posttoday

อานิสงส์ถ้วนหน้า

28 พฤศจิกายน 2561

ย่างเข้าช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ รัฐบาลทุกชุดมักมีนโยบายส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในช่วงสิ้นปีอยู่เสมอ

เรื่อง...สลาตัน

ย่างเข้าช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ รัฐบาลทุกชุดมักมีนโยบายส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในช่วงสิ้นปีอยู่เสมอ เหมือนเช่นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ออกแพ็กเกจมอบของขวัญให้ประชาชนกันยกใหญ่ อันนี้แค่เบาะๆ เดี๋ยวใกล้สิ้นปียังมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนอีกระลอกใหญ่ เรียกว่าลดแลกแจกแถมกระหน่ำกันสุดๆ ไปเลย

หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะประชุมติดตามงานของทบวง กรม ต่างๆ จนที่ประชุมมีการอนุมัติเกือบกว่าแสนล้านบาท แจกจ่ายประชาชนหลายกลุ่ม แบบว่าจัดเต็มทั่วถึงกลุ่มรากหญ้ารากแก้วทั้งแผ่นดิน

โดยเฉพาะกลุ่มคนจนกว่า 14.5 ล้านคน ที่มีชื่ออยู่ในระบบลงทะเบียนในระบบโครงการประชารัฐผ่านบัตรลงทะเบียนคนจนรอบนี้ต่างได้ประโยชน์จากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลนี้อย่างดี

เริ่มต้นตั้งแต่เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายปลายปีที่รัฐบาลมอบให้ฟรีๆ 500 บาท/คน เป็นวงเงินถอนได้ แต่ให้ครั้งเดียวในเดือน ธ.ค. 2561 มีผู้ได้รับประโยชน์ 14.5 ล้านคน งบประมาณ 7,200 ล้านบาท

ถัดมาค่าสาธารณูปโภคในครัวเรือนอย่างค่าน้ำ-ค่าไฟไม่เกินเกณฑ์ ได้ใช้ฟรี 10 เดือน โดยแยกเป็นค่าน้ำ 100 บาท/เดือน และค่าไฟ 230 บาท/เดือน ไม่สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ มาตรการนี้จะเริ่มให้กับประชาชนช่วงเดือน ธ.ค. 2561-ก.ย. 2562 จะมีผู้ได้รับประโยชน์ 8.5 ล้านครัวเรือน งบประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท

มาตรการต่อมาเรียกว่าเอาใจคน สว.หรือผู้สูงวัย สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าเช่าบ้าน 400 บาท/คน/เดือน เป็นวงเงินถอนได้ รัฐบาลจะเริ่มแจกจ่ายตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561-ก.ย. 2562 รวม 10 เดือน มีผู้ได้รับประโยชน์ 2.3 แสนราย งบประมาณ 920 ล้านบาท

เขยิบต่อมามาตรการค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 1,000 บาท/คน วงเงินสามารถใช้ถอนได้ แต่มีเงื่อนไขคือให้ครั้งเดียวในเดือน ธ.ค. 2561 มีผู้ได้รับประโยชน์ 3.5 ล้านคน งบประมาณ 3,500 ล้านบาท

ซึ่งมาตรการที่ยกมาบอกข้างต้นจะถูกโอนเข้า “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือที่หลายคนรู้จักคุ้นปากว่า “บัตรคนจน” ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทะเบียนที่มีชื่อในระบบได้รับอานิสงส์จากมาตรการข้างต้นแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เรียกว่าตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีนี้เป็นต้นไป กลุ่มคนเหล่านี้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างมหาศาลผ่านมาตรการช่วยเหลือคนจนอย่างแท้จริง

ส่วนกลุ่มชาวเกษตรกรที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยก็ไม่น้อยหน้า ต่างได้รับมาตรการดูแลสินค้าทางเกษตรเช่นกัน โดยแบ่งเป็นกลุ่มยางพาราและปาล์มน้ำมัน โดยกลุ่มยางพารารัฐบาลให้เงินช่วยเหลือไร่ละ 1,800 บาท แต่ไม่เกิน 15 ไร่ แบ่งให้เจ้าของสวนยาง 1,100 บาท และคนกรีดยาง 700 บาท มีผลเดือน ม.ค. 2562 วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท

มาตรการลดสต๊อกปาล์มน้ำมัน โดยให้ กฟผ.ซื้อปาล์มน้ำมันผลิตไฟฟ้า 1.6 แสนตัน ตั้งแต่เดือน ก.พ.- เม.ย. 2562 โดย กฟผ.จะได้รับเงินชดเชยส่วนต่าง 525 ล้านบาท

ขณะเดียวกันยังมีมาตรการช่วยเหลือข้าราชการเกษียณที่รับบำนาญ โดยให้ข้าราชการบำนาญสามารถนำบำเหน็จตกทอด 30 เท่าของเงินเดือนมาใช้เป็นบำเหน็จดำรงชีพได้เป็นครั้งที่ 3 อีก 1 แสนบาท มีผู้ได้สิทธิ 6.59 แสนคน รวม 2 หมื่นล้านบาท

ยังมีมาตรการช่วยเหลืออีกจำนวนมากที่รัฐบาลทุบโต๊ะเคาะช่วยเหลือประชาชน มอบประโยชน์และความสุขให้กับคนไทยในช่วงใกล้ปีใหม่นี้ แม้ว่าฝ่ายนักการเมืองจะมองว่าเป็นการ “หาเสียง” แต่ในยามเศรษฐกิจทรงตัวเช่นนี้ไม่ว่ารัฐบาลออกมาตรการใดมา ถือว่าประชาชนคือผู้ได้รับประโยชน์