเราว่าใครมีข้อมูลมากกว่าแล้วสามารถวางแผนหรือหาวิธีใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ไปต่อได้

กรณีที่ ทปอ.ใช้เอไอเข้ามาช่วยในการคัดเลือกคณะสาขาให้นักเรียน จะได้รับการยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจแทนตัวนักเรียน เด็กควรจะเลือกคณะที่เหมาะสมกับตนเองจากหลายองค์ประกอบสำคัญ

เชื่อว่าระบบที่ ทปอ.คิดขึ้นนั้นมีความตั้งใจดีและช่วยเด็กส่วนใหญ่ได้ แต่หากคิดในอีกด้านหนึ่ง คิดไปถึงเด็กมัธยมแถวสองที่ต้องเข้าสู่ระบบแข่งขันแบบเสียไม่ได้ ก็ยิ่งน่าคิดว่าเด็กกลุ่มนี้อาจจะยิ่งถูกเอไอชี้และตีตราว่า เกรดหรือผลการเรียน ความสามารถในการสอบที่ได้คะแนนไม่สูงมาก เรียนได้แต่สาขาที่ไม่มีใครเลือก เสี่ยงตกงาน ฯลฯ

เห็นผู้ใหญ่แวดวงการศึกษามากมายชอบออกมาบอกว่าโลกยุคใหม่ไม่ได้สนใจใบปริญญาอีกต่อไปแล้ว คนรุ่นใหม่มากมายประสบความสำเร็จในการทำงาน ในธุรกิจ โดยที่ไม่ต้องพึ่งกระดาษใบนี้อีกต่อไปแล้ว คำพูดดังกล่าวดูจะสวนทางกับสิ่งที่เอไอกำลังทำอยู่ชอบกล และน่าจะมีคำอธิบายที่ช่วยพาไปหาทางออกมากกว่านี้นะครับ

สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจบอกกับตัวเองว่าเรากำลังอยู่ในยุคที่ถูกเอไอเลือกให้ ตั้งแต่ห้องเรียนไปจนห้องทำงาน จะน่าแปลกใจอะไรถ้าในอนาคตจะมีห้องอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีก