posttoday

ฝูงห่านที่มักถูกลืม

14 พฤศจิกายน 2561

ปัญหาในวงการตลาดหุ้นที่กำลังรอแก้ไขก็คือ การที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือแอลทีเอฟ กำลังจะสิ้นสุดอายุการลดหย่อนในปี 2562

เรื่อง...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

ปัญหาในวงการตลาดหุ้นที่กำลังรอแก้ไขก็คือ การที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือแอลทีเอฟ กำลังจะสิ้นสุดอายุการลดหย่อนในปี 2562

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ขอให้ตั้งกองทุนประเภทใหม่มาทดแทน

หากจู่ๆ ยกเลิกแอลทีเอฟไป อาจทำให้เกิดปัญหาความปั่นป่วนในตลาดหุ้น เนื่องจากหุ้นจำนวนมหาศาลจะต้องถูกเทขายออกมา

ขณะเดียวกัน การลงทุนในตลาดหุ้นอาจลดความคึกคัก เนื่องจากไม่มีแรงจูงใจด้านภาษี

สิ่งที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเสนอก็คือ ให้จัดตั้งกองทุนประเภทใหม่ โดยลดสิทธิทางภาษีลงมากกว่าเดิม

เริ่มจากการซื้อกองทุนประเภทใหม่จะลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ในอัตราสูงสุด 20% ของเงินลงทุน แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท และการลดหย่อนต้องไม่เกินภาระภาษีที่ต้องจ่าย

ตัวอย่างเช่น หากผู้ลงทุนต้องจ่ายภาษี 5 หมื่นบาท ถ้ามีการลงทุนซื้อกองทุน 1 แสนบาท จะได้ภาษีคืน 20% หรือ 2 หมื่นบาท เหลือภาษีที่ต้องจ่าย 3 หมื่นบาท

แต่ถ้าผู้ลงทุนไปซื้อกองทุนและคืนภาษีได้ 1 แสนบาท การขอคืนภาษีก็จะได้แค่ 5 หมื่นบาท เท่ากับอัตราที่ต้องจ่ายภาษี

ทั้งหมดจะทำให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ว่าจะมีรายได้มากหรือน้อย โดยเดิมแอลทีเอฟลดภาษีได้สูงสุดถึง 5 แสนบาท และลดหย่อนตามอัตราภาษีที่จ่าย ยิ่งจ่ายภาษีแพงก็ลดหย่อนได้มาก

กองทุนใหม่จะต้องลงทุนขั้นต่ำ 10 ปี ยาวกว่าแอลทีเอฟที่กำหนดไว้ 7 ปีปฏิทิน

เม็ดเงินที่ได้จากการซื้อกองทุนแบบใหม่ 50% จะนำไปลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ออกโดยภาครัฐเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของประเทศ และลงทุนในหุ้นที่อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ที่เหลืออีก 50% ให้สิทธิบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เลือกลงทุนอย่างอิสระ

และว่าไปแล้ว ข้อเสนอการหักภาษีเพื่อการลงทุนในตลาดหุ้นแบบนี้ มองได้หลายแง่มุม

ในแง่แรก การนำเงินภาษีไปช่วยเหลือสำหรับการซื้อหุ้น อาจถูกโจมตีเอื้อแก่คนกลุ่มเดียวที่มีสิทธิมีโอกาสในการซื้อหุ้น ตาสี ตาสา ชาวไร่ชาวนาไม่มีสิทธิ

แต่ในทางกลับกัน การลดหย่อนภาษีดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือให้กับมนุษย์เงินเดือน ซึ่งเป็นผู้ที่จ่ายภาษีให้รัฐบาลอย่างเป็นกอบเป็นกำสม่ำเสมอ

มนุษย์เงินเดือน ยังเป็นผู้ที่หมดสิทธิหลบภาษีด้วยสารพัดวิธี

ยิ่งไปมองถึงสัดส่วนที่ภาครัฐจ่ายคืนให้มนุษย์เงินเดือน ต้องบอกว่า น้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยบางกลุ่มไม่ต้องเสียเงินภาษี แต่ยังได้สิทธิใช้ประโยชน์จากภาษีที่มนุษย์เงินเดือนต้องจ่ายอย่างมากมาย

การให้สิทธิมนุษย์เงินเดือนในด้านภาษีอย่างตรงไปตรงมา จึงไม่ใช่สิ่งที่น่าเกลียด

และแสดงให้เห็นว่าแม้จะโดนถอนขนเป็นประจำในทุกๆ เดือน

แต่ก็ไม่ได้เป็นห่านที่ถูกลืม